Mordee

ส่วนลด โปรโมชัน และ ดีลพิเศษ ด้านทันตกรรมและความงาม

ซื้อคูปองส่วนลดเพื่อจองใช้บริการ จัดฟันสวย ฉีดโบท็อกซ์ เสริมความงาม และศัลยกรรมอื่น ๆ มากมายใกล้คุณ

ค้นหาจากแผนที่

คลินิก / ร้าน อื่นๆ ที่มี รักษาผิวหน้า

แอสเทอร์ทิค บีแคร์ สปา
แอสเทอร์ทิค บีแคร์ สปา
แอสเทอร์ทิค บีแคร์ สปา
แอสเทอร์ทิค บีแคร์ สปา
แอสเทอร์ทิค บีแคร์ สปา
Mordee สายไหม, กรุงเทพมหานคร
5 จาก 5
1 รีวิว
2024 ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย เสริมความงาม รถรับ-ส่ง ที่สนามบิน ที่พักสำหรับครอบครัว ฟรี Wi-fi
ดูทั้งหมด
รักษาผิวหน้า
ราคา ฿500 - ฿800
เบลลา โหมด คลินิก
เบลลา โหมด คลินิก
เบลลา โหมด คลินิก
เบลลา โหมด คลินิก
เบลลา โหมด คลินิก
Mordee วัฒนา, กรุงเทพมหานคร
4.19 จาก 5
21 รีวิว
2024 ภาษาอาหรับ ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส เสริมความงาม โรคผิวหนัง ศัลยกรรมตกแต่งความงาม รถรับ-ส่ง ที่สนามบิน ฟรี Wi-fi หนังสือพิมพ์ต่างประเทศ
เคท๊อปคลินิก เป็นศูนย์ให้บริการเสริมความงามสไตส์เกาหลีแบบครบวงจร ที่ส่งตรง ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ ประเทศไทย มีทีมศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ จากการทำงานในศูนย์ศัลยกรรมความงามที่ดีที่สุดทั่วประเทศเกาหลี โดยมีจุดมุ่งหมายในการการส่งมอบความงามและการบริการที่ดีสุดแก่ลูกค้าทุกคน ศัลยแพทย์ท... อ่านต่อ
ดูทั้งหมด
รักษาผิวหน้า
สอบถามกับทางคลินิก
เต๋าการ์เด้น เฮลธ์สปา แอนด์รีสอร์ท
เต๋าการ์เด้น เฮลธ์สปา แอนด์รีสอร์ท
เต๋าการ์เด้น เฮลธ์สปา แอนด์รีสอร์ท
เต๋าการ์เด้น เฮลธ์สปา แอนด์รีสอร์ท
เต๋าการ์เด้น เฮลธ์สปา แอนด์รีสอร์ท
Mordee ดอยสะเก็ด, เชียงใหม่
3.88 จาก 5
50 รีวิว
2024 ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย เวชศาสตร์ฟื้นฟู และ กายภาพบำบัด เสริมความงาม รถรับ-ส่ง ที่สนามบิน รับรองเอกสาร ฟรี Wi-fi
เต๋าการ์เด้น เฮลธ์สปา แอนด์รีสอร์ท เป็นรีสอร์ทเพื่อสุขภาพ ที่มีห้องพักที่มีบรรยากาศร่มรื่น แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2538 โดย Master Mantak CHIA หรือ คุณประเสริฐ จิระพงศาธร บนเนื้อที่มากกว่า100 ไร่ ที่เงียบสงบ ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 30 นาที ภายในรีสอร์ท แห่งนี้มีเครื่อ... อ่านต่อ
ดูทั้งหมด
รักษาผิวหน้า
สอบถามกับทางคลินิก
ศรินยาคลินิก
ศรินยาคลินิก
ศรินยาคลินิก
ศรินยาคลินิก
ศรินยาคลินิก
Mordee เมืองเชียงใหม่, เชียงใหม่
4.59 จาก 5
39 รีวิว
2024 ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย เสริมความงาม ศัลยกรรมตกแต่งความงาม โรคผิวหนัง ร้านกาแฟ ฟรี Wi-fi บริการจองโรงแรม
