Filler คืออะไร อันตรายไหม ฉีดยี่ห้อไหนดี รวมข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ 2023
การฉีดฟิลเลอร์ หรือ สารเติมเต็ม เป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมากสำหรับการรักษาริ้วรอย เติมเต็มร่องลึกที่ผิวหน้า รวมถึงเพิ่มความอวบอิ่มให้ผิวดูเปล่งปลั่งอ่อนเยาว์ ทั้งยังมีผลงานการวิจัยรองรับ และผ่านการรับรองจากอย. (สำนักงานอาหารและยา) จึงค่อนข้างมั่นใจได้ถึงความปลอดภัย
แต่ก็มีบ่อยครั้งที่มักจะมีการพูดถึงในแง่ที่ว่า ฟิลเลอร์อันตราย ไม่ควรฉีด ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ถ้าถามว่าฟิลเลอร์ปลอดภัยหรือไม่ อาจขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง เราจึงได้รวบรวมข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์มาไว้ในบทความนี้ ไม่ว่าจะฉีดริ้วรอยบนใบหน้า ฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์หน้าผาก ฟิลเลอร์ขมับ ดูได้ที่นี่เลย
เลือกหัวข้อที่สนใจ รวมข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์
- ฉีดฟิลเลอร์อย่างไรให้ปลอดภัย ศึกษาข้อมูลฟิลเลอร์เพื่อความงามอย่างมั่นใจ
- ฉีดฟิลเลอร์ ตรงไหนได้บ้าง? ฉีดแล้วจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้หรือไม่?
- ฟิลเลอร์ มีอันตรายไหม? การเตรียมตัวก่อนฉีด และวิธีดูแลตัวเองหลังจากฉีดฟิลเลอร์
- ฉีดฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี? ฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนอยู่ได้นานที่สุด?
- ฟิลเลอร์ Restylane (สวีเดน)
- ฟิลเลอร์ Juvederm (อเมริกา)
- ฟิลเลอร์ Neuramis (เกาหลี)
- ฟิลเลอร์ Revanesse (แคนาดา)
- ฟิลเลอร์ Perfectha (ฝรั่งเศส)
- ฟิลเลอร์ e.p.t.q. (เกาหลี)
- ฟิลเลอร์ Belotero (สวิตเซอร์แลนด์)
- ฟิลเลอร์ Yvoire (เกาหลี)
- ฟิลเลอร์ Definisse (อิตาลี)
- ฉีดฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี สรุปคร่าว ๆ สำหรับแต่ละจุด / บริเวณ
- ฟิลเลอร์ แต่ละยี่ห้อแตกต่างกันอย่างไร
- ฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี? รวมรายชื่อฟิลเลอร์ยี่ห้อที่ผ่านอย. ปี 2023
- วิธีการดูฟิลเลอร์แท้ ปลอดภัย ให้สังเกตกล่องก่อนฉีด
- เช็คเลขทะเบียน อย. ยี่ห้อฟิลเลอร์ต่าง ๆ
- ฉีดฟิลเลอร์ ราคาเท่าไหร่? ฉีดที่ไหนดี?
- FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์
- Q: ถ้าฟิลเลอร์สลายหมด จะทำให้หน้าแก่กว่าเดิมไหม
- Q: พบเป็นก้อน มีอาการผิดปกติ หรือไม่พอใจกับผลลัพธ์ที่ฉีด มีความกังวล ควรทำอย่างไร
- Q: ขูดฟิลเลอร์ คืออะไร
- Q: ถ้าอยากฉีดเพิ่ม ต้องรอให้ฟิลเลอร์เดิมสลายหมดก่อนหรือไม่
- Q: หลังฟิลเลอร์สลายหมดแล้ว เปลี่ยนยี่ห้อที่ฉีดได้ไหม
- Q: ในบางครั้งมีคนสงสัยว่า ฉีดไฮยา กับ ฉีดฟิลเลอร์ เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
ฉีดฟิลเลอร์อย่างไรให้ปลอดภัย ศึกษาข้อมูลฟิลเลอร์เพื่อความงามอย่างมั่นใจ
ฟิลเลอร์ คือ? ทำความรู้จักฟิลเลอร์ก่อนเข้าวงการฉีดหน้า
ฟิลเลอร์ (Filler) คือ สารที่ใช้ฉีดเพื่อเติมเต็มผิว เป็นตัวช่วยในการรักษาริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้าและช่วยปรับโครงสร้างหน้า โดยส่วนประกอบหลักของฟิลเลอร์ที่ค่อนข้างปลอดภัยนั้น จะเป็นสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (อ่านว่า ไฮยาลูรอนิค แอซิด) หรือเรียกว่า HA นั่นเอง
ฟิลเลอร์ประเภท HA นั้น ผลิตมาให้ใกล้เคียงกับสารไฮยาลูรอนิกที่อยู่ในชั้นผิวตามธรรมชาติ จึงสามารถเติมเต็มส่วนของริ้วรอย หรือปรับรูปหน้าได้โดยฉีดทดแทนส่วนของผิวบริเวณที่ลึกตอบได้อย่างปลอดภัย โอกาสก่อให้เกิดการแพ้ต่ำ
สารไฮยาลูรอนิกที่อยู่ในผิวหนังชั้นหนังแท้ โดยปกติจะมีหน้าที่สำคัญในการช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง ซึ่งจะค่อย ๆ สูญเสียไปเมื่อมีอายุมากขึ้น ทำให้ผิวแห้งดูไม่เปล่งปลั่ง และเมื่อร่วมกับคอลลาเจนและอิลาสตินที่ค่อย ๆ ลดลงตามกาลเวลา จะทำให้เกิดปัญหาริ้วรอยร่องลึก ผิวหนังเหี่ยวย่น หน้าตอบ เป็นต้น
HA จากฟิลเลอร์จึงเป็นสารเติมเต็มที่จะเข้ามาช่วยรักษาให้โครงสร้างของผิวหนังเต่งตึง มีความยืดหยุ่น และแข็งแรง รวมถึงริ้วรอยต่าง ๆ ดูตื้นขึ้นอีกด้วย เช่น ริ้วรอยบริเวณใต้ตา หน้าผาก และร่องแก้ม เป็นต้น นอกจากนี้ ฟิลเลอร์บางรุ่นยังถูกออกแบบมาให้มีความคงตัวเป็นพิเศษ จึงมีการใช้ผลิตภัณฑ์นี้มาฉีดเพื่อเสริมจมูก เสริมคาง และเสริมหน้าผากอีกด้วย
และเนื่องจากฟิลเลอร์ HA เป็นสารที่มีความชุ่มชื้น เมื่อฉีดไปแล้วจะช่วยกักเก็บน้ำ คงความชุ่มชื้นให้ผิวได้ถึงผิวชั้นใน ส่งผลให้ผิวมีขนาดรูขุมขนเล็กลง วยืดหยุ่น ฟื้นฟูผิวให้ดูอิ่มน้ำ และนุ่มเนียนขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ฉีดฟิลเลอร์ ตรงไหนได้บ้าง? ฉีดแล้วจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้หรือไม่?
