เลเซอร์หน้าใส แบบไหนดีที่สุด รวมข้อควรรู้ อัปเดต ปี 2023
เลือกหัวข้อที่สนใจ รวมข้อควรรู้ของการทำเลเซอร์หน้าใส
เลเซอร์หน้าใส คืออะไร
เลเซอร์หน้าใส ช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าอย่างไรบ้าง
เลเซอร์หน้าใส คือ การแก้ไขปัญหาผิวหน้าโดยการใช้เลเซอร์ให้ผิวหน้าโดยรวมดูเนียนกระจ่างใสขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ มีฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยแผลเป็น ซึ่งเลเซอร์จะช่วยทำลายเม็ดสีในชั้นผิว เร่งการผลัดเซลล์ผิว และกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่ดีขึ้น ทำให้หน้าดูใส แก้ปัญหาผิวหมองคล้ำและเสื่อมโทรมได้อย่างเห็นผล
เลเซอร์มีหลายชนิด ซึ่งเหมาะกับแต่ละคนที่มีปัญหาสภาพผิวหน้าแตกต่างกันออกไป การทำเลเซอร์หน้าใสนั้นจึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะสามารถรักษาและแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด และหลากหลาย นอกจากนี้ยังได้รับการทดสอบและรีวิวว่าเห็นผลดีทั้งในผู้ชายและผู้หญิงในหลาย ๆ ช่วงวัย สำหรับปัญหาสภาพผิวหน้าหลัก ๆ มีอะไรบ้างนั้น เราได้ทำการแยกประเภทออกมาได้ดังนี้
เลเซอร์รอยสิว
เลเซอร์รอยสิว เป็นการลบรอยสิวบนผิวหนังชั้นนอกตรงบริเวณใบหน้า ซึ่งมีทั้งรอยแดงและรอยดำให้ดูจางลง ทั้งยังช่วยกระชับรูขุมขนบนใบหน้าให้ดูใสและเรียบเนียนขึ้น
รอยแดงจากสิว รอยที่เกิดหลังจากการเป็นสิวของคนที่มีผิวขาว ซึ่งเกิดจากการอักเสบของสิวที่ผ่านการบีบ แคะ แกะ เกา
รอยดำจากสิว รอยที่เกิดหลังจากการเป็นสิวของคนที่มีผิวเข้ม ซึ่งเกิดจากการอักเสบของสิวที่ผ่านการบีบ แกะ และโดนแสงแดดมากเกินไป
เลเซอร์ฝ้า รักษาฝ้า
เลเซอร์ฝ้า คือการรักษาฝ้าด้วยเลเซอร์ โดยฝ้าเกิดจากความผิดปกติของเซลล์เม็ดสีที่ผลิตออกมาเพื่อปกป้องผิวในปริมาณที่มากเกินไป ซึ่งทำให้มีลักษณะคล้ำและหนากว่าผิวบริเวณอื่น โดยสาเหตุนั้นเกิดได้จากหลากหลายปัจจัย ปัจจัยสำคัญคือแสงแดดและรังสียูวี ส่วนปัจจัยอื่น ๆ ได้แก่ ฮอร์โมน และความเสื่อมของผิว
ผิวขาวใสด้วยเลเซอร์
ทำยังไงให้ผิวขาว? คือคำถามที่สาว ๆ ส่วนใหญ่มักจะค้นหาอยู่เสมอ การทำให้ผิวขาวใสด้วยเลเซอร์ จึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุดในวงการแพทย์ โดยเครื่องเลเซอร์จะช่วยกำจัดเม็ดสีบนใบหน้า จึงสามารถปรับสีผิวโดยรวม และลดเลือนจุดด่างดำ ทำให้ผิวดูสาวขึ้น คลิกที่นี่เพื่อค้นหาดีลเลเซอร์หน้าใส
เลเซอร์หลุมสิว
เลเซอร์หลุมสิว คือการรักษารอยแผลเป็นที่มาจากการอักเสบของสิวในระยะที่สิวหายแล้ว มีลักษณะเป็นหลุม ทำให้ผิวไม่เรียบ โดยหลัก ๆ มาจากสิวที่อักเสบจนผิวถึงชั้นใน เช่น สิวหนองและสิวหัวช้างขนาดใหญ่ และหลังจากที่สิวหายแล้ว แผลไม่สามารถสมานตัวได้อย่างเต็มที่ ส่วนใต้ชั้นผิวที่เกิดการซ่อมแซมก็กลายเป็นพังผืดมาดึงรั้งผิวหนังให้ยุบบุ๋มลงไปเป็นหลุมสิว
