จัดฟัน ใน กรุงเทพมหานคร, ไทย

การจัดฟัน เป็นการ แก้ไข ความผิดปกติ จากการ เรียงตัว ของฟัน เพื่อช่วย จัดเรียงฟัน ให้กลับมา เรียงตัว อย่างสวยงาม สมดุล เหมาะสม เป็นการ เปลี่ยนแปลง โครงหน้า ของผู้รับ การจัดฟัน ให้เข้ารูป สวยงาม ยิ้มได้อย่างมั่นใจ และยังช่วย ปรับปรุง พัฒนา บุคคลิกภาพได้ โดยการ ปลี่ยนแปลง โครงสร้าง ของฟันด้วยเครื่องมือ ที่ใช้ภายนอก และภายใน ช่องปาก แบบค่อยเป็น ค่อยไป จะเป็นตัว กระตุ้น ให้มีการ ปรับแต่งโครงสร้าง ของฟันใหม่

การจัดฟัน เหมาะกับใคร?

การจัดฟัน เหมาะกับ ผู้ที่มี ปัญหาเกี่ยวกับ ฟันยื่น, ฟันซ้อน จนไม่สบกัน , ฟันเก เป็นต้น ปัญหาเกี่ยวกับ ฟันเหล่านี้ จะทำให้ ฟันเกิดการ สึกกร่อน เสียหาย หรืออาจ เป็นตัวทำร้าย กล้ามเนื้อกราม ซึ่งอาจส่ง เป็นผลกระทบ ต่อรูปร่าง ของใบหน้า แต่อย่างไร ก็ตาม เมื่อคุณ ตรวจกับ ทันตแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญ เขาจะเป็น ผู้วินิจฉัย, ประเมินจาก ประวัติ ทางทันตกรรม หรือการรักษา ทางการแพทย์ การตรวจต่าง ๆ ในคลินิก และการจัดฟัน ยังเป็นเทรน ที่ได้รับ ความนิยม เป็นอย่างมาก กับเหล่า บรรดา วัยรุ่น ทั้งหลาย เนื่องจาก การจัดฟัน ทำให้ รูปหน้าเปลี่ยนได้ และดูมี เอกลักษ์ ให้คนจดจำ