โดยทั่วไปแล้วฟิลเลอร์ HA สามารถฉีดให้ริ้วรอยดูตื้นขึ้น สำหรับลดริ้วรอยทั่วบริเวณใบหน้า และยังใช้ฉีดเติมเต็มผิวหน้าเฉพาะจุด ทำให้ใบหน้าดูสมส่วนหรืออ่อนเยาว์ขึ้น ตามตำแหน่งที่นิยมฉีดดังต่อไปนี้
1. ฟิลเลอร์หน้าผาก เพิ่มมิติให้ใบหน้า ดูเอิบอิ่ม ปรับโหงวเฮ้ง รับทรัพย์ ช่วยให้หน้าดูเต็มอิ่มได้อย่างเป็นธรรมชาติ
2. ฟิลเลอร์แก้มส้ม เติมให้ผิวบริเวณแก้มที่หย่อนคล้อย ตอบ หรือแบน ให้มีลักษณะโหนกนูนขึ้น ดูมีชีวิตชีวา หน้าดูอิ่มเอิบสุขภาพดี มีมิติ
3. ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ลดริ้วรอยลึกที่ทำให้ดูมีอายุ ช่วยให้ร่องแก้มดูตื้นขึ้น ทำให้ใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์ลงอย่างเป็นธรรมชาติ
4. ฟิลเลอร์คาง เสริมคางให้มีความยาวขึ้นได้สัดส่วนกับใบหน้าโดยรวม แก้ปัญหาคางสั้น คางตัด คางเบี้ยว ให้ใบหน้าดูละมุนขึ้น และเรียวสวยเป็นวีเชฟรับกับใบหน้า ให้ความสวยใกล้เคียงกับการผ่าตัดเสริมคาง
5. ฟิลเลอร์ปาก ทำให้ริมฝีปากอวบอิ่ม ทรงสวย เซ็กซี่แบบธรรมชาติ ได้ลุคปากแบบสายฝอ หรือปากสายเกาหลีได้ตามชอบ เจาะลึกการฉีดฟิลเลอร์ปาก
6. ฟิลเลอร์ใต้ตา ลดปัญหาริ้วรอยใต้ตา ตาลึก ตาโหล เป็นร่องใต้ตา หรือมีถุงใต้ตา เปลี่ยนใต้ตาดำคล้ำให้สดใสยิ่งขึ้น
7. ฟิลเลอร์ขมับ เติมเต็มใบหน้าให้มีโครงสร้างที่สวยละมุน แก้ปัญหาขมับตอบ ขมับยุบ หน้าผากแคบ ปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนเข้ารูปมากขึ้น รวมถึงยังเป็นการเสริมโหงวเฮ้งอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีการ ฉีดฟิลเลอร์จมูก เพื่อให้จมูกดูคมขึ้น ดูโด่งขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด แต่วิธีนี้จะเหมาะกับคนที่มีฐานจมูกอยู่แล้ว และไม่อยากผ่าตัด รวมถึงไม่มีเวลาพักฟื้นได้นาน
ฉีดฟิลเลอร์แต่ละจุด ใช้ปริมาณกี่ซีซี (CC)
ปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ในแต่ละบริเวณ แพทย์จะเป็นผู้ประเมินให้ว่าควรใช้กี่ซีซี เพราะนอกจากสภาพผิวของแต่ละคนจะไม่เหมือนกันแล้ว ยังต้องพิจารณาไปถึงความรุนแรงของปัญหาและพื้นที่ของบริเวณที่ต้องการฉีดด้วย อย่างไรก็ตามเราสามารถคาดคะเนปริมาณคร่าว ๆ สำหรับแต่ละบริเวณ ดังนี้
- ฟิลเลอร์ขมับ 2-4 CC
- ฟิลเลอร์แก้มส้ม 1-2 CC
- ฟิลเลอร์ปาก 1-2 CC
- ฟิลเลอร์หน้าผาก 3-5 CC
- ฟิลเลอร์ใต้ตา 2-4 CC
- ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 1-3 CC
- ฟิลเลอร์คาง 1-2 CC
การฉีดฟิลเลอร์ ข้อดีมีอะไรบ้าง
สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ มีข้อดีในเรื่องของการเสริมความงามมากมาย ซึ่งสามารถจำแนกข้อดีต่าง ๆ ได้ดังนี้
- ฉีดแล้วเห็นผลทันที ไม่มีรอยแผล ไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องพักฟื้น
- มีความปลอดภัย ตัวยาได้รับการรับรองจากอย. รวมถึงไม่ทำให้เกิดการแพ้และไม่มีสารตกค้างในร่างกาย
- ฉีดฟิลเลอร์ สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะจุดในแต่ละบริเวณได้อย่างดี และให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
- ฟิลเลอร์สามารถแก้ปัญหาในจุดที่ต้องการความละเอียดสูงได้ เช่น บริเวณใต้ตา และร่องแก้ม
- ฟิลเลอร์ ช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอย และช่วยปรับโครงสร้างใบหน้าให้ดูสมส่วนขึ้น
- สามารถเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ หรือฉีดสลายออกได้โดยไม่เป็นอันตราย โดยเฉพาะเมื่อไม่พอใจในผลลัพธ์หลังการฉีด
ฟิลเลอร์ มีอันตรายไหม? การเตรียมตัวก่อนฉีด และวิธีดูแลตัวเองหลังจากฉีดฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ อันตรายไหม มีความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน
แม้ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่นำมาใช้จะผ่านการรับรองความปลอดภัยจากอย. แต่ก็มักมีคำเตือนจากหลากหลายช่องทาง หรือแม้แต่ผู้ที่เคยเข้ารับบริการ เราจึงได้รวบรวมปัจจัยและสาเหตุที่อาจทำให้เกิดผลเสียจากการฉีดฟิลเลอร์ได้ ดังนี้
อย่างที่ได้กล่าวข้างต้นว่า Filler คือสารเติมเต็ม ซึ่งสามารถใช้เรียกสารเติมเต็มได้ทุกชนิด แต่ประเทศไทยส่วนใหญ่นิยมใช้เรียกผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มชนิด HA ซึ่งเป็นสารชนิดเดียวที่ปลอดภัยที่สุดและผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) รวมถึงนิยมใช้ในวงการแพทย์ด้านความงามอย่างแพร่หลาย นอกจากนี้ยังเป็นสารที่ฉีดแล้วสามารถสลายได้หมด 100% ไม่มีสารตกค้าง ฉีดแล้วสามารถแก้ไข หรือฉีดซ้ำได้
นอกจากสารเติมเต็มประเภท HA แล้วยังมีสารเติมเต็มประเภทอื่น ๆ อีก เราได้รวมฟิลเลอร์ทุกประเภทที่ทั่วโลกใช้มาให้แล้ว ดังนี้