ศรินยาคลินิก เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2549 เป็นคลินิกความงามในเมืองเชียงใหม่ที่พร้อมให้บริการด้วยความจริงใจโดย พญ.เจตจันทร์ญา สิริภคพันธ์ ภายในคลินิกตกแต่งได้มาตรฐาน สะอาด ติดตั้งเทคโนโลยีที่ทันสมัย เลือกใช้เฉพาะผลิตภัณฑ์และยาที่ผ่านการรับรองจากอย.ประเทศไทยและสหรัฐอเมริกาเท่านั้น คลินิกแห่งนี... อ่านต่อ
ดูทั้งหมด
รักษาผิวหน้า
ราคา ฿3,499 - ฿5,999
ชาเทียร์ คลินิก
ชาเทียร์ คลินิก
ชาเทียร์ คลินิก
ชาเทียร์ คลินิก
ชาเทียร์ คลินิก
Mordee พัทยา, ชลบุรี
5 จาก 5
14 รีวิว
2024 ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย ศัลยกรรมตกแต่งความงาม มะเร็งวิทยา โรคผิวหนัง ฟรี Wi-fi การนำเที่ยวในท้องถิ่น ที่จอดรถ
ชาเทียร์ คลินิกเป็นคลินิกผิวพรรณและความงามที่รู้จักกันดีในพัทยา เพราะนอกจากทำเลที่ตั้งที่อยู่ในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยาบีชแล้ว ที่ชาเทียร์ คลินิกยังมีการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีนำเข้าที่ทันสมัยมาใช้ในการดูแลความงาม แก้ไขข้อบกพร่อง และปัญหากวนใจในด้านต่าง ๆ ของลูกค้า นอกจากความทันสมัยของอุ... อ่านต่อ
ดูทั้งหมด
รักษาผิวหน้า
ราคา ฿1,000 - ฿2,999
ดิอิงค์ คลินิก
ดิอิงค์ คลินิก
ดิอิงค์ คลินิก
ดิอิงค์ คลินิก
ดิอิงค์ คลินิก
Mordee บางนา, กรุงเทพมหานคร
4.5 จาก 5
1 รีวิว
2024 ภาษาไทย โรคผิวหนัง เสริมความงาม ศัลยกรรมตกแต่งความงาม ฟรี Wi-fi ห้องพักสำหรับผู้ใช้วีลแชร์ ที่จอดรถ
ดูทั้งหมด
รักษาผิวหน้า
สอบถามกับทางคลินิก
Lyfe Medical Wellness
Lyfe Medical Wellness
Lyfe Medical Wellness
Lyfe Medical Wellness
Lyfe Medical Wellness
Mordee ถลาง, ภูเก็ต
5 จาก 5
8 รีวิว
2024 ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย เวชศาสตร์ทั่วไป โรคภูมิแพ้ เสริมความงาม ฟรี Wi-fi การประสานงานด้านประกันสุขภาพ บริการจองโรงแรม
Lyfe Medical Wellness – A Partner to Your Optimal Health With our focus in prevention, personalization and rejuvenation our services and treatments are customized to suit individual aim to bring you the optimal performance – Inner health, youthful and perfect look – Youth &... อ่านต่อ
ดูทั้งหมด
รักษาผิวหน้า
ราคา ฿9,998 - ฿49,991
อมารา บิ้วตี้ แอนด์ มัสสาจ
อมารา บิ้วตี้ แอนด์ มัสสาจ
อมารา บิ้วตี้ แอนด์ มัสสาจ
อมารา บิ้วตี้ แอนด์ มัสสาจ
อมารา บิ้วตี้ แอนด์ มัสสาจ
Mordee คลองเตย, กรุงเทพมหานคร
5 จาก 5
9 รีวิว
2024 ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย เสริมความงาม ศัลยกรรมตกแต่งความงาม ฟรี Wi-fi ที่จอดรถ
อมารา บิ้วตี้ แอนด์ มัสสาจ (Amara Beauty & Massage) ให้บริการสปา​ระดับ​พรีเมียม นวดผ่อนคลาย นวดเพื่อความงาม นวดบำบัดอาการเฉพาะจุด ทำเล็บครบวงจรโดยทีมงานมืออาชีพการันตีด้วยใบประกาศนียบัตรโดยขึ้นกระทรวงสาธารณสุข  อมารา บิ้วตี้ แอนด์ มัสสาจ มีการใส่ใจในการให้บริการแก่ลูกค้า ตกแต่งสถานที่ในสไตล... อ่านต่อ
ดูทั้งหมด
รักษาผิวหน้า
ราคา ฿1,250 - ฿4,899

สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ รักษาผิวหน้า ใน ไทย

ทรีทเมนต์ บำรุงผิวหน้า (Facial treatment) คือขั้นตอน วิธีการรักษา ดูแล และบำรุงผิวหน้าด้วยกรรมวิธีต่าง ๆ ซึ่งมีความพิถีพิถัน จุดประสงค์ในการบำรุงก็มีให้เลือกทำอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการทำเพื่อลดรอยสิว เพื่อยกกระชับใบหน้า และเพื่อการสลายไขมัน เป็นต้น ซึ่งแต่ละโปรแกรม จะมีหลายขั้นตอน หรือขั้นตอนเดียวก็ได้ ตามแต่วิธีการของการรักษา เช่น

  • ทรีทเมนต์หน้าใส (PHA, Neo Peel) คือการผลัดเซลล์ผิวชั้นบนที่ตายแล้ว ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ทำให้ผิวหน้าดูใสขึ้น
  • Phono เป็นการใช้คลื่นอัลตราซาวด์ผลักวิตามินเข้าสู่ผิว เหมาะสำหรับผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย ผิวบอบบาง ผิวรอบดวงตา
  • Lonto เป็นการใช้กระแสไฟฟ้าผลักวิตามินเข้าสู่ผิว
  • การฉายแสง LED บนผิวหน้าเพื่อลดอาการแดง การอักเสบของผิว รวมถึงเป็นการฆ่าเชื้อสิว และลดการระคายเคือง
  • คลื่นวิทยุ (Radiofrequency Therapy) เป็นการใช้อุปกรณ์ปล่อยคลื่นวิทยุเข้าไปกระตุ้นสารในชั้นผิว
  • Oxygen Plus / Jet Peel การผลัดเซลล์ผิวด้วยการเพิ่มออกซิเจน เป็นการทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างล้ำลึก
  • การใช้ความเย็น (Cryotherapy) นวดผลักอาหารผิวลงใบหน้า ผลักลึกกว่าการทาครีม หรือการมาสก์หน้า
  • Meso No Needle เป็นการผลักตัวยา และวิตามินโดยการใช้เทคนิค Electroporation ที่จะช่วยแก้ไขปัญหารอยต่าง ๆ บนผิวหน้า

ข้อดีของการทำทรีทเมนต์

1.ใช้เวลาเพียงครั้งละ 30 - 40 นาที 

2.ไม่ต้องพักหน้าหลังทำ สามารถออกแดดและแต่งหน้าได้ทันที ในบางโปรแกรม

3.เริ่มเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ 

4.ไม่จำกัดช่วงอายุ ต่างกันแค่ความถี่ในการใช้บริการเท่านั้น

5.การยกกระชับใบหน้า หน้าเต่งตึง เรียววีมากขึ้น

6.ลดเลือนริ้วรอย ป้องกันหน้าแก่ก่อนวัย และดูอ่อนเยาว์ลง

7.หน้ากระจ่างใส ลดรอยดำ รอยไหม้ และสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ

8.รักษาสิว ป้องกันการเกิดสิว

9.ลดรอยคล้ำใต้ตา

10.ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหน้า เปล่งปลั่ง ดูสุขภาพดี

ข้อเสีย

1.บางคนหลังจากทำเสร็จแล้วอาจจะมีขุยเล็ก ๆ บนผิวหน้า ซึ่งจะหายไปใน 2 - 3 วัน

2.คนที่มีปัญหาสิว หรือรอยสิวชัดเจน ทรีทเมนต์อาจจะไม่ใช่ตัวที่รักษาสิวหรือรอยให้ดีขึ้นชัดเจนได้ดีที่สุด

3.หลังทำจะมีโอกาสหน้าแห้งหรือลอกได้บ้างเล็กน้อย

4.ต้องทำเรื่อย ๆ

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการ Facial Treatment

1.ควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาแพทย์ก่อนทำ

2.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่

3.ควรเว้นการทาเครื่องสำอาง เพื่อให้ง่ายในการตรวจสภาพผิวที่แท้จริง

4.ควรทำอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง

5.วิตามินที่ใช้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของผู้รับบริการ

 

อายุระหว่าง 20-30 ปี แนะนำให้นวดหน้าเดือนละ 1 - 2 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างทุก ๆ 2 - 3 เดือน เพราะคนในกลุ่มอายุนี้ยังไม่ค่อยมีปัญหาผิวมากนัก

อายุระหว่าง 30-40 ปี ในวัยนี้ เซลล์ผิวจะเริ่มผลัดเปลี่ยนอย่างช้า ๆ หน้าเริ่มฟื้นตัวน้อยลง แนะนำให้รับการรักษาผิวหน้าเพื่อลดริ้วรอย สัปดาห์ละครั้ง อย่างต่อเนื่อง

อายุระหว่าง 40-50 ปี รับบริการบำรุงผิวหน้าสัปดาห์ละ 1 - 2 ครั้ง ทำทุก 2 สัปดาห์ เพราะผิวขาดความสามารถในการฟื้นฟู และเกิดริ้วรอยได้ง่าย

การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?

ทรีทเมนต์ บำรุงผิวหน้า (Facial Treatment) เป็นกรรมวิธีที่ปรนนิบัติผิวหน้าอย่างล้ำลึก ให้สวยงาม เปล่งปลั่ง โดยการฟื้นฟูสภาพผิวหน้าจากปัญหาต่าง ๆ ให้ดูมีสุขผิวที่ดี รวมถึงยังช่วยป้องกันผิวหน้า ให้ลดการเกิดสิว เกิดริ้วรอย ทั้งสลายไขมันในส่วนที่ไม่จำเป็นอีกด้วย ทำหนึ่งครั้งอาจมีหลากหลายขั้นตอน ตามจุดประสงค์ของปัญหาผิวที่ต้องการดูแล

การทำทรีทเมนต์บำรุงผิวหน้าด้วยการนวดหน้าใสเป็นอย่างไร ?