รูปแบบ และราคา ของการจัดฟัน แต่ละชนิด

1. การจัดฟัน แบบโลหะ ธรรมดา เป็นรูปแบบ การจัดฟัน ติดแน่น ที่ใช้ยางรัด ที่เรียกว่า O – ring และผู้ป่วย สามารถ เลือกใช้สี รัดลวดต่าง ๆได้ ให้ติดกับ Bracket ที่เป็นโลหะสีเงิน ติดบน ผิวด้านหน้าฟัน การจัดฟัน ในลักษณะนี้ เป็นการจัดฟัน ชนิดติดแน่น โดยจะมี นัดเพื่อพบ กับทันตแพทย์ ทุก ๆ เดือน เพื่อปรับ เครื่องมือจัดฟันให้แนวฟัน ค่อยๆ เคลื่อนเข้า อยู่ในจุด ที่ต้องการ เปลี่ยนเครื่องมือฟัน และตรวจเช็ค สภาพฟัน ไปในตัว ราคา ประมาณ ในการจัดฟัน รูปแบบนี้ คือ 45,000 – 65,000 บาท ซึ่งมักเป็น ที่นิยม ในหมู่วัยรุ่น เป็นอย่างมาก เพราะมีสีสัน สดใส สวยงาม
2. การจัดฟัน แบบเซรามิก เป็นรูปแบบ ติดแน่น ที่ใช้เครื่องมือ ดัดฟัน สีเหมือนฟัน มีลักษณะ Bracket เป็ นเซรามิก สีใส และใช้ยางรัด O – ring สีใส มีลวดที่เป็นโลหะสีเงิน ซึ่งคนไข้ จะมีนัด มาพบกับทันตแพทย์ ทุกเดือน เพื่อปรับลวด และเปลี่ยนอุปกรณ์ ราคาประมาณ ในการจัดฟัน รูปแบบนี้ คือ 60,000 – 85,000 บาท เป็นการจัดฟัน ที่ใครก็ สามารถจัดได้ ในทุกอาชีพ ทุกเพศ ทุกวัย เนื่องจากมี สีสัน ที่ไม่ฉูดฉาด แลดูเรียบร้อย สุภาพ ซึ่งถ้ามอง ในระยะ ไกลๆ จะเห็นได้ ไม่ชัด เท่าไรนัก
3. การจัดฟัน แบบดามอน (Damon) เป็นรูปแบบ การจัดฟัน แบบเร่งด่วน โดยการนำ เทคโนโลยี ที่เรียกว่า Self – Ligating มาใช้ เครื่องมือ ที่ใช้ ในการจัดฟัน คือ Damon / Clearity การจัดฟัน แบบนี้จะทำให้ ผู้ป่วย รู้สึกเจ็บ เพียงเล็กน้อย เพราะไม่ต้องใช้ ยางรัด O – ring อีกทั้ง ไม่ต้อง มาพบ ทันตแพทย์ ทุกเดือน เหมือนการ จัดฟัน ในรูปแบบ อื่นๆ แต่จะมีการ นัดเพียง 2 – 3 เดือน  ครั้ง ราคาประมาณในการ จัดฟันรูปแบบนี้ คือ 70,000 – 95,000 บาท
4. การจัดฟัน ด้านใน (STb light lingual) เป็นรูปแบบ การจัดฟัน แบบติดแน่นเช่นกัน แต่เราจะ มองไม่เห็น อุปกรณ์เลย แม้ในเวลา ที่พูดคุย ยิ้ม และหัวเราะ กับผู้ป่วย เพราะอุปกรณ์ จัดฟันชนิดนี้ จะถูกติดไว้ ที่ด้านหลัง ของฟัน ที่มีการ ออกแบบ มาเฉพาะบุคคล และอุปกรณ์ ในการจัดฟัน จะมีขนาดเล็กกว่า การจัดฟัน แบบด้านนอก ราคาประมาณ ในการจัดฟัน รูปแบบนี้ คือ 150,000 – 180,000 บาท เหมาะกับ ผู้ที่มี งบประมาณสูง และผู้ที่ ไม่ต้องการ ให้คนอื่นรู้ หรือเห็นว่า ตนเองจัดฟัน การจัดฟัน รูปแบบนี้ ไม่มีผลกระทบ ขณะออกเสียง แต่อย่างใด
5. การจัดฟัน แบบใส (Invisalign) คือ การจัดฟัน ที่ผู้ป่วย ไม่ต้อง ใส่เหล็ก หรือลวด และยางจัดฟัน จะมีลักษณะ เป็นวัสดุใส และบาง ที่ใช้นวัตกรรม การจัดฟัน แบบใหม่ ที่มีการ สร้างภาพ 3 มิติ บนจอ คอมพิวเตอร์ โดยการนำ เทคโนโลยี มาช่วย ในการ ออกแบบ สร้างชุด เครื่องมือ จัดฟัน ให้แก่คนไข้ แต่ละคน โดยขั้นตอน แรก คือ ข้อมูลการสบฟัน ของคนไข้ จะถูกบันทึก ลงบน แบบพิมพ์  แล้วจะ นำส่งแบบพิมพ์ ไปยังห้องแลป ที่อเมริกา และข้อมูล ของท่าน จะเปลี่ยนแปลง เป็นข้อมูลดิจิตอล และผ่านขั้นตอน การผลิต ที่ซับซ้อน และปราณีต ออกมาเป็นชุด เครื่องมือ จัดฟัน ที่ครอบฟันจริง ไว้ทั้งหมด โดยที่เรา มองไม่เห็น อุปกรณ์ และเครื่องมือนั้นไม่หลุดง่าย ยังไม่ได้ ทำให้กระพุ้งแก้ม เป็นแผล ผู้ป่วย สามารถ ถอดเข้า – ออกได้ และทุก ๆ 2 สัปดาห์ จะมีการ นัดเปลี่ยน  เครื่องมือใหม่ เครื่องมือนี้ จะค่อย ๆ ขยับฟัน ของผู้ป่วย ไปทีละ น้อย ๆ เพื่อไปสู่ ตำแหน่งที่ ต้องการ การจัดฟัน แบบใส นั้นจะทำ การจัดโดย ทันตแพทย์ เฉพาะทาง จัดฟัน ที่จบมาจาก ประเท ศสหรัฐอเมริกา เท่านั้น ที่ได้รับ การฝึกอบรม และมีประสบการณ์ การจัดฟัน แบบใสมา โดยเฉพาะ ราคา ประมาณ ในการจัดฟัน รูปแบบนี้คือ 70,000 – 250,000 บาท ได้รับความนิยม ในเหล่า บรรดา นักรอง นักแสดง บุคคล ที่มีชื่อเสียง และคนที่ต้องใช้ ความสวยงาม ของหน้าตา เป็นหลัก เช่น เหล่าพริตตี้ และแอร์โฮสเตรส      

