Thermage คืออะไร ทำไมแพทย์ถึงแนะนำให้ทำเทอร์มาจทุกปี
Thermage คือ นวัตกรรมการยกกระชับผิวอันดับต้น ๆ ที่วงการแพทย์และคลินิกเสริมความงามแนะนำให้ทำ เพื่อฟื้นฟูผิวหน้าที่หย่อนคล้อยตามวัยให้ยกกระชับขึ้น และเรียบเนียนดูอ่อนเยาว์ รวมถึงช่วยในการสลายเซลลูไลท์ให้หน้าดูเรียวเล็กลง เทอร์มาจจึงเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่คุณไม่ควรพลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณย่างเข้าสู่อายุ 30 ปี
เลือกหัวข้อที่สนใจ รวมข้อควรรู้ก่อนทำ Thermage (เทอร์มาจ)
- Thermage คืออะไร รวมทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับเทอร์มาจ
- Thermage FLX มีจุดเด่นอย่างไร?
- Thermage เหมาะกับใคร ทำบริเวณไหนได้บ้าง
- Thermage อันตรายหรือไม่ ข้อควรรู้ก่อนและหลังทำ
- วิธีตรวจสอบเครื่อง Thermage แท้ ปลอม
- ผลลัพธ์ที่ได้จากการทำ Thermage อยู่ได้นานไหม
- ข้อดีของการทำเทอร์มาจ (Thermage)
- ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการทำ Thermage
- Thermage, Ulthera และ HIFU ทำตัวไหนดี ทราบข้อแตกต่างของทั้ง 3 ประเภท
- Thermage ราคาเท่าไหร่ ทำที่ไหนดี?
Thermage คืออะไร รวมทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับเทอร์มาจ
เทอร์มาจ คือเทคโนโลยีการแพทย์ประเภทใด
เทอร์มาจ คือเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่เข้ามาช่วยในเรื่องของการยกกระชับผิวด้วยคลื่นวิทยุความถี่สูงประเภทขั้วเดียว (High Radio Frequency: Monopolar) สามารถส่งพลังงานในระดับที่ลึกได้ถึงชั้นไขมันใต้ผิว ซึ่งผ่านชั้นผิวหนังมากถึง 3 ระดับ (ชั้นผิวหนังกำพร้า ชั้นผิวหนังแท้ และชั้นไขมันใต้ผิว)
High RF-Monopolar เป็นพลังงาน ที่ส่งพลังงานเป็นก้อนใหญ่ ๆ เพื่อการกระชับใบหน้าอย่างทั่วถึง และช่วยสลายไขมันส่วนเกินได้เป็นอย่างดี ต่างจากเครื่อง RF ทั่วไปที่ใช้แบบ Bipolar RF ซึ่งเหมาะกับกระชับผิวหนังส่วนบนเท่านั้น
หลักการทำงานของ Thermage
หลักการทำงานของ Thermage คือ การส่งคลื่นวิทยุที่มีความถี่สูงไปยังชั้นผิวหนังแท้และชั้นไขมันใต้ผิว ซึ่งเป็นการทำให้ผิวบริเวณดังกล่าวเกิดความร้อนลึก จึงส่งผลให้เกิดการหดตัว รวมถึงการเรียงตัวใหม่ของเส้นใยคอลลาเจนและอิลาสติน ผลที่ได้จากพลังงานความร้อนนี้คือการมีผิวที่กระชับและเรียบเนียนมากขึ้นนั่นเอง
ผลจากการทำ Thermage
สำหรับผลที่ได้จากการส่งคลื่นพลังงานไปยังชั้นไขมันใต้ผิวคือ การสลายไขมันส่วนเกิน ช่วยลดผิวเปลือกส้ม ลดเซลลูไลท์ได้อีกด้วย
เทอร์มาจ จึงเป็นนวัตกรรมการดูแลผิวหน้าที่ครอบคลุมทั้งการสร้างคอลลาเจนให้ผิวแข็งแรง ริ้วรอยลดลง รูขุมขนเล็กลง ผิวหน้ายกกระชับและไขมันส่วนเกินลดลงได้หลังจากการทำเพียงครั้งเดียว
Thermage มีกี่รุ่น
ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน เทอร์มาจมีการผลิตออกมาแล้วทั้งหมด 4 รุ่น โดยเริ่มมีการใช้งานมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 ได้แก่
- Thermage TC เป็นเครื่องที่ถูกพัฒนาและเริ่มใช้งานในปี ค.ศ. 2003