- HA (Hyaluronic Acid) มีความปลอดภัย สลายได้หมด 100% ฉีดยาสลายเพื่อแก้ไขได้หากจำเป็น และมีการใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก
- Collagen จากสัตว์ ปัจจุบันไม่นิยมใช้เนื่องจากพบผู้มีอาการแพ้ฟิลเลอร์ประเภทนี้ และเกิดอาการบวมแดงได้ง่าย
- Transplanted Fat หรือการฉีดไขมัน เหมาะกับคนที่ต้องการฉีดครั้งละมาก ๆ ประมาณ 10 - 20 CC โดยใช้ไขมันของตนเอง
- Biosynthetic polymers เป็นกลุ่มของซิลิโคนเหลว เป็นสารสังเคราะห์ที่ไม่ได้มาตรฐาน และไม่สลายตัว ร่างกายถือว่าเป็นสารแปลกปลอม จึงอาจทำให้เป็นพังผืด ซึ่งจะส่งผลร้ายมากกว่าผลดี
นอกจากนี้ยังมีบางประเภทที่เรียกว่า ฟิลเลอร์ปลอม ซึ่งมีความอันตรายสูง หากฉีดไปแล้วจะเกิดก้อนแข็ง อักเสบติดเชื้อ แย่ไปกว่านั้นอาจทำให้ตาบอดและเนื้อตายได้ ฟิลเลอร์ปลอมมักเป็นฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานและมีการลักลอบนำเข้ามาจำหน่ายแบบผิดกฎหมายในราคาที่ถูก ในท้ายที่สุดต้องแก้ไขด้วยการผ่าตัดและทำการขูดออก
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
ก่อนเข้ารับบริการฉีด Filler ควรมีการเตรียมตัว ดังนี้
1 สัปดาห์ก่อนการฉีด
- ศึกษาข้อมูล ทั้งของคลินิก แพทย์ เทคนิคในการทำ และข้อมูลของการใช้ฟิลเลอร์
- ควรงดยาและวิตามินบางชนิดก่อนฉีดฟิลเลอร์ เช่น แอสไพริน, วิตามิน, St. Johns Wort, วิตามินอี, ยากลุ่ม NSAIDs และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสมของ primrose oil, ginkgo biloba, garlic และ ginseng เป็นต้น
- งดผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว รวมถึงการดึงหรือโกนขนบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์
- งดการทำเลเซอร์และนวดหน้าอย่างน้อย 3 วันก่อนเข้ารับบริการ
1 วันก่อนการฉีด
- งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- งดเข้าซาวน่า ออกกำลังกายประเภทคาร์ดิโอ
- งดแต่งหน้าในวันที่เข้ารับบริการจะดีที่สุด
- สามารถแจ้งขอแปะยาชาก่อนฉีดฟิลเลอร์ได้
- แพทย์จะพิจารณาให้รับประทานยาห้ามเลือดหรือฉีดยาลดบวมในบางเคส เพื่อลดความเสี่ยงในการบวมช้ำ อักเสบติดเชื้อ
- หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานประจำควรแจ้งแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ และ อาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นหลังฉีด
ขั้นตอนการฉีด Filler มีดังนี้
- ปรึกษาแพทย์ เพื่อให้ประเมินปัญหาที่ต้องการแก้ไข แพทย์จะแนะนำยี่ห้อฟิลเลอร์ รุ่นที่ใช้ และปริมาณที่เหมาะสมกับจุดที่จะฉีด
- ทำความสะอาดใบหน้า
- แพทย์จะแกะกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า สามารถขอตรวจสอบได้ว่าเป็นของแท้หรือไม่
- ประคบน้ำแข็ง เพื่อลดความเจ็บจากเข็ม
- เมื่อฉีดฟิลเลอร์เสร็จแล้ว แพทย์จะแนะนำวิธีดูแลตัวเองต่าง ๆ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็ว และอยู่ได้นานขึ้น
ส่วนผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังจากการฉีดฟิลเลอร์ ในบางรายอาจมีรอยแดงจากเข็ม และมีอาการบวม ซึ่งเป็นอาการปกติที่จะหายได้เองใน 3 วัน
หลังฉีดฟิลเลอร์ ต้องดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง
หลังจากรับบริการฉีด Filler เสร็จแล้ว ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ รวมถึงดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม ดังนี้
- อย่าขยับผิวในจุดที่ทำมากเกินไป โดยเฉพาะช่วง 3 วันแรก เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนได้
- งดอาหารและเครื่องดื่มที่ส่งผลต่อการอักเสบ การบวม และทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่ช้า ได้แก่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด หมูกระทะ ชาบู หรือการนั่งหน้าเตาร้อน ๆ อาหารหมักดองอาหารที่เผ็ดมาก ๆ อาหารหวานจัด และอาหารดิบจากร้านที่ไม่สะอาด
- งดสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้ยุบบวมช้า
- หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด เช่น ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ตากแดดอย่างน้อย 48 ชั่วโมง
- ให้งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิดอย่างน้อย 1 เดือน
- หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกาและกดนวดในจุดที่ฉีด
- หากก่อนทำไม่ได้รับประทานยาฆ่าเชื้อหรือยาปฏิชีวนะ หลังทำควรรีบรับประทานทันที รวมถึงสามารถทานยาแก้ปวด และลดบวมได้หากมีอาการ
ฉีดฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี? ฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนอยู่ได้นานที่สุด?
ปัจจุบันฟิลเลอร์ที่มีมาตรฐานและผ่านการรับรองจากอย. มีอยู่หลากหลายยี่ห้อและแต่ละยี่ห้อก็มีหลายรุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นถูกผลิตขึ้นมาด้วยเทคโนโลยีและขั้นตอนการผลิตเฉพาะ เพื่อให้ได้คุณมบัติที่เหมาะกับการฉีดผิวที่แตกต่างกันไป ดังนั้นหากจะถามว่าฉีดฟิลเลอร์ตัวไหนดี จะต้องพิจารณาตามปัญหาผิว หรือบริเวณและจุดประสงค์ที่จะฉีด
นอกจากนี้แต่ละผลิตภัณฑ์ยังมีลักษณของเนื้อเจล การกระจายตัว และความคงตัวแตกต่างกัน แม้จะมีสารไฮยาลูรอนิกแอซิดในปริมาณและความเข้มข้นเดียวกันก็ตาม (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยีของฟิลเลอร์ในแต่ละยี่ห้อ)
ดังนั้นโดยทั่วไปแพทย์จะทำการประเมินและเลือกให้เหมาะกับแต่ละคน แต่ถ้าอยากทราบคุณสมบัติของแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ เราสามารถแบ่งออกได้ ดังนี้
ฟิลเลอร์ Restylane (สวีเดน)
ฟิลเลอร์ Restylane เป็นฟิลเลอร์จากประเทศสวีเดน เป็นยี่ห้อที่อยู่มานานมากที่สุด และมีคุณภาพสูง นำเข้าโดยบริษัท Galderma นิยมใช้ทั้งหมด 8 รุ่นด้วยกัน คือ
- Restylane Vital นิยมฉีดบริเวณใต้ตา หน้าผาก อยู่ได้ 12 เดือน เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เกลี่ยง่าย ให้ผลเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ
- Restylane Kysse นิยมฉีดบริเวณริมฝีปาก อยู่ได้นาน 12 เดือน เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด แต่มีความคงตัว ช่วยสร้างขอบริมฝีปากให้ชัดเจนขึ้น เพิ่มความชุ่มชื้น ความอวบอิ่ม และปรับสีปากให้ดูสดใส รุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อฉีดและแก้ไขปัญหาริมฝีปากโดยเฉพาะ
- Restylane Vital light นิยมฉีดบริเวณใต้ตา ผิวชั้นตื้นและปาก อยู่ได้ 6 - 12 เดือน เป็นเนื้อเจลอนุภาคเล็กละเอียดมากที่สุด ใช้แก้ไขจุดที่มีปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ และใช้สำหรับเคสที่มีผิวบาง ๆ เหมาะสำหรับฉีดเก็บรายละเอียด
- Restylane Perlane lyft นิยมฉีดบริเวณใต้ตา จมูกและคาง อยู่ได้ 12 เดือน เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความคงตัวสูง ฉีดแล้วไม่ฟู สามารถคงรูปได้ดีที่สุด
- Restylane Volyme นิยมฉีดเติมเต็มบริเวณที่โหลลึกหรือตอบลง อยู่ได้ 18 เดือน เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ใช้เติมชั้นผิวให้อิ่มฟูขึ้น ออกแบบมาเพื่อเติมชั้นผิวบริเวณใบหน้าให้อิ่มฟูขึ้นมากกว่าเดิม
- Restylane Classic นิยมฉีดเก็บรายละเอียดบริเวณใต้ตาในผิวชั้นลึก อยู่ได้นาน 12 เดือน เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็งที่ออกแบบมาสำหรับแก้ปัญหาริ้วรอยระดับปานกลางถึงมาก และเหมาะสำหรับคนผิวบาง
- Restylane Defyne นิยมฉีดบริเวณใต้ตาและปาก อยู่ได้ 18 เดือน เป็นฟิลเลอร์เนื้อเจลนิ่มปานกลางและยืดหยุ่นสูง อุ้มน้ำได้มาก ใช้ฉีดกระดูกที่ยุบตัวในผิวชั้นลึก
- Restylane Refyne นิยมฉีดบริเวณปาก ร่องแก้มและมุมปาก อยู่ได้ 12 เดือน เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีลักษณะยืดหยุ่น ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยลึกที่เกิดจากการยิ้ม เน้นการเติมเต็มริ้วรอยเล็ก ๆ
ฟิลเลอร์ Juvederm (อเมริกา)
ฟิลเลอร์ Juvederm เป็นฟิลเลอร์จากอเมริกา มีเนื้อฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูง และอยู่ได้นาน สำหรับยี่ห้อนี้ ผ่านการรับรองจากอย. ไทยว่าปลอดภัย มีทั้งหมด 6 รุ่น ได้แก่
- Juvederm Ultra Plus อยู่ได้ 12 เดือน เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม กักเก็บน้ำได้ดี ฉีดแล้วฟูมาก ทำให้หน้าดูเต็มสวย ทั้งยังทนต่อการขยับ เหมาะสำหรับฉีดขมับ ปากและร่องแก้ม
- Juvederm Volift อยู่ได้ 12 เดือน เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความละเอียดสูง เหมาะกับคนผิวบาง สามารถใช้ฉีดร่องแก้มที่ไม่ลึกมากและเก็บรายละเอียดร่องแก้มชั้นตื้น ปาก มุมปาก และระหว่างคิ้วได้
- Juvederm Volite อยู่ได้ 8-12 เดือน เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อละเอียด เหมาะกับฉีดในผิวชั้นตื้น เก็บรายละเอียดริ้วรอยเล็ก ๆ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว มีความเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับฉีดใต้ตาและการบำรุงผิว (Skin booster)
- Juvederm Volbella อยู่ได้ 12 เดือน เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่มที่มีความละเอียดมากที่สุด เหมาะสำหรับฉีดหน้าผาก เพราะมีความธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน
- Juvederm Voluma อยู่ได้ 18 เดือน เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็งและฟูปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะกับการเติมใต้ตาและร่องแก้ม นอกจากนี้ยังสามารถเติมคางและขมับได้อย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย
- Juvederm Volux อยู่ได้ 18-24 เดือน เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีโมเลกุลขนาดใหญ่ และมีความยืดหยุ่นสูง สามารถคงรูปได้ดีที่สุด เหมาะกับฉีดคาง ใต้ตา ขมับ และร่องแก้มชั้นลึก
ฟิลเลอร์ Neuramis (เกาหลี)
ฟิลเลอร์ Neuramis เป็น filler ที่ผลิตจากประเทศเกาหลี นำเข้าโดยบริษัท Medyceles ประเทศไทย ปัจจุบันมีทั้งหมด 3 รุ่นที่ได้รับการรับรองมาตรฐานทั้ง KFDA จากเกาหลี, U.S. FDA จากสหรัฐอเมริกา, EDQM จากยุโรป และ อย. ไทย ได้แก่
- Neuramis รุ่น Deep (กล่องดำ) เป็นรุ่นแรกที่ผ่านอย. ไทย และได้ถูกนำมาใช้เป็นรุ่นแรก เป็นรุ่นที่ไม่มียาชาผสม เนื้อเจลหนืดปานกลาง อิ่มฟู ขึ้นรูปได้ง่าย สามารถนำมาใช้เติมเต็มร่องลึกบนใบหน้าได้หลายจุด สามารถอยู่ได้นานตั้งแต่ 6 - 12 เดือน
- Neuramis รุ่น Deep Lidocaine (กล่องดำ) มีเนื้อเจลลักษณะคล้าย ๆ กับรุ่น Deep คือเนื้อเจลหนืดปานกลาง อิ่มฟู แต่แตกต่างกันที่มีส่วนผสมของยาชา 0.3% สามารถช่วยลดความเจ็บปวดขณะฉีดได้ และสามารถอยู่ได้นานตั้งแต่ 6 - 12 เดือน
- Neuramis รุ่น Volume Lidocaine (กล่องทอง) เนื้อเจลหนืดที่สุดในทุกรุ่น มีความยืดหยุ่น คงตัวได้ดี สามารถนำมาใช้เติมเต็มปัญหาริ้วรอยระดับปานกลางถึงมาก และมีส่วนผสมของยาชา สามารถอยู่ได้นานตั้งแต่ 6 - 12 เดือน
ฟิลเลอร์ Revanesse (แคนาดา)
Revanesse filler ฟิลเลอร์จากประเทศแคนาดา มีเทคโนโลยีการผลิตแบบ Thixofix technology ซึ่งเป็นนวัตกรรมของการเชื่อมโมเลกุล HA ทำให้ฟิลเลอร์ Revanesse มีความยืดหยุ่นและคงทน ดูละมุนเป็นธรรมชาติ อยู่ได้ยาวนานขึ้นถึง 12 เดือน ยี่ห้อนี้ได้รับอย. ไทย มีเพียงแค่รุ่นเดียวคือ
- Revanesse Ultra มีเนื้อเจลที่มีคุณสมบัติติดทนนาน ช่วยในการเติมเต็มร่องลึก อย่างร่องแก้มและริ้วรอยรอบปาก รวมถึงช่วยปรับรูปหน้าให้อิ่มฟูขึ้นได้อีกด้วย (ยกเลิกนำเข้าและยกเลิกอย. แล้ว)
ฟิลเลอร์ Perfectha (ฝรั่งเศส)
ฟิลเลอร์ Perfectha นวัตกรรมการเติมเต็ม E-Brid Technology จากประเทศฝรั่งเศส ช่วยในเรื่องของการปรับรูปทรงและลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย บริษัท Interpharma ประเทศไทย มีรุ่นต่าง ๆ ดังนี้
- Perfectha Subskin (กล่องดำ-เหลือง) เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยม มีความคงตัวสูง เนื้อแน่น ไม่ฟู นิยมนำมาใช้เพื่อการฉีดคางและฉีดขมับ สามารถปั้นทรงสวยได้อย่างเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน 12-18 เดือน
- Perfectha Deep (กล่องดำ-ชมพู) ใช้ฉีดลงบริเวณผิวหนังชั้นลึก อย่างการเติมร่องและริ้วรอยที่มีความลึก เช่น เติมเต็มร่องแก้ม เติมคาง ยกมุมปาก และเติมเต็มริมฝีปาก คงอยู่ได้นาน 8-12 เดือน
- Perfectha Derm (กล่องดำ-ฟ้า) ใช้ฉีดลงบริเวณผิวหนังชั้นกลางหรือเติมริ้วรอยลึก ริ้วรอยหว่างคิ้ว ยกมุมปาก และเติมเต็มริมฝีปาก คงอยู่ได้นาน 6-12 เดือน
- Perfectha Complement (กล่องดำ-ม่วง) ใช้ฉีดลงบริเวณผิวหนังตื้นหรือเติมเต็มริ้วรอยตื้น คงอยู่ได้นาน 4-6 เดือน
ฟิลเลอร์ e.p.t.q. (เกาหลี)
e.p.t.q. filler คือ ยี่ห้อฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลี ผลิตโดย JETEMA Co.,Ltd. เมื่อปี 2020 และนำเข้าโดยบริษัท เอสทีมา จำกัด ผ่านการรับรองจากอย. ไทย, U.S.FDA และ EDQM มี 3 รุ่นที่ผ่านอย. ดังนี้
- e.p.t.q. S100 (กล่องเขียว) เหมาะกับการฉีดใต้ตา ปาก และขมับ เนื้อฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน
- e.p.t.q. S300 (กล่องส้ม) เหมาะกับการฉีดหน้าผาก ร่องแก้ม ขอบปาก ร่องน้ำหมาก (เนื้อฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานประมาณ 9 เดือน)
- e.p.t.q. S500 (กล่องน้ำเงิน) เหมาะกับการฉีดร่องแก้มลึก ร่องใต้ตาแบบลึก คาง ขมับ ร่องน้ำหมาก ปรับรูปหน้า (เนื้อฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานประมาณ 1 ปี)
ฟิลเลอร์ Belotero (สวิตเซอร์แลนด์)
ฟิลเลอร์ Belotero เป็นยี่ห้อจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่ผ่านการรับรองจากอย. ไทยว่าปลอดภัย โดยมีจุดเด่นคือสามารถใช้ฉีดเสริมกระดูกและเนื้อเยื่อผิวหนังที่ยุบตัวลงตามวัยได้ ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero ถูกนำเข้าโดยบริษัท Merz Aesthetics และมีรุ่นต่าง ๆ ดังนี้
- Filler Belotero Intense (กล่องชมพู) มีจุดเด่นคือการใช้แก้ปัญหาร่องลึกมาก ๆ เช่น ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เติมแก้มตอบ และเสริมคาง เพราะเป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็งแต่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถอยู่ได้ 18 เดือน
- Filler Belotero Volume (กล่องม่วง) เหมาะสำหรับฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก และช่วยเพิ่ม Volume ให้ปากได้ดี เหมาะกับการฉีดปากสายฝอ เพราะเป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความยืดหยุ่นและคงตัว สามารถอยู่ได้นาน 18 เดือน
- Filler Belotero soft (กล่องเหลือง) เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด มีจุดเด่นคือมีโมเลกุลเล็ก ซึ่งสามารถเก็บรายละเอียดตามจุดต่าง ๆ ได้ดี เหมาะสำหรับแก้ไขริ้วรอยบนผิวชั้นนอกและแก้ปัญหาใต้ตาได้เรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ สามารถอยู่ได้ 6 - 12 เดือน
- Belotero Balance (กล่องส้ม) มีคุณสมบัติในการทำให้ผิวเรียบเนียน เหมาะสำหรับใต้ตา และเพิ่มความกระจ่างใส เรียบเนียน เพราะเนื้อปั้นง่าย ไม่เป็นก้อน ทั้งยังสามารถสร้างขอบปากและสร้างร่องเหนือริมฝีปากให้ชัดมากขึ้น นอกจากนี้ยังใช้บริเวณหน้าผากที่มีปัญหาไม่มากได้ รวมไปถึงหลุมสิวไม่ลึก สามารถอยู่ได้นาน 18 เดือน
ฟิลเลอร์ Yvoire (เกาหลี)
ฟิลเลอร์ Yvoire (อ่านว่า อีโวร์) เป็น filler จากประเทศเกาหลีที่ได้รับการพัฒนาโดย บริษัท แอลจี เคม (LG Chem) ซึ่งเป็นบริษัทเคมีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลีใต้ ผลิตด้วยเทคโนโลยี HICE ลิขสิทธิ์ เฉพาะจาก LG Chem ฉีดง่าย ไม่เจ็บ เป็นฟิลเลอร์ที่มีความคงตัว ไม่ไหล ผ่านการรับรองมาตรฐานจากประเทศสหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป (EDQM2 certified & US FDA DMF) รวมถึงอย. ไทย มีนำเข้ามาทั้งหมด 3 รุ่นคือ
- YVOIRE Volume Plus (กล่องม่วง) สามารถใช้ได้หลายตำแหน่ง เช่น หน้าผาก ขมับ ร่องแก้ม ริมฝีปาก และร่องน้ำหมาก เป็นต้น และไม่เคลื่อนจากตำแหน่งฉีด อยู่ได้นาน 6 - 9 เดือน
- YVOIRE Contour (กล่องส้ม) เหมาะสำหรับการปรับรูปหน้าบริเวณโหนกแก้ม คาง และกรอบหน้าโดยเฉพาะ มีความคงตัวดี ทำให้หน้าอิ่มฟูสวยด้วยเทคโนโลยีของ Duo Particle อยู่ได้นาน 12-18 เดือน
- YVOIRE Classic Plus เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา และบริเวณที่ตื้น เหมาะกับคนที่มีผิวบาง ดูเป็นธรรมชาติไม่เป็นก้อน อยู่ได้นาน 6 - 9 เดือน
ฟิลเลอร์ Definisse (อิตาลี)
ฟิลเลอร์ Definisse เป็นฟิลเลอร์จากประเทศอิตาลี โดยผู้ผลิตเดียวกับไหม Definisse คือบริษัท RELIFE Menarini Group ฟิลเลอร์ Definisse มีการใช้เทคโนโลยี XTR™ Technology (eXcellent Three-Dimensional Reticulation) ที่ช่วยในเรื่องของการยกพยุงและยกกระชับปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งนำเข้าโดยบริษัท เอ.เมนารินี (ประเทศไทย) จำกัด มี 3 รุ่น ดังนี้
- Definisse Restore filler อยู่ได้ 12 เดือน เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความแข็งปานกลาง เหมาะกับการเติมริ้วรอยร่องลึก ริ้วรอยหย่อนคล้อยตามวัย เติมร่องแก้ม และร่องมุมปาก
- Definisse Core filler อยู่ได้ 18 เดือน เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง เหมาะกับการเสริมกระดูก ปรับรูปหน้า เติม mid-face คาง กรอบหน้า
- Definisse Touch filler เหมาะสำหรับการเติมหน้าผากให้ดูสวยเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน 18 เดือน
สำหรับยี่ห้อนี้ได้ถูกพัฒนาและทดสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงผ่านการรับรองจากอย. ไทย มากไปกว่านั้น ตัวไซริงค์จะทำจากแก้ว ซึ่งมีลักษณะใสทำให้มั่นใจได้ถึงความบริสุทธิ์ของตัวฟิลเลอร์ และการดันตัวยานั้นก็สามารถทำได้ง่าย ส่งผลให้ผู้เข้ารับบริการเจ็บน้อยลง
ฉีดฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี สรุปคร่าว ๆ สำหรับแต่ละจุด / บริเวณ
- ฟิลเลอร์มุมปาก ยี่ห้อไหนดี : Juvederm Volift, Definisse Restore filler, e.p.t.q. S300, Perfectha Deep, Revanesse Ultra และ Restylane Volyme
- ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ยี่ห้อไหนดี : Juvederm Ultra Plus, Juvederm Volux, YVOIRE Volume Plus, Neuramis Deep, e.p.t.q. S100, e.p.t.q. S500 และ Juvederm Voluma
- ฉีดฟิลเลอร์จมูก ยี่ห้อไหนดี : Restylane perlane Lyft
- ฟิลเลอร์แก้มส้ม ยี่ห้อไหนดี : Restylane Perlane Lyft
นอกจากนี้ คุณยังสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “ฉีดฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี” บริเวณอื่น ๆ ได้ ดังนี้
ฉีดฟิลเลอร์ปาก, ฟิลเลอร์ร่องแก้ม, ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา และ ฟิลเลอร์คาง
ฟิลเลอร์ แต่ละยี่ห้อแตกต่างกันอย่างไร
ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อจะมีจุดเด่นของตนเอง ดังนี้
- Restylane โดดเด่นในเรื่องขนาดโมเลกุลฟิลเลอร์ มีเม็ดใหญ่ช่วยให้อยู่ได้นานขึ้น และมีค่าความแข็งสูง สามารถยกพยุงผิวและยืดหยุ่นได้ดี มีให้เลือกหลายรุ่นเพื่อให้เหมาะกับการฉีดรักษาแต่ละตำแหน่ง
- Perfectha มีนวัตกรรม E-Brid Technology ที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความหนืดให้กับเนื้อฟิลเลอร์ ทำให้มีความคงตัวสูงและอยู่ได้นาน
- Belotero มีหลายรุ่นเพื่อให้สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม มีจุดเด่นที่เนื้อเจลมีความคงตัวมาก สามารถใช้ฉีดเสริมกระดูกและเนื้อเยื่อผิวหนังที่ยุบตัวลงตามวัยได้
- Juvederm เด่นที่ความเรียบเนียน จะเหมาะกับการนำมาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ร่องแก้ม ปาก คาง ขมับ และแก้มตอบ มีคุณภาพสูง และมีส่วนผสมของยาชา ทั้งยังมีกระบวนการผลิต 2 เทคโนโลยี คือ Hylacross และ Vycross Technology
- Neuramis จุดเด่นอยู่ที่ราคาที่ไม่แพง และฉีดได้หลากหลายบริเวณ
- e.p.t.q. filler มีสาร HA ความเข้มข้นสูง 24 mg/ml และมีโครงสร้างโมเลกุล HA ในรูปแบบรวงผึ้ง หรือ HIVE ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความหนืดและยืดหยุ่น
- Yvoire พัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรม HICE Cross-link ลิขสิทธิ์เฉพาะจากห้องวิจัยของบริษัท แอลจี เคม (LG Chem) ที่มีความปลอดภัยสูง ไม่เพียงช่วยเพิ่มระยะเวลาของการยึดเกาะแนบแน่น ที่สำคัญผิวสัมผัสยังเรียบเนียน ไม่เป็นก้อนเมื่อสัมผัส
- Definisse ช่วยในการยกพยุงและยกกระชับปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติจากการใช้เทคโนโลยี XTR™ Technology (eXcellent Three-Dimensional Reticulation)
- Revanesse มีเทคโนโลยีการผลิตแบบ Thixofix technology เป็นนวัตกรรมของการเชื่อมโมเลกุล HA ซึ่งทำให้ฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นและคงทน
ฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี? รวมรายชื่อฟิลเลอร์ยี่ห้อที่ผ่านอย. ปี 2023
- Juvederm (ฟิลเลอร์อเมริกา)
- Belotero (ฟิลเลอร์สวิตเซอร์แลนด์)
- Neuramis (ฟิลเลอร์เกาหลี)
- Restylane (ฟิลเลอร์สวีเดน)
- Yvoire (ฟิลเลอร์เกาหลี)
- Perfectha (ฟิลเลอร์ฝรั่งเศส)
- e.p.t.q.(ฟิลเลอร์เกาหลี)
- Definisse (ฟิลเลอร์อิตาลี)
สำหรับยี่ห้อ Revanesse (ฟิลเลอร์แคนาดา) ได้มีการขอยกเลิกนำเข้า ถอดจากอย. เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ปี ค.ศ. 2022
วิธีการดูฟิลเลอร์แท้ ปลอดภัย ให้สังเกตกล่องก่อนฉีด
ฟิลเลอร์แท้แต่ละยี่ห้อดูได้ไม่ยาก หากสังเกตหรืออ่านอย่างละเอียดถี่ถ้วน ก่อนเข้ารับบริการให้ศึกษาว่านำเข้ามาอย่างถูกกฎหมายหรือไม่ และสังเกตส่วนอื่น ๆ ได้ ดังนี้
- มีเลขทะเบียนอย. ที่กล่อง
- มีเอกสารกำกับที่เป็นภาษาไทย
- มีเลข lot ที่กล่อง ซอง สติกเกอร์หรือหลอดตรงกันทุกจุด
- สามารถนำเลข lot โทรเช็กกับบริษัทที่นำเข้าหรือสแกน QR Code ข้างกล่องได้
- บริษัท แอลเลอร์แกน (ประเทศไทย) จำกัด 02 640 4999 ต่อ 1 (Juvederm)
- บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด โทร.02 023 1800 ต่อ 402 (Restylane)
- บริษัท เมิร์ซ เฮลธ์แคร์ โทร. 02 229 9696 (Belotero)
- บริษัท เอ.เมนารินี (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02 696 8500 กด 3 (Definisse)
- บริษัท Medyceles ประเทศไทย 02-117-9151 (์Neuramis)
- บริษัท แอลจี เคม ไลฟ์ ไซเอนเซส (ประเทศไทย) จำกัด 02 654 2323 (Yvoire)
นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ต่างกันของแต่ละยี่ห้อและแต่ละรุ่น เช่น ฟิลเลอร์สวีเดนจะมีรอยปรุสำหรับเปิดกล่อง มีสติกเกอร์โมโนแกรมคำว่า “VOID” และสามารถสแกน QR Code เพื่อตรวจสอบยาแท้ ด้วยแอปพลิเคชัน Eztracker ได้ นอกจากนี้ยังมีในส่วนของจำนวนซีซีในแต่ละกล่องที่ต่างกันในแต่ละยี่ห้ออีกด้วย
เช็คเลขทะเบียน อย. ยี่ห้อฟิลเลอร์ต่าง ๆ
ในแต่ละปีอาจจะมีการยกเลิกอย. ของแต่ละยี่ห้อเกิดขึ้นได้ สาเหตุจากการยกเลิกนำเข้า ส่วนประกอบไม่ได้มาตรฐาน และอื่น ๆ ซึ่งคุณสามารถตรวจสอบเองได้ที่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข
ฉีดฟิลเลอร์ ราคาเท่าไหร่? ฉีดที่ไหนดี?