ตรวจสุขภาพฟัน ก่อนการจัดฟัน: การจัดฟันนั้น เป็นตัวการ ที่เพิ่มความเสี่ยง ทำให้เกิด ปัญหาฟันผุ หรือสุขภาพ ช่องปาก มีปัญหาอื่น ๆ ได้ ดังนั้น ก่อนที่ ทันตแพทย์ จะทำการ จัดฟัน ให้คนไข้ จะต้องมีการ ตรวจสุขภาพ ช่องปาก และฟันก่อน หากมีฟันผุ ก็ต้องอุด เสียก่อน หลังจากนั้น ทันตแพทย์ จะทำการ ขัดหินปูน และเคลือบร่องฟัน ที่มีหลุมลึก เพื่อเป็นการ ป้องกัน ฟันผุ ในระหว่าง การจัดฟันแต่ถ้ามี โรคเหงืก ก็ต้องรีบ ทำการรักษา ในบางเคส อาจมีการ ถอนฟัน บางซี่ออก เพื่อปรับ ตำแหน่งฟัน และเพื่อ ให้ได้ รูปร่างที่ดี ของฟัน บริเวณเคียงข้าง และในระหว่าง การจัดฟัน จะมีการตรวจ และทำ ความสะอาดฟัน เป็นระยะๆ 

คุณสามารถกลับมาทำกิจกรรมได้ตามปกติ ในวันถัดไป อย่างไรก็ตามคุณจะมีอาการปวดปวดฟัน ปวดเหงือก ประมาณ1 อาทิตย์ และหลังจากมีการปรับเปลี่ยนคุณอาจจะมีอาการปวดเป็นเวลาหลายวัน

หลังจาก จัดฟัน: หลังจากการ ทำการ จัดฟันแล้ว จะมีการ นัดจาก ทันตแพทย์ ทุก ๆ เดือน เพื่อปรับเครื่องมือ จัดฟัน ให้แนวฟันค่อย ๆ เคลื่อนเข้าอยู่ ในจุด ที่ต้องการ และตรวจเช็ค สภาพฟัน ไปในตัว

การจัดฟัน: หลังจากได้รับ การตรวจ สุขภาพเหงือก และฟัน และทำการ รักษา แก้ไข ปัญหาฟันผุ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทันตแพทย์ จะเริ่ม ประเมิน รูปร่าง ลักษณะ และการจัดเรียง ของฟันอีกทั้ง ตรวจดู กระดูก ที่รองรับ บริเวณ รากฟัน, ลักษณะ ของรากฟัน และลักษณะ โครงสร้าง ใบหน้า โดยรวม ซึ่งมักนำ เทคนิคเอกซเรย์ มาใช้ร่วมด้วย ปั้นแบบจำลอง ช่องปาก ด้วยพลาสติก และถ่ายภาพฟันไว้ หลังจากนั้น ทันตแพย์ จะทำการ ประเมินว่า ควรใช้ เครื่องมือ จัดฟันรูปแบบใด แก่ผู้ป่วย แต่ละราย และหลังจากนั้น จะทำการ นัดติดเครื่องมื อจัดฟัน พร้อมทั้ง จะมีการแนะนำ วิธีการดูแล รักษาฟัน หลังจาก ติดเครื่องมือ เรียบร้อยแล้ว โดยทั่วไปแล้ว การจัดฟัน จะใช้เวลานาน ประมาณ 2-4 ปี ซึ่งจะมี ความแตกต่าง กันไป ในแต่ละ บุคคล ขึ้นอยู่กับ สภาพ ความผิดปกติ ของฟัน ที่ไม่เหมืนกัน อีกทั้ง ยังรวมไปถึง การตอบสนอง ต่อการรักษา ของร่างกาย ซึ่งแต่ละคน ก็ให้ผล ไม่เท่ากัน และตัวคนไข้ เองด้วย เช่นกัน ว่าจะให้ ความร่วมมือ ในการรักษา มากน้อย เพียงใด