Dermalogica เป็นผลิตภัณฑ์แบรนด์ดังจากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เลือกนำมาใช้ในการทรีทเมนต์ผิวหน้า ร่วมกับเครื่องทำทรีทเมนต์ ซึ่งนำเข้ามาจากประเทศเยอรมัน เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการผิวพรรณได้อย่างตรงจุด ทั้ง ผิวหมองคล้ำ ผิวแห้งขาดน้ำ ผิวแพ้ง่าย ระคายเคือง เป็นสิว และ รูขุมขนกว้าง เป็นต้น

ทรีทเมนต์ของ Dermalogica ให้ความแตกต่างที่ชัดเจน เพราะนอกจากจะเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอันดับหนึ่งจากประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว ยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านผิวออกแบบทรีทเมนต์ผิวหน้าโดยเฉพาะสำหรับลูกค้าแต่ละรายอีกด้วย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไป ตอบโจทย์ทุกความต้องการการดูแลของผิวหน้า ได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

สำหรับโปรแกรมนี้ เหมาะมากสำหรับคนที่เตรียมตัวกำลังจะเป็นเจ้าสาว ออกงานสังคม รวมถึงคนที่กลับจากเที่ยวทะเล ลุยเขา เข้าป่า ใบหน้าที่ตากแดดนาน ๆ และคนที่ต้องการบำรุงใบหน้า ให้กระจ่างใสแบบเร่งด่วน

การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?

การดูแลผิวหน้าด้วยการทรีทเมนต์ของ Dermalogica จะเริ่มตั้งแต่การทำแผนที่สภาพผิว หรือ Face Mapping เพื่อเป็นการวิเคราะห์ผิวในเชิงลึก และเป็นการออกแบบทรีทเมนต์ให้เหมาะสมกับสภาพผิวเราในแต่ละครั้ง เพราะผิวจะแตกต่างกันทุกครั้งที่มารับบริการ

เป็นคอร์สทรีทเมนต์ผิวหน้า 1 คอร์สที่สามารถทำได้มากถึง 10 รายการด้วยกัน โดยเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนแรก Clean เป็นการทำความสะอาดผิวหน้า ด้วย Precleanse ที่ช่วยในการล้างเครื่องสำอาง และสารกันแดดได้อย่างสะอาด ล้ำลึก แล้วต่อด้วยการ Scrub เป็นการสครับผลัดเซลล์ผิว ให้หนังกำพร้า เซลล์ผิวที่ตายไปแล้ว หลุดออกอย่างง่าย แล้วตามด้วยการ Streaming พ่นไอน้ำ เพื่อการกระชับรูขุมขน และชำระล้างสิ่งสกปรกที่อุดตันผิว

ขั้นตอนถัดมา Acne clear จะทำการดูดสิว กำจัดสิวเสี้ยน ซึ่งจะช่วยทำให้หน้า มีความเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น จากนั้นก็จะเป็นการนวดกดจุด ด้วยน้ำมันที่ผ่อนคลาย นวดยกกระชับผิวหน้า ก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนการบำรุงด้วยเซรั่ม สูตรเข้มข้นพร้อมกับการใช้เครื่อง Facial Treatment เพื่อให้ครีมซึมเข้าผิวได้ล้ำลึก แล้วตามด้วยการ Mask 2 ขั้นตอน และบำรุงใต้ตา ด้วยเซรั่มเฉพาะจุด ทั้งบริเวณใต้ตา และร่องน้ำหมาก จากนั้น ปิดท้ายด้วยเซรั่มบำรุงทั่วใบหน้า และปกป้องผิวด้วยครีมกันแดด

สำหรับผลิตภัณฑ์ทรีทเมนต์ Dermalogica ที่สถาบันเสริมความงามใช้ จะมี Precleanse, Special Cleansing Gel, Multivitamin Thermafoliant, Soothing Addictive, Oligopeptide Ionactive Serum, Colloidal Masque Base, Contour Masque, Multi Active Toner, C-12 Pure Bright Serum และ Solar Defines Booster เป็นต้น

ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?

ไม่ต้องพักฟื้น หลังจากทำเสร็จแล้ว สามารถทำกิจวัตรประจำวัน ออกไปเที่ยว เดินเล่นได้เลย แต่ให้เลี่ยงการออกแดดที่ร้อนจัด และนาน

การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?

ภายหลังจากการทำทรีทเมนต์ จะทำให้ผิวไวต่อแสงมากขึ้น จึงจำเป็นต้องใช้ครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ ให้งดเว้นจากการใช้ครีม ที่มีส่วนผสมของเรตินเอ เป็นเวลา 72 ชั่วโมง หลังจากการทำทรีทเมนต์ผิวหน้า เพราะจะทำให้เกิดการระคายเคืองผิว และรอยแดงได้

มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?