ฉีดฟิลเลอร์ ราคาเท่าไหร่
สำหรับราคาในการฉีดฟิลเลอร์ในแต่ละบริเวณ จะมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ รวมถึงบริเวณที่ฉีด เพราะในบางบริเวณมีความยากและต้องใช้เทคนิคพิเศษในการฉีด สามารถเฉลี่ยคร่าว ๆ ได้ดังนี้
- Belotero 1 cc ราคาเริ่มต้น 12,000 บาท
- Neuramis 1 cc ราคาเริ่มต้น 3,900 บาท
- Restylane ใต้ตา 1 cc ราคาเริ่มต้น 9,900 บาท
- Restylane ปาก 1 cc ราคาเริ่มต้น 9,999 บาท
- Juvederm 1 cc ราคาเริ่มต้น 14,999 บาท
- e.p.t.q.1 cc ราคาเริ่มต้น 12,000 บาท
- Yvoire 1 cc ราคาเริ่มต้น 6,999 บาท
ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี
การเลือกฉีดฟิลเลอร์กับคลินิกต่าง ๆ ให้คำนึงถึงความน่าเชื่อถือและมาตรฐานของคลินิกเป็นหลัก ซึ่งสามารถดูได้จากการมีรีวิวที่น่าเชื่อถือได้ มีราคาที่เหมาะสม และมีเคสรีวิวของแพทย์แต่ละคน หรือถ้าหากไม่แน่ใจสามารถเลือกคลินิกคุณภาพพร้อมโปรโมชั่นได้จากบทความ “ฉีดฟิลเลอร์ ที่ไหนดี”
FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์
Q: ถ้าฟิลเลอร์สลายหมด จะทำให้หน้าแก่กว่าเดิมไหม
A: หลังฟิลเลอร์สลายหมดจะไม่ทำให้หน้าดูมีอายุกว่าก่อนทำ แต่จะช่วยชะลออายุผิวให้แก่ช้าลง เพราะผิวบริเวณที่ฉีดจะมีความชุ่มชื้นและมีน้ำหล่อเลี้ยงมากขึ้น ส่งผลให้คอลลาเจนและอีลาสตินบริเวณดังกล่าวจะถูกสร้างขึ้นตามมาด้วย หลังฟิลเลอร์สลายหมดคอลลาเจนและอีลาสตินของร่างกายจะยังคงอยู่ สภาพผิวก็จะดีกว่าตอนที่ยังไม่ได้ฉีดฟิลเลอร์
Q: พบเป็นก้อน มีอาการผิดปกติ หรือไม่พอใจกับผลลัพธ์ที่ฉีด มีความกังวล ควรทำอย่างไร
A: หากเกิดจากเทคนิคการฉีดและฉีดโดยใช้ฟิลเลอร์แท้ สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์ที่คลินิก (ประเมินโดยแพทย์)
Q: ขูดฟิลเลอร์ คืออะไร
A: อาการบวม แดง อักเสบจากการพลาดฉีดฟิลเลอร์ปลอม เนื้อฟิลเลอร์ไม่สามารถสลายไปเองได้ และจะทำให้เกิดเป็นก้อนแข็งหรือไหลย้อย รักษาได้อย่างเดียวคือต้องผ่าตัดหรือขูดฟิลเลอร์ออก ซึ่งหากฉีดมาเป็นเวลานานจนเป็นพังผืดเกาะ อาจไม่สามารถเอาออกได้ทั้งหมดQ: ถ้าอยากฉีดเพิ่ม ต้องรอให้ฟิลเลอร์เดิมสลายหมดก่อนหรือไม่
Q: ถ้าอยากฉีดเพิ่ม ต้องรอให้ฟิลเลอร์เดิมสลายหมดก่อนหรือไม่
A: สามารถเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ ตามความเหมาะสมและได้ทุกบริเวณ โดยไม่ต้องรอให้ฟิลเลอร์ที่เคยฉีดไปแล้วสลายหมดก่อน
Q: หลังฟิลเลอร์สลายหมดแล้ว เปลี่ยนยี่ห้อที่ฉีดได้ไหม
A: หากหลังจากที่ฟิลเลอร์สลายไปหมดแล้วและอยากเติมเพิ่มอีก สามารถเปลี่ยนยี่ห้อได้โดยไม่เกิดผลเสีย
Q: ในบางครั้งมีคนสงสัยว่า ฉีดไฮยา กับ ฉีดฟิลเลอร์ เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
A: จริง ๆ แล้วฟิลเลอร์คือคำที่ใช้เรียกสารเติมเต็มทุกชนิด แต่ในประเทศไทย แพทย์นิยมใช้เรียกสารเติมเต็มที่เป็นชนิด HA (ไฮยาลูรอนิก เอซิด) กันมากกว่า ไม่ได้ครอบคลุมถึงสารเติมเต็มชนิดอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ในบางคลินิกอาจมีการเลี่ยงใช้คำว่าฟิลเลอร์ และใช้คำว่า ฉีดไฮยา แทน เนื่องจากมีเหตุผลทางการค้า
ข้อมูลฉบับเต็ม รวมทุกข้อควรรู้ ฉีดฟิลเลอร์ ก่อนฉีด หลังฉีด ยี่ห้อไหนดี แล้วอันตรายไหม รวบรวมให้ครบจัดเต็มไม่มีกั๊ก ให้คุณได้เสริมความงามอย่างปลอดภัย หากสนใจ ฟิลเลอร์ ราคาโปรโมชั่น สามารถเลือกซื้อได้จากคลินิกใกล้บ้านผ่านเว็บ Mordee.co หรือสอบถามเจ้าหน้าที่ได้ที่ INBOX