- Thermage NXT เป็นเครื่องที่ถูกพัฒนาและเริ่มใช้งานในปี ค.ศ. 2007
- Thermage CPT เป็นเครื่องที่ถูกพัฒนาและเริ่มใช้งานในปี ค.ศ. 2009
- Thermage FLX เป็นเครื่องที่ถูกพัฒนาและเริ่มใช้งานในปี ค.ศ. 2018
โดย Thermage เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นในรุ่นของ Thermage CPT แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นเครื่องรุ่นเก่าที่ไม่มีระบบคำนวณพลังงานความร้อนใต้ผิว หากคลินิกใดยังใช้รุ่นนี้ มีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องอาศัยแพทย์ที่มีความชำนาญสูงในการทำ และใช้ระยะเวลาในการทำประมาณ 1-2 ชั่วโมง ด้วยความที่เป็นรุ่นเก่าแล้วราคาจึงไม่สูงมาก และถูกกว่าเมื่อเทียบกับ Thermage FLX
Thermage FLX มีจุดเด่นอย่างไร?
Thermage FLX คือ เครื่องรุ่นใหม่ล่าสุดที่มีหัวยิงใหญ่กว่าเดิมทำให้ใช้จำนวนช็อตน้อยกว่าเดิม มีระบบช่วยคำนวณพลังงานความร้อนใต้ชั้นผิว และให้ผลความแม่นยำแบบเรียลไทม์ ทำให้ใช้เวลาในการทำน้อยลงกว่าเดิมถึง 25%
ข้อดีของ Thermage FLX คือ การยิงพลังงานลงใต้ชั้นผิวที่เร็วขึ้นและลึกขึ้น มีความแม่นยำสูง เจ็บน้อยลง และลดโอกาสผิวไหม้หรือแสบผิว เพราะที่หัวจะมี Integated cooling แบบใหม่ ช่วยปกป้องผิวด้านบนด้วยความเย็น ซึ่งนวัตกรรมต่าง ๆ ได้ถูกแฝงอยู่ในชื่อรุ่น FLX อีกด้วย ดังนี้
F FASTER : ช่วยให้ปล่อยพลังงานความร้อนได้ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้นถึง 33% และเร็วกว่ารุ่นเดิม 25%
L ALGORITHM : ด้วยเทคโนโลยี AccuREPTM Technology แบบ Real-time ทำให้เครื่องสามารถตรวจวัดความต้านทานผิวได้อัตโนมัติ โดยทุกพลังงานที่ยิงลงไปนั้นมีความเหมาะสมกับพื้นที่ผิวในแต่ละบริเวณ มีความสม่ำเสมอ มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง
X EXPERIENCE : ด้วย Advanced Comfort Pulse Technology มีระบบ Cooling effect และพลังงานสั่น (Multi-Directional Vibration) ป้องกันผิวไหม้และลดความเจ็บขณะทำ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายมากกว่ารุ่นอื่น ๆ
ปัจจุบัน ควรมีการใช้งานเพียง 2 รุ่นคือ CPT และ FLX และเพื่อประสิทธิผลในการรักษาที่ดี แนะนำให้เลือกใช้บริการจากคลินิกที่มีเครื่องใหม่ล่าสุดอย่าง Thermage FLX ที่นอกจากได้ผลดีและใช้เวลาน้อยกว่า ยังเจ็บน้อย และมีความแม่นยำที่สุด
ข้อแตกต่างระหว่าง Thermage FLX และ Thermage CPT
Thermage FLX และ Thermage CPT คือ รุ่นของเทอร์มาจที่เปิดตัวออกมาห่างกันหลายปี โดยมีข้อแตกต่างกัน ดังนี้
Thermage FLX | Thermage CPT | |
ปีที่เริ่มใช้งาน | ปี ค.ศ. 2018 | ปี ค.ศ. 2009 |
ขนาดหัวยิง | เล็กกว่า เปลี่ยนหัวยิงได้ หัวสีม่วง (หัวปกติสำหรับยิงใบหน้า) | ใหญ่กว่า มีขนาดเดียว หัวสีส้ม |
เวลาในการทำ | 45 นาที - 1.30 ชั่วโมง | 1 - 2 ชั่วโมง |
ระบบช่วยคำนวณพลังงานความร้อนใต้ชั้นผิว | มี | ไม่มี |
การโฟกัส | แม่นยำแบบเรียลไทม์ | แม่นยำ |
ราคา | สูงกว่า CPT | ต่ำกว่า FLX |
Thermage เหมาะกับใคร ทำบริเวณไหนได้บ้าง
Thermage เหมาะกับคนที่มีปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับเรื่องผิวหนัง โดยเฉพาะผิวหนังหย่อนคล้อย มีไขมันส่วนเกิน ซึ่งไม่ได้จำกัดเพียงแค่ใบหน้าเท่านั้น เพราะ Thermage สามารถรักษาได้ครอบคลุมหลายส่วนของร่างกาย ตั้งแต่หน้าผาก หางตา ร่องแก้ม กรอบหน้า ใต้คาง ลำคอ ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง เอว สะโพก และก้น ซึ่งคนที่เหมาะกับการทำหัตถการนี้คือ
- ผู้ที่มีปัญหากรอบหน้าใหญ่ ดูไม่เรียว หรือมีกรอบหน้าที่ดูไม่ชัด
- ผู้ที่มีผิวหน้าหมองคล้ำ ดูไม่สดใส และไม่อ่อนเยาว์
- ผู้ที่มีปัญหาผิวรอบดวงตาหย่อนยาน เห็นถุงใต้ตาชัด หางตาตก ไขมันที่เปลือกตาเยอะ มีรอยตีนกา และรอยพับ
- ผู้ที่มีร่องแก้มหย่อนยาน
- ผู้ที่มีเหนียงหรือมีผิวใต้คางที่ไม่กระชับ
- ผู้ที่มีกรอบหน้าหย่อนหรือห้อย
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหนังตามร่างกายหย่อนคล้อย ผิวห้อย ไม่กระชับ เช่น คอ หน้าท้อง ต้นแขน หลังมือ
- ผู้ที่มีปัญหาเซลลูไลท์บริเวณต้นขาและก้น
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวหน้า กระชับรูขุมขน ช่วยให้ผิวกระชับ แลดูอ่อนเยาว์ขึ้น
Thermage ทำส่วนไหนได้บ้าง
Thermage สามารถทำได้ทั้งบริเวณใบหน้า รอบดวงตา และลำตัว การใช้จำนวนช็อตแพทย์จะทำการประเมินสำหรับการใช้ในแต่ละจุด โดยคำนึงถึงบริเวณที่ต้องการทำ และสภาพผิวของผู้เข้ารับบริการ
- บริเวณใบหน้า เทอร์มาจสามารถยกกระชับได้ทั่วหน้าและลำคอ เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวใบหน้าหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง รวมถึงมีแก้มห้อย มีเหนียง ผิวใต้คางหย่อนคล้อย เพราะจะทำให้มีกรอบหน้าที่ชัดและใบหน้าเรียวกระชับขึ้น
- Thermage ตา เหมาะกับผู้ที่มีผิวรอบดวงตาหย่อนคล้อย มีริ้วรอย รวมถึงผู้ที่ต้องการยกคิ้วให้ได้รูป ช่วยแก้ไขปัญหาคิ้วตก หนังตาตก และผิวเปลือกตาที่มีรอยย่นได้ดี
- ลำตัว สามารถทำได้ทั้งต้นแขน หลังมือ หน้าท้อง สะโพก และต้นขาที่มีปัญหาหย่อนคล้อย ช่วยให้กระชับเรียบเนียนขึ้นและรอยย่นลดลง
Thermage ไม่เหมาะกับใคร
- สตรีมีครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางประเภท เช่น โรคหัวใจที่ต้องใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (pacemaker) โรคเกี่ยวกับระบบไหลเวียนเลือด โรคเกี่ยวกับระบบประสาท โรคเบาหวาน และโรคลมชัก เป็นต้น
- ผู้ที่แก้มตอบ ไม่มีไขมัน แต่กล้ามเนื้อไม่กระชับ มีผิวหย่อนคล้อย (จะเหมาะกับหัตถการอื่นมากกว่า เช่น HIFU และ Ulthera)
- ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้ง รอบดวงตาคล้ำ หรือตาลึกตาโหล ในกรณีนี้แนะนำให้ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ผู้ป่วยโรคผิวหนังอักเสบ อยู่ในช่วงมีสิวอักเสบ มีแผลสดและแผลติดเชื้อที่ผิวหนัง
- เลเซอร์หน้า เลเซอร์กำจัดขน ฉีดฟิลเลอร์ ฉีดโบท็อกซ์ภายใน 1 เดือนก่อนทำ
Thermage อันตรายหรือไม่ ข้อควรรู้ก่อนและหลังทำ
Thermage อันตรายไหม?
Thermage เป็นเครื่องมือการรักษาที่ปลอดภัย ไม่มีอันตรายใด ๆ จากคลื่นความถี่ของวิทยุ แต่อาจเกิดผลข้างเคียงที่เป็นเรื่องปกติอย่างอาการบวมแดง และรู้สึกปวดระบมใต้ผิวได้ ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายไปได้เองภายใน 1 สัปดาห์
หากเกิดเหตุการณ์อื่น ๆ เช่น ใบหน้าเกิดรอยบุ๋ม ขรุขระ ผิวหน้าไหม้ เกิดรอยดำ อักเสบและใบหน้าเสียทรง เป็นต้น สิ่งเหล่านี้อาจเป็นผลมาจากการใช้เครื่องปลอมที่ไม่ได้มาตรฐาน ก่อนเข้ารับบริการให้ศึกษาข้อมูลคลินิกและเครื่อง Thermage ก่อนเสมอ
ข้อควรรู้ก่อนทำเทอร์มาจ (Thermage)
- Thermage คือ การส่งพลังงานคลื่นวิทยุซึ่งมีความร้อน 40-50 องศาเซลเซียสลงไปถึงชั้นไขมันใต้ผิวเพื่อกระตุ้นการหดตัวของเส้นใยคอลลาเจน
- สถานพยาบาลส่วนมากจะนิยมใช้งานเครื่อง Thermage FLX รุ่นใหม่ล่าสุด
- ค่าใช้จ่ายในการรับบริการรักษาผิวด้วยเครื่อง Thermage อยู่ที่หลักหมื่นจนถึงแสนบาท โดยค่าใช้จ่ายในการใช้เครื่อง Thermage จะเพิ่มขึ้นตามจำนวนช็อต
- สังเกตลักษณะของเครื่อง Thermage โดยจะมีชื่อแบรนด์ “Thermage” ปรากฏอยู่ที่ใต้จอแสดงผลเสมอ
- Thermage CPT มีหัวสีส้มสีเดียว ส่วน Thermage FLX มีหัวปกติสำหรับใบหน้าคือสีม่วง หัวสีเขียวสำหรับดวงตา และหัวสีเหลืองสำหรับร่างกาย
Thermage ก่อนทำต้องเตรียมตัวอย่างไร
ก่อนทำ Thermage (เทอร์มาจ) มีการเตรียมตัว ดังนี้
- ในกรณีที่มีการทำหัตถการอื่น ๆ บนใบหน้ามาก่อน อาทิ การร้อยไหม และการฉีดฟิลเลอร์ ควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เดือนก่อนทำ Thermage
- ควรพบแพทย์เพื่อวิเคราะห์ปัญหาสภาพผิวในบริเวณที่ต้องการรักษา และเพื่อให้แพทย์ประเมินจำนวนช็อตก่อนรับบริการ
- แจ้งโรคประจำตัว ยาประจำตัว วิตามิน อาหารเสริม สมุนไพรเสริมสุขภาพให้แพทย์ทราบล่วงหน้าก่อน เพราะอาจต้องงดรับประทานก่อนมารับบริการล่วงหน้า
- งดแต่งหน้าและทาครีมบำรุงมาในวันรับบริการ
- ดูรูปเครื่อง ศึกษาเครื่องแท้ และปรึกษาแพทย์เพื่อประเมิน
ขั้นตอนการทำ Thermage
ขั้นตอนการทำ Thermage นั้นง่าย สะดวกและใช้เวลาไม่นาน หลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยไม่ต้องพักฟื้นแต่อย่างใด
- เจ้าหน้าที่จะทำความสะอาดผิวในบริเวณที่ต้องทำ Thermage
- หลังจากนั้นจะแปะยาชาก่อนทำประมาณ 30 นาที
- แพทย์จะนำหัวของ Thermage มาแนบชิดกับผิวเพื่อยิงกระตุ้นตามจำนวนช็อตที่ประเมินในแต่เคสอย่างเหมาะสม โดยใช้เวลาในการทำประมาณ 45 - 90 นาที (ระยะเวลาการรักษา ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและตำแหน่งที่ต้องทำ)
- ในขั้นตอนระหว่างทำ อาจรู้สึกมีความอุ่นที่ผิว แต่ไม่ได้เจ็บจนไม่สามารถทนได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อการทำ Thermage ให้ได้ผลดีและคุ้มค่า จำเป็นที่จะต้องทนเจ็บให้ได้ระดับหนึ่ง
Thermage หลังทำต้องดูแลตัวเองอย่างไร
สำหรับ เทอร์มาจ มีวิธีการดูแลตัวเองหลังทำที่ไม่ยุ่งยาก ดังนี้
- ให้งดการบำรุงผิวไปก่อน เช่น การทำทรีตเมนต์ ขัดผิว สปาผิว หรือทำเลเซอร์ในบริเวณดังกล่าว รวมถึงฉีดฟิลเลอร์และโบท็อกซ์ประมาณ 2 สัปดาห์
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ผิวกระชับเรียบเนียนยาวนานขึ้น
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และดื่มน้ำให้มาก ๆ
- หลีกเลี่ยงความเครียด
- หลีกเลี่ยงการโดนแดดจัด ๆ ประมาณ 1 สัปดาห์ และควรทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกแดด
- งดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่แบบระยะยาว เพื่อเลี่ยงการเกิดริ้วรอยได้ง่าย
- สามารถแต่งหน้าและใช้ชีวิตได้ตามปกติ
- หากต้องการฉีดโบท็อกซ์หรือร้อยไหม ควรเว้นระยะหลังจากทำเทอร์มาจไปแล้วประมาณ 4 - 6 สัปดาห์
วิธีตรวจสอบเครื่อง Thermage แท้ ปลอม
เครื่อง Thermage (เทอร์มาจ) เป็นเทคโนโลยีความงามทางการแพทย์ที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา ประเทศสหรัฐอเมริกา (US FDA) และ อย. ไทย อย่างไรก็ตาม อาจมีการนำเข้า Thermage ปลอมเข้ามาขายได้ เพราะเครื่องแท้จะมีราคาที่สูง ทำให้ขายบริการดังกล่าวได้ยาก
มากไปกว่านั้นอาจมีทริคที่ใช้คือการใช้ตัวเครื่องจริงแต่หัวยิงเป็นของปลอมก็มีให้พบเห็น ดังนั้น การตรวจสอบเครื่อง Thermage แท้เบื้องต้น สามารถทำได้ คือ
- มีสติกเกอร์เครื่องแท้ ติดไว้ด้านหน้าตัวเครื่อง
- มีสติกเกอร์เครื่องแท้ติดอยู่หน้าคลินิก
- มีโล่ และประกาศนียบัตร ที่ออกโดย SOLCA MEDICAL
- ก่อนทำสามารถขอให้แพทย์แกะกล่องหัวยิงให้ดูต่อหน้า เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นหัวแท้และหัวใหม่
ผลลัพธ์ที่ได้จากการทำ Thermage อยู่ได้นานไหม
หลังทำผิวจะยกกระชับขึ้นทันที 20% และค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ และเห็นผลชัดเจนเมื่อผ่านไปแล้ว 2-3 เดือน ซึ่งสามารถคงอยู่ได้ยาวนาน 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและช่วงวัยของผู้เข้ารับบริการ
อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ทำต่อเนื่องอย่างน้อยปีละครั้งเพื่อรักษาผลลัพธ์ แต่สามารถทำซ้ำได้ทุก ๆ 3 เดือนหากต้องการความกระชับที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ มีดังนี้
- ใบหน้ายกกระชับ รูปหน้าเรียวเล็กลง
- ไขมันสะสมบริเวณแก้ม ใต้คาง และลำคอลดลง
- ริ้วรอยรอบดวงตา ร่องแก้ม รอยย่นบนหน้าผาก และตีนกาลดลง
- คิ้วตก หนังตาตก และผิวเปลือกตาที่มีรอยย่นมีความกระชับมากขึ้น
- ผิวที่เหี่ยวย่นหย่อนคล้อยมีความเรียบเนียนมากขึ้น
- ขนาดรอบเอว รอบขา หรือรอบแขนลดลง และเพิ่มความตึงกระชับให้อีกด้วย