เมื่อจบทุกขั้นตอนการดูแลบำบัดผิวในครั้งแรก จะให้ความรู้สึกว่าผิวหน้าดูกระจ่างใสมากขึ้น มีความชุ่มชื้น นุ่มลึก รู้สึกได้ถึงสุขภาพผิวที่ดีขึ้นอย่างทันที ผลลัพธ์ของการบำบัดผิวด้วยทรีทเมนต์ Dermalogica จะแตกต่างจากทรีทเมนต์อื่น ๆ ทั่วไป เพราะเป็นการบำบัดผิวหลายขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นผลัดเซลล์ผิว ทำความสะอาดผิว 2 ครั้ง การกดหรือบีบสิว การนวดและการมาส์กผิวหน้าที่ออกแบบมาเฉพาะ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่าง ช่วยให้มีสุขภาพผิวที่ดี เปล่งปลั่ง กระจ่างใสมากขึ้น ทั้งยังมีความชุ่มชื้น บำรุงผิวได้อย่างครบครัน อย่างไรก็ตาม เพื่อผลลัพธ์ที่ดี ควรจะได้รับบริการทรีทเมนต์ Dermalogica ทุก ๆ 4 - 6 สัปดาห์ หรือช่วงเวลาที่ผิวชั้นนอก หรือชั้นหนังกำพร้าได้หลุดออก

ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?

การทำทรีทเมนต์ บำรุงผิวหน้า ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้เลย อาจเลี่ยงการออกแดด และถูหน้าแรง ๆ ควรใช้ครีมบำรุงเป็นประจำทุกวัน ร่วมกับวิธีบำรุงผิวหน้าอื่น ๆ ส่วนความถี่ในการทำ ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แต่โดยปกติทั่วไป สามารถวัดช่วงระยะได้ ดังนี้

  • ผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี อาจทำทุก 4 - 6 สัปดาห์ เป็นประจำ
  • ผลัดเซลล์ผิวด้วยเลเซอร์ อาจต้องทำ 3 ครั้งขึ้นไปต่อหนึ่งโปรแกรมทรีทเมนต์
  • การผลักวิตามิน อาจทำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง นาน 3 สัปดาห์ขึ้นไป

การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?

1.หลังจากทำเสร็จแล้วอาจจะมีขุย หรือหน้าลอก ซึ่งใน 2 - 3 วันก็จะหายไป ในระหว่างนี้ ไม่ควรแกะ เกา และหมั่นทาครีมบำรุง รวมถึงครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ

2.ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด ๆ หลังการรักษา 24 ชั่วโมงแรก

3.รักษาความสะอาดของผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอ โดยใช้สบู่อย่างอ่อน

4.ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อให้มีสุขภาพที่ดี ส่งผลต่อความเปล่งปลั่งของผิวพรรณ

มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?

โดยทั่วไปแล้ว หลังจากการทำทรีทเมนต์ ผิวหน้าจะดูใสขึ้นประมาณ 20 % แต่จะดีขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากการมาทำซ้ำตามระยะเวลาของคอร์สการดูแลผิวหน้า ผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละคน และวิธีการที่ดูแล ทั้งนี้ควรดูแลผิวหน้าด้วยวิธีอื่นควบคู่ไปด้วย

ทางเลือกในการทรีทเมนต์ผิวหน้าด้วย กัวชา เพื่อขับสารพิษ และยกกระชับหน้า

สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ Gua Sha ในประเทศไทย

กัวซา หรือ Gua Sha คือ หินคริสตัล หรือหินหยกที่ใช้สำหรับการนวดหน้า เป็นศาสตร์การแพทย์แผนจีนที่ใช้ในการปรนนิบัติผิวมาอย่างยาวนาน โดยการลากหินไปตามผิวหนัง หรือผิวหน้าที่มีน้ำมันกัวซา เพื่อช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต และลดการอักเสบให้กับใบหน้า ทำให้ใบหน้าเรียวกระชับมากขึ้น

Gua Sha เมื่อนำมานาบกับใบหน้า และนวดไปในทิศทางขึ้นบน จะทำการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด การระบายน้ำเหลือง ช่วยคลายกล้ามเนื้อบนใบหน้าด้วยความเย็นจากหิน นอกจากนี้ ยังสามารถช่วยยกกระชับผิวหน้าได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม การทำกัวซานั้น ไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องหลอดเลือด การแข็งตัวของเลือด และมีภาวะเลือดออกง่าย ซึ่งห้ามทำกัวซาอย่างเด็ดขาด เนื่องจากการทำกัวซานั้น มีความเกี่ยวพันกับระบบไหลเวียนของเลือด 

การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?

Gua Sha มีประโยชน์ในการช่วยขับสารพิษบนใบหน้า อันเป็นสาเหตุของสิว ฝ้า หน้าหมองคล้ำ ไม่สดใส ทั้งยังช่วยลบเลือนริ้วรอยแห่งวัย ไม่ว่าจะตรงที่ถุงใต้ตา หรือหางตา และร่องแก้ม นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับเซลล์ผิวหน้า และอวัยวะภายใน ด้วยการกระตุ้นเส้นชีพจรบนใบหน้า กระตุ้นการหมุนเวียนเลือด ทำให้ใบหน้าได้รับออกซิเจน และสารอาหารเต็มที่ รวมถึงการยกกระชับกล้ามเนื้อใบหน้า หนังตา แก้ม ปรับเปลี่ยนรูปหน้า ทำให้ผิวพรรณดูเต่งตึง สดใส และมีสุขภาพดี

Gua Sha นับว่าเป็นวิธีการบำบัดผิวหน้าที่มีประสิทธิภาพ เพราะการทำกัวซาจะช่วยกระตุ้นเส้นประสาทส่วนปลาย กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และน้ำเหลืองให้ฉีดเข้าไปยังใต้ผิวหนัง ซึ่งส่งผลให้ใบหน้ากระจ่างใส ริ้วรอยต่าง ๆ ดูจางลง รวมถึงจุดด่างดำ ที่ไม่ว่าจะเกิดจากสิว กระ หรือ ฝ้า ก็สามารถจางลงอย่างเห็นผลชัดเจน ถ้าทำอย่างต่อเนื่อง เพราะการไหลเวียนของเลือดบนใบหน้าดีขึ้น จึงเกิดผลดีต่อสภาพผิวนั่นเอง

ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?

โดยปกติ ภายหลังจากการทำ Gua Sha จะเกิดจุด หรือรอยผื่นสีต่าง ๆ ตามผิวหนัง ซึ่งจะค่อย ๆ จางหายไปเองภายในระยะเวลา 3 - 7 วัน ความเร็วช้า จะขึ้นอยู่กับผื่นสีที่เกิดขึ้น หากเป็นสีชมพูอ่อนนั้น จะหายเป็นปกติได้เร็วที่สุด แต่ถ้ามีสีเข้ม ซึ่งยิ่งสีเข้มมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งใช้เวลานานมากขึ้นเท่านั้น 

นอกจากนี้ หลังการทำกัวซา อาจมีอาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อในผู้ที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย และอาจมีอาการอ่อนเพลีย รวมถึงครั่นเนื้อครั่นตัวจากการอักเสบที่เกิดขึ้นในร่างกายได้ แต่จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 1 - 2 วัน ในระหว่างนี้ ให้รับประทานยาบรรเทาอาการปวดไว้ อย่างไรก็ตาม หากมีอาการไข้สูง เจ็บปวดกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง แนะนำให้รีบไปพบแพทย์โดยทันที โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้สูงอายุ ไม่ควรใช้ยาบรรเทาอาการเจ็บปวดด้วยตนเอง

ผลข้างเคียงหลัก ๆ จากการทำ Gua Sha คือ ชั้นผิวหนังมีความบอบช้ำ เกิดรอยแดง ซึ่งจะหายไปเองภายใน 1 สัปดาห์ สำหรับผู้มีผิวแห้งมาก และผู้ที่ไม่ได้ใช้ตัวประสานในการทำกัวซา อาจทำให้มีเลือดออกได้ รวมถึง รู้สึกอ่อนเพลีย ครั่นเนื้อครั่นตัวจากการอักเสบ

การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?

หากเกิดผลข้างเคียง สามารถรับประทานยาพาราเซตามอลตามขนาดที่แนะนำได้ แต่หากอาการไม่ดีขึ้น มีไข้สูง มีอาการอักเสบ บวม แดง แนะนำให้รีบไปพบแพทย์โดยทันที 

มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?

หลังจาก Gua Sha จะรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น และลดความตึงเครียดออกได้ชั่วคราว อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ได้ จะขึ้นอยู่กับเทคนิคการนวด ความหนักเบาของมือ และ ความขยันในการนวด โดยจากคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ ได้แนะนำว่า หากอยากมีผิวหน้าที่สุขภาพดี เต่งตึง ดูกระชับ ให้ใช้กัวซานวดหน้าอย่างน้อย สัปดาห์ละ 2 - 3 ครั้ง

 

ประเทศไทย มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางราชการว่า ราชอาณาจักรไทย ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีลักษณะภูมิประเทศที่หลากหลายโดยแบ่งออกเป็น 4 ภูมิภาค 77 จังหวัด และมีอากาศค่อนข้างร้อนชื้นตลอดทั้งปี 

เป็นที่ยอมรับกันว่าประเทศไทย เป็นประเทศที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก นำพาชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อยให้เดินทางมาท่องเที่ยวและอาศัยอยู่ในประเทศไทยด้วยเหตุผลนานานับประการ และในปัจจุบันประเทศไทยยังมีอัตราการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในเรื่องของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เนื่องจากมีความพร้อมในการให้บริการที่ได้มาตรฐานในระบบสากล รวมทั้งมีค่ารักษาพยาบาลที่ถูกกว่า และใน ปัจจุบัน ประเทศไทย มีจํานวนสถานพยาบาล ที่ได้รับ การรับรอง มาตรฐาน ในระดับ สากล JCI มากที่สุดใน AEC ถึง 56 แห่ง ซึ่งมาก เป็นอันดับ 4 ของโลก อีกด้วย

จังหวัดท่องเที่ยวที่ยอดนิยมของไทย

กรุงเทพมหานคร อันดับหนึ่งตลอดกาลคงต้องยกให้กับจังหวัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศไทยและเป็นจังหวัดที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญมากมาย แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี มีย่านธุรกิจ และ  แหล่งช้อปปิ้งอีกมากมาย ซึ่งถ้าพูดถึงที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ทุกคนต้องแวะไป ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติคือ วัดพระแก้ว, วัดอรุณ, วัดโพธิ์, เยาวราช, ถนนข้าวสาร, ตลาดนัดจตุจักร และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งการเดินทางคมนาคมในกรุงเทพฯนั้นก็แสนจะสะดวกสบาย สามารถเดินทางได้โดยขนส่งสาธารณะ เช่น Airport link, BTS, MRT, รถแทกซี่, รถเมล์, รถตุ๊กตุ๊ก เป็นต้น

เชียงใหม่ เชียงใหม่ก็ถือเป็นเมืองยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยมีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในช่วงหน้าหนาว ซึ่งมีอากาศที่ค่อนข้างเย็นสบายละมีบรรยากาศที่ดี เชียงใหม่ยังเป็นเมืองที่มีธรรมชาติที่สมบูรณ์ และยังเป็นเมืองแห่งวัฒนธรรม สถานที่ที่น่าสนใจในเชียงใหม่ ได้แก่ วัดพระธาตุดอยสุเทพ ดอยอินทนนท์ ถนนนิมมานเหมินทร์ วัดอุโมงค์ เป็นต้น เชียงใหม่เป็นเหมือนศุนย์กลางการท่องเที่ยวทางภาคเหนือ เพราะสามารถต่อรถไปยังที่เที่ยวรอบ ๆ ได้อย่างสะดวก เช่น จ. เชียงราย, จ. แม่ฮ่องสอน เป็นต้น

ภูเก็ต เกาะที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีหาดทรายที่สวยงาม มีน้ำทะเลใส เหมาะกับการเล่นน้ำและดำน้ำ หรือทำกิจกรรมทางน้ำแบบอื่น ๆ ชายหาดที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวก็คือ หาดป่าตอง, หาดกะตะ, หาดกะรน เป็นต้น ทั้งสามารถซื้อทัวร์แบบไปเช้าเย็นกลับยังเกาะใกล้ ๆได้ เช่น หมู่เกาะพีพี, เกาะราชา, เกาะไข่ เป็นต้น หากใครที่ไม่ชอบทะเล ก็สามารถเข้าไปเที่ยวชมวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวภูเก็ตภายในตัวเมืองได้ เช่น สถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีสที่ถนนถลาง, ซอยรมณีย์ หรือ ไหว้พระขอพรจากวัดฉลองซึ่งเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวภูเก็ต เป็นต้น

พัทยา ตั้งอยู่ในจังหวัดชลบุรี เป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวไปเยือนและเป็นที่นิยมมากแห่งหนึ่งไม่แพ้สถานที่อื่น ๆ และเป็นที่รู้จักกันมากกว่าตัวจังหวัด และเป็นหนึ่งในสถานที่ยอดฮิตของคนไทยเพราะใกล้กรุงเทพเพียงแค่ 100 กิโลเมตร สามารถมาเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับได้สบาย และนอกจาก วอล์คกิ้งสตรีท ที่หลายๆคนนึกถึง พัทยายังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น ปราสาทสัจธรรม, สวนน้ำรามายณะ เป็นต้น ซึ่งการเดินทางยอดนิยมสำหรับการมาพัทยาคือ การขับรถยนต์ส่วนตัว และการนั่งรถตู้จากกรุงเทพฯ และเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับเดินทางมาพักผ่อนแบบครอบครัวอีกด้วย

สภาพภูมิอากาศของประเทศไทย

ประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตร้อนใกล้เขตศูนย์สูตร มีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ เป็นตัวกำหนดลักษณะอากาศของประเทศไทย พื้นที่ส่วนบนเป็นภูเขาและที่ราบสูง พื้นที่ส่วนกลางเป็นที่ราบลุ่ม พื้นที่ทางใต้เป็นแหลมยื่นลงไปในทะเล

ลักษณะภูมิอากาศ สามารถแบ่งได้เป็น 3 ฤดูกาล ดังนี้ ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่ เดือนกุมภาพันธ์ ถึง พฤษภาคม, ฤดูฝน จะเริ่ม ตั้งแต่ เดือนมิถุนายน ถึงตุลาคม และฤดูหนาว จะเริ่ม ตั้งแต่ เดือนพฤศจิกายน ถึงมกราคม

อุณหภูมิโดยทั่วไปอยู่ในเกณฑ์ร้อนและไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก โดยมีค่าเฉลี่ยทั่วประเทศประมาณ 27 องศาเซลเซียส มีค่าสูงสุดเฉลี่ย 32 องศาเซลเซียส และและต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส โดยมีค่าอุณหภูมิผันแปรตามสภาพภูมิประเทศ กล่าวคือ ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศร้อนจัดและหนาวจัดกว่าภาคอื่น ๆ, ภาคกลางและภาคตะวันออก มีบางส่วนของพื้นที่ติดกับทะเล ทำให้อุณหภูมิไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วไปประมาณ 28 องศาเซลเซียส, ภาคใต้ทั้งสองฝั่งล้อมรอบด้วยทะเล อุณหภูมิไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 27.3 องศาเซลเซียส

การเดินทางในประเทศไทย

การเดินทางในประเทศไทย ไม่ว่าจะเดินทางไปที่จังหวัดไหนก็มีความสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางอากาศ หรือทางน้ำ

ทางบก ก็มีเส้นทางหลักที่สะดวกไปได้ทั่วถึงทุกจังหวัดในประเทศไทย และมีทางเลือกที่หลากหลาย เช่น การเดินทางโดยรถประจำทาง, รถแทกซี่ (มีบริการในกรุงเทพฯและเมืองใหญ่ๆ), รถมอเตอร์ไซค์ (นิยมใช้บริการในระยะใกล้ๆ) รถเช่า, หรือรถยนต์ส่วนบุคคล

ทางอากาศ ปัจจุบันประเทศไทยมีสายการบินในประเทศหลายสาย ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยเฉพาะจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ยอดนิยม เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของนักท่องเที่ยว

ทางน้ำ เนื่องจากเมืองไทยมีแม่น้ำลำคลองอยู่ทั่วไป และยังมีหลายคลองที่มีเรือโดยสารวิ่งรับส่งคนตามท่าเรือต่าง ๆ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ

ประชากรในประเทศไทย

ประเทศไทย มีจำนวนประชากรโดยประมาณ 65 ล้านคนซึ่งมีความหลากหลายทางเชื้อชาติ โดยประมาณ 3 ใน 4 มีเชื้อสายไทย นอกจากนี้ยังมีคนไทยเชื้อสายจีนเป็นจำนวนมาก รวมทั้งคนไทยเชื้อสายมลายูในภาคใต้ตอนล่าง และคนไทยเชื้อสายมอญ เขมร และชาวเขาเผ่าต่าง ๆ และประชากรส่วนใหญ่ ส่วนใหญ่นับถือ ศาสนาพุทธ และศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ตามลำดับ

ข้อมูลอื่น ๆ

ภาษา ประเทศไทยมีภาษาไทยเป็นภาษาราชการเพียงภาษาเดียว มีการระบุว่าเป็นภาษาหลักของการศึกษาและใช้ในราชการ ในขณะที่ ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาที่สองที่พบมากที่สุดในประเทศไทย

สกุลเงิน สกุลเงินที่ใช้เป็นสกุลเงินบาท

วันหยุด ราชการ ที่สำคัญ ของไทย ได้แก่ วัน ขึ้นปีใหม่, วัน สงกรานต์,วัน เฉลิมพระชน มพรรษา ของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และของสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรม ราชินี, วัน แม่แห่งชาติ เป็นต้น

การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในไทย

ปัจจุบัน อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว นับเป็นอุตสาหกรรมหลักที่ทำรายได้เข้าสู่ประเทศอย่างมหาศาลในเวลาที่ผ่านมา การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในประเทศไทย เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและโดดเด่น โดยที่ประเทศไทย ติดอันดับ 1 ของ เอเชีย  เนื่องจากไทยมีหน่วยการแพทย์ที่มีคุณภาพ มีราคาที่ไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับคุณภาพที่ได้การรักษา รวมถึงประเทศไทยนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ มีจุดเด่น ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เป็นอย่างดีอีกด้วย โดยเฉพาะจังหวัดที่เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวหลัก และมีสถานพยาบาลที่พร้อม เช่น กรุงเทพฯ, เชียงใหม่, ภูเก็ต, และเกาะสมุย เป็นต้น