สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ จัดฟันแบบใส ใน กรุงเทพมหานคร
การจัดฟันใส (Invisalign) คือการใช้เครื่องมือจัดฟันแบบใส ที่สามารถถอดออกได้ โดยถูกออกแบบมาเพื่อแต่ละบุคคล ทำให้คุณได้มีรูปหน้าที่สวยงาม รวมไปถึงการได้รับความรู้สึกถึง ความสะดวกสบายที่มากขึ้นในการจัดฟัน ในปัจจุบัน บริษัทที่เป็นที่ยอมรับในการผลิตเครื่องมือการจัดฟันแบบใสที่ขึ้นชื่อที่สุดนั่นคือ Invisalign เป็นบริษัทที่ผลิตเครื่องมือชนิดนี้ และเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของนวัตกรรมเทคโนโลยีการจัดฟัน โดยเครื่องมือจัดฟันจะถูกออกแบบด้วยระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์ ในการแสกนรวมถึงการจัดทำแม่พิมพ์ฟันที่ง่ายขึ้น
ทำให้ง่ายต่อการจัดทำอุปกรณ์จัดฟันตมแผนการรักษาระยะยาว ภายในการจัดทำแค่ครั้งเดียว และทำให้ฟันจะค่อย ๆ เรียงดีขึ้นหลังจากการเปลี่ยนเครื่องมือทุก 2 ถึง 3 อาทิตย์ ทั้งนี้เนื่องจากการจัดฟันใสสามารถถอดออกได้ จึงทำให้ง่ายต่อการแปรงฟัน หรือ ทานอาหาร แถมยังมีส่วนช่วยในการรักษาสุขภาพปากและช่องฟันอีกด้วย
การเตรียมตัวก่อนจัดฟัน
ก่อนการจัดฟันจำเป็นต้องมีการเตรียมตัว และตรวจสุขภาพทั้งช่องปาก รวมถึงจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาหากฟันมีปัญหา เช่น ฟันผุ การขูดหินปูน รวมถึงการเคลือบฟันด้วยฟลูออไรด์ ในความดูแลของทันตแพทย์ผู้รับผิดชอบการจัดฟันนี้
การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?
การจัดฟันใสเป็นที่นิยมมากเมื่อเทียบกับการจัดฟันแบบเหล็ก เพราะสามารถถอดออกได้ และทำให้ฟันเรียงตัวสวยงามโดยมีอุปกรณ์จัดฟันเป็นชุด ๆ ที่ทำมาจากพลาสติก ข้อดีอย่างอื่นของการจัดฟันแบบใสคือ
รู้สึกสบาย เพราะ Invisalign เป็นเครื่องมือจัดฟันแบบใส ที่ทำมาจากพลาสติกที่มีความยืดหยุ่นสูง มีน้ำหนักเบา ช่วยลดการระคายเคืองในช่องปาก ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ค่อนข้างแตกต่างกับการจัดแบบโลหะทั่วไป
การดูแลรักษาความสะอาดของช่องปาก ที่มีความสะดวกยิ่งขึ้น และสามารถเลือกรับประทานอาหารได้อย่างหลากหลาย เพราะสามารถถอดเครื่องมือจัดฟันชั่วคราว เพื่อทานอาหารและแปรงฟันได้
ไม่ทำให้รู้สึกเขินอาย สำหรับผู้ที่ไม่มีความมั่นใจในภาพลักษณ์ในระหว่างที่รับการจัดฟัน เพราะการจัดฟันใส สงผลให้ผู้อื่นมองไม่เห็นหรืออาจมองเห็นได้ยากหากไม่สังเกต เพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันให้มากขึ้น
ป้องกันการนอนกัดฟัน ซึ่งการนอนกัดฟันเป็นสาเหตุของ ฟันสึก ฟันบาง ฟันบิ่น ฟันร้าว และอีกสารพัดปัยหาของฟัร รวมไปถึงการทำให้เกิดการเหนื่อยล้าบริเวณใบหน้า จนกระทั่งไม่สามารถบดเคี้ยวอาหารได้อีกด้วย
สิ่งสำคัญที่ควรทราบอีกอย่างหนึ่งคือ แม้การจัดฟันใสจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการจัดฟัน แต่การจัดฟันใสก็ไม่ได้เหมาะกับทุกคน การจัดฟันใสเหมาะกับคนที่มีฟันซ้อนเกในระดับปานกลางหรือมีฟันห่างไม่มาก สำหรับผู้ที่มีปัญหาฟันบนและฟันล่างยื่นมาก หรือ ฟันไม่สบกันมาก จะต้องได้รับการรักษาที่ซับซ้อนมากกว่า
ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?
จำนวนของชุดเครื่องมือจัดฟันที่ต้องใช้จะขึ้นอยู่กับแผนการรักษาของคุณ ในระยะแรกของการจัดฟันคุณจะรู้สึกไม่สบายช่องปากประมาณ2-3วันขณะที่ฟันกำลังเคลื่อนตัว คุณสามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ทันที เพราะการจัดฟันใสไม่ต้องพักฟื้น
การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?
ระยะเวลาในการจัดฟันขึ้นอยู่กับฟันของคุณว่ามีปัญหาการเรียงตัวมากน้อยแค่ไหน โดยทั่วไปแล้วคนไข้จะใช้เวลาประมาณ 10-24เดือน
คุณควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มร้อนๆขณะใส่เครื่องมือจัดฟัน เพราะมันทำมาจากพลาสติกอาจจะเสียรูปได้เมื่อโดนความร้อน เครื่องดื่มที่หวาน หรือ เป็นกรด ทำให้ฟันผุ และเกิดคราบที่เครื่องมือจัดฟันได้ คุณจึงต้องถอดเครื่องมือจัดฟันทุกครั้งที่ทานอาหาร และต้องแปรงฟันทุกครั้งหลังทานอาหาร
มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?
อัตราความสำเร็จขึ้นอยู่กับคุณใส่เครื่องมือจัดฟันบ่อยแค่ไหน และคุณต้องการมีรอยยิ้มที่สมบูรณ์แบบมากแค่ไหนเพราะการจัดฟันใสสามารถถอดออกเมื่อไหร่ก็ได้
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับกรุงเทพมหานคร
คงเป็นที่ทราบกันดีว่ากรุงเทพมหานคร เป็นเมืองหลวงของประเทศไทย และเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจในระดับ ประชาคมอาเซียน จุดเด่นของกรุงเทพฯ นอกจากจะเป็นจังหวัดที่มีศาสนสถานที่สวยงาม, อาหารริมทาง หรือ street food, การคมนาคมที่สะดวกสบาย, ห้างสรรพสินค้า, ตลาด รวมถึงยังมีสถานพยาบาลชั้นนำต่าง ๆ ที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศ ทั้งโรงพยาบาลของรัฐ, คลินิก, และโรงพยาบาลเอกชนที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล JCI (Joint Commission International Accreditation) ทำให้กรุงเทพฯนอกจากจะเป็นจังหวัดที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นที่สุด เป็นจังหวัดที่มีคนเดินทางมาท่องเที่ยวมากที่สุด ยังมีแนวโน้มในการขยายตัวกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอีกด้วย ซึ่งโรงพยาบาลที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ คือ โรงพยาบาลศิครินทร์ โรงพยาบาลกมล เป็นต้น ซึ่งมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจเดินทางมาทำศัลยกรรมความงามเป็นจำนวนมากในแต่ละปี
สถานที่ยอดนิยมในกรุงเทพมหานคร
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่รู้จักกันในนาม วัดพระแก้ว เป็นวัดที่ รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น พร้อม ๆ กับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ตั้งอยู่ ในเขตพระบรมมหาราชวัง หากใครได้มาเที่ยวกรุงเทพฯ ก็ตามจะต้องแวะไปกราบ พระแก้วมรกต สักครั้งเพื่อความเป็นสิริมงคล
วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร หรือ วัดแจ้ง เป็นวัดโบราณสร้างในสมัยอยุธยา พระปรางค์วัดอรุณฯ นับเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของกรุงเทพฯ ที่รู้จักกันทั่วโลก เพราะฉะนั้นถ้ามาถึงกรุงเทพฯ ก็คงต้องแวะมาชมความสวยงามของพระปรางค์วัดอรุณฯ เช่นเดียวกัน
เยาวราช นับเป็นอีกย่านที่น่าเที่ยว เพราะนอกจากจะเป็นแหล่งชุมชนของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนแล้ว ยังจัดว่าเป็นย่านธุรกิจ และคึกคักตลอดทั้งวัน ในปัจจุบันคนจะนิยมมาเที่ยวเยาวราชกันช่วงกลางคืน เพราะจะมีสตรีทฟู้ดร้านเด็ดมากมายที่น่าไปลิ้มลองชิมดูสักครั้ง
นอกเหนือจากนี้ ยังมีสถานที่อื่น ๆที่เป็นที่นิยมที่ไม่ควรพลาด เช่น สยามสแควร์, ถนนข้าวสาร, ตลาดนัดจตุจักร, เอเชียทีค เป็นต้น
การเดินทางในกรุงเทพมหานคร
การคมนาคมในกรุงเทพฯ ถือว่ามีความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก ทั้งทางบก ทางอากาศ ทางน้ำ และยังมีระบบขนส่งสาธรารณะที่ได้มาตรฐานและทันสมัย การเดินทางและการท่องเที่ยวจึงทำได้ง่ายแม้ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว เช่น รถแท็กซี่ รถเมล์ รถจักรยานยนต์รับจ้าง รถตุ๊กตุ๊ก รถไฟ รถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้าใต้ดิน และ เรือโดยสาร เป็นต้น
ประชากรหรือผู้คนในกรุงเทพมหานคร
กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศไทย มีหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งยังมีประชาชนจากต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงาน รวมถึงยังมีชาวต่างชาติที่เข้ามาอาศัยอยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก ทำให้คนกรุงเทพฯอาจมีวิถีชีวิตที่เร่งรีบมากกว่าส่วนอื่นในประเทศไทย
สภาพภูมิอากาศในกรุงเทพมหานคร
กรุงเทพฯ มีสภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื้น โดยอยู่ภายใต้ อิทธิพลของลมมรสุม 2 ชนิด คือ ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ มีอากาศร้อนทั้งปีและยังมีอุณหภูมิที่หลากหลายอีกด้วย มี 3 ฤดูกาลที่แตกต่างกัน ได้แก่ ฤดูร้อนจะเป็นช่วงเดือนมีนาคมและเมษายน, ฤดูฝน จะอยู่ในช่วงราว ๆ กรกฎาคมจนถึงตุลาคม และช่วงที่มีอากาศเย็นจะเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายนและเดือนธันวาคม
อื่นๆ
การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในกรุงเทพฯ กำลังเป็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุผลที่ว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย มีความเจริญก้าวหน้าในเทคโนโลยีที่ทันสมัย ดังนั้น จึงมีโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานระดับโลก และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง มากมาย ที่จบมาจากต่างประเทศ มีประการณ์ที่ยาวนาน ทำให้มีนักท่องเที่ยวหรือผู้คนในประเทศไทยเองเดินทางเข้ามาทำการรักษา หรือทำศัลยกรรมกับโรงพยาบาลและคลีนิคต่างๆในกรุงเทพฯ เป็นอย่างมากนั่นเอง