- สะโพกยกกระชับ ช่วยลดปัญหาผิวเปลือกส้มที่สะโพกและต้นขา
- ฟื้นฟูโครงสร้างของผิวช่วย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่
ข้อดีของการทำเทอร์มาจ (Thermage)
ข้อดีของการทำ Thermage คือ เป็นการยกกระชับผิวที่ให้ผลลัพธ์ยาวนาน 1-2 ปี ซึ่งเมื่อเทียบหัตถการอื่น ๆ แล้วเทอร์มาจอยู่ได้นานกว่า นอกจากนี้ยังมีข้อดีในส่วนของ
- หลังจากทำ Thermage เสร็จแล้วไม่ต้องพักฟื้นแต่อย่างใด ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- เห็นผลลัพธ์ได้เลยหลังทำทันทีประมาณ 10-20%
- มีความปลอดภัยสูง ผ่านทั้งอย. ไทย และ US FDA
- ทำได้ทั้งใบหน้า รอบดวงตา และร่างกาย
- ครอบคลุมไปถึงชั้นไขมันใต้ผิว
- ใช้เวลาทำไม่นาน ส่วนใหญ่ไม่เกิน 90 นาที
(จากผลการทดสอบของ Thermage รุ่น FLX)
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการทำ Thermage
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการทำ Thermage คืออาจเจ็บหรือร้อนผิวในระหว่างรับบริการได้ แต่โดยทั่วไปจะอยู่ในระดับที่ทนไหว หลังทำเสร็จแล้ว อาจมีอาการบวมแดงและระบมใต้ผิว ซึ่งสามารถหายได้เองภายใน 10 วัน อย่างไรก็ตาม แพทย์จะปรับค่าพลังงานให้เหมาะสมกับบุคคลและบริเวณเป็นราย ๆ ไป ดังนี้
- ระดับ 0 - 1 ทำให้ผิวสั่นอย่างเดียว ยังไม่อุ่น และได้ผลน้อยที่สุด
- ระดับ 2 - 2.5 รู้สึกร้อนในระดับที่ทนได้และผลลัพธ์เป็นไปตามที่ต้องการ
- ระดับ 3 - 4 ร้อนที่สุด ในบางกรณีอาจจะร้อนเกินไป อาจทำให้บาดเจ็บได้ ทั้งยังไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย แม้ว่าผลลัพธ์ที่ได้จะชัดเจนมากกว่าระดับอื่น
Thermage, Ulthera และ HIFU ทำตัวไหนดี ทราบข้อแตกต่างของทั้ง 3 ประเภท
Thermage VS Ulthera
ความแตกต่างระหว่าง Thermage, HIFU และ Ulthera คือจะแตกต่างกันที่รูปแบบพลังงานที่ใช้ และความลึกของชั้นผิวที่ยิงลงไป โดย Ulthera และ HIFU จะเป็นพลังงานรูปแบบเดียวกันคือ อัลตร้าซาวด์ รวมถึง Ultraformer III ที่กำลังได้รับความนิยมมากปัจจุบันก็ด้วย แต่ Thermage จะใช้พลังงานคลื่นวิทยุ
บทความเพิ่มเติม: ความแตกต่างเพิ่มเติมระหว่าง Ulthera, Ultraformer III และ HIFU
Ulthera และ HIFU
- มีหัวยิงลึกหลายระดับ ส่งพลังงานลึกลงไปที่ใต้ชั้นผิว SMAS ซึ่งเป็นชั้นผิวที่ลึกที่สุดและเป็นชั้นที่แพทย์ใช้ผ่าตัดยกกระชับหน้า เป็นวิธีการยกกระชับหน้าที่ดีกว่าเทอร์มาจและเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจน แต่จะไม่ช่วยในเรื่องของไขมันใต้ผิว
- พลังงานคลื่นอัลตร้าซาวด์ที่ยิงลงไปเป็นคลื่นขนาดเล็ก มีความมั่นคง ความถี่สม่ำเสมอ
- อัลเทอร่าเจ็บกว่าไฮฟู่ แต่ระดับความเจ็บน้อยกว่าเทอร์มาจ
- มีจุดประสงค์หลักเพื่อการยกกระชับผิวหนังที่หย่อนคล้อยให้กลับมาเต่งตึง และการฟื้นฟูสุขภาพผิวให้กลับมาเรียบเนียน
Thermage
- มีจุดประสงค์หลักเพื่อการกระชับเหนียง ผิวบริเวณใต้คอ และสลายไขมันแก้ม การทำ Thermage สามารถเก็บตรงนี้ได้ดีกว่า HIFU หรือ Ulthera และหลังทำ Thermage จะให้ผลลัพธ์ในการกระชับโครงสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวแน่นขึ้น
- ใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงในการสร้างความร้อนส่งไปยังชั้นผิวหนังแท้และชั้นไขมันใต้ผิว ช่วยลดไขมันได้ดี
- ช่วยยกกระชับและสลายไขมันได้หลายบริเวณโดยไม่ต้องผ่าตัด
ผู้เข้ารับบริการสามารถทำ Thermage และ Ulthera หรือ HIFU ด้วยกันได้ โดยทำ Thermage เพื่อลดไขมันแก้ม ลดเหนียงก่อน แล้วค่อยทำ Ulthera หรือ HIFU เพื่อยกกระชับ ทั้งนี้ ควรเว้นระยะในการทำระหว่าง 2 บริการนี้ โดยระยะเวลาที่เว้นควรให้แพทย์เป็นคนประเมินให้จะดีที่สุด (เว้นระยะประมาณ 1-3 เดือน)
Thermage ราคาเท่าไหร่ ทำที่ไหนดี?
การทำ Thermage ราคาจะมีความแตกต่างกันทั้งบริเวณที่ยิง คุณภาพหรือชื่อเสียงของคลินิก ประสบการณ์ของแพทย์ และจำนวนช็อต ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อราคาทั้งสิ้น และตัวเครื่องเองก็มีต้นทุนที่สูง การเลือกคลินิกและราคาบริการที่สมเหตุสมผลจึงเป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจซื้อบริการ โดยเราสามารถทราบราคาคร่าว ๆ ของการทำเทอร์มาจแต่ละส่วนได้ ดังนี้
- Thermage แก้มและเหนียง 450 Shot ช่วงราคาอยู่ที่ 29,990 บาท
- Thermage รอบดวงตา 450 Shot ช่วงราคาอยู่ที่ 29,990 บาท
- Thermage ทั่วหน้า 900 Shot ช่วงราคาอยู่ที่ 59,990 บาท
- Thermage ทั่วหน้า 1,800 Shot ช่วงราคาอยู่ที่ 99,990 บาท
- Thermage ตัว 2,000 Shot ช่วงราคาอยู่ที่ 89,990 บาท
(ราคาเบื้องต้นของรุ่น FLX)
ทำ Thermage ที่ไหนดี
ทำ Thermage ควรเลือกทำกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน โดยเลือกจากคลินิกที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข เครื่อง Thermage ที่ใช้เป็นของแท้ และตรวจสอบได้
อ่านเพิ่มเติม: แนะนำคลินิกที่ให้บริการทำ Thermage โดย Mordee.co ปี 2023
Thermage คืออีกหนึ่งเทคโนโลยีความงามที่แพทย์หลายคนแนะนำให้ทำทุก ๆ ปี หรือทุก 2 ปี เพราะมีคุณสมบัติที่ช่วยให้คุณดูดีขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัดและไม่เป็นอันตราย เป็นหัตถการที่ทำแล้วคุ้มค่า ช่วยฟื้นฟูผิวหน้าคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ก่อนทำให้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบริการ และปัญหาผิวหน้าว่าเหมาะที่จะทำเทอร์มาจหรือไม่ สามารถปรึกษาเบื้องต้นได้ที่ INBOX
อ่านรีวิว จากผู้ใช้งานจริง ที่จองดีลผ่าน Mordee ได้ที่ Mordee Review