เลเซอร์ไฝ หรือ จี้ใฝ
ไฝ ขี้แมลงวัน กระเนื้อ และติ่งเนื้อ นอกจากการทายา จี้ด้วยไฟฟ้า หรือการผ่าตัดแล้ว ปัจจุบันยังสามารถรักษาได้ง่าย ๆ โดยวิธีการใช้เลเซอร์ เป็นอีกหนึ่งทางการรักษาที่ทำให้หน้าเรียบเนียน ไม่เป็นหลุมหรือเป็นแผล
เลเซอร์หน้าใส มีกี่ประเภท
ประเภทของเครื่องเลเซอร์ มีให้เราได้เลือกใช้บริการหลากหลายรูปแบบ แต่ละแบบขึ้นอยู่กับปัญหาของผิวหน้า และสภาพผิวของแต่ละคน สำหรับเครื่องเลเซอร์ที่คลินิกต่าง ๆ นิยมใช้ มีดังนี้
1. CO2 Laser
CO2 Laser เป็นเลเซอร์ชนิดคาร์บอนไดออกไซด์ มีความยาวคลื่น 10,600 นาโนเมตร ช่วยในการจี้ไฝ ขี้แมลงวัน กระเนื้อ สิวหิน และต่อมไขมันโต เป็นวิธีที่ปลอดภัยและประสิทธิภาพดีที่สุด
- ราคา โดยทั่วไปจุดละประมาณ 500 บาทต่อครั้งในขนาดไม่เกิน 0.5 เซนติเมตร
- เหมาะกับใคร คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับไฝ ขี้แมลงวัน กระเนื้อ และติ่งเนื้อ
- ข้อดี มีความแม่นยำสูง เลือกตำแหน่งได้แบบเฉพาะเจาะจง และไม่ต้องพักฟื้น
- ข้อเสีย หลีกเลี่ยงการออกแดดประมาณ 1-2 สัปดาห์ และงดแต่งหน้า เพราะหน้าจะคล้ำและระคายเคืองได้ง่าย
- คลิกที่นี่เพื่อค้นหาดีลส่วนลด CO2 Laser
2. Dual Yellow Laser
Dual Yellow Laser เป็นเครื่องเลเซอร์ที่มีแหล่งกำเนิดพลังงานจากสาร Copper และ Bromide ทำให้มีแสงเลเซอร์ 2 ชนิด คือ แสงสีเหลือง รักษารอยแดง (ความยาวคลื่น 578 นาโนเมตร) และแสงสีเขียว รักษารอยดำ (ความยาวคลื่น 511 นาโนเมตร) และเป็นเลเซอร์ที่ใช้รักษาฝ้าได้ดี ซึ่งการันตีคุณภาพจากการได้รับการยอมรับให้เป็น Gold Standard for Melasma Treatment
- ราคา คิดเป็นแบบเฉพาะจุดและทั่วใบหน้า ราคาเริ่มต้นที่ 1,490 บาทต่อครั้ง
- เหมาะกับใคร ผู้ที่มีปัญหารอยดำและรอยแดงจากสิว ไฝ ปาน และเส้นเลือดฝอย ผิวหมองคล้ำและมีสีผิวไม่สม่ำเสมอ มีริ้วรอย รวมถึงการรักษาฝ้าและการป้องกันการกลับมาเป็นฝ้าอีกครั้ง
- ข้อดี ปลอดภัย ไม่ทำให้เส้นเลือดแตกเกิดเป็นจ้ำ ลดการทำลายเนื้อเยื่อโดยรอบได้
- ข้อเสีย ระหว่างเข้ารับการรักษาจะรู้สึกเหมือนเข็มแตะ ๆ ที่ผิว
- คลิกที่นี่เพื่อค้นหาดีลส่วนลด Dual Yellow Laser
3. Vbeam Laser
Vbeam Laser เป็นเลเซอร์ชนิด Pulsed Dye Laser มีความยาวคลื่นแสงที่ 595 นาโนเมตร ใช้รักษาโรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติของเส้นเลือด ช่วยลดรอยแดง และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- ราคา ช่วงประมาณ 3,500 บาทต่อครั้ง
- เหมาะกับใคร ผู้ที่มีปัญหาปานแดง สิวอักเสบ รอยแดงนูน เส้นเลือดฝอยเส้นเล็ก ๆ แตก รอยแดง และแผลเป็น
- ข้อดี เข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่องประมาณ 3-5 ครั้ง รอยแดงจะดีขึ้นได้มากกว่า 80%
- ข้อเสีย ต้องหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด และทาครีมกันแดดที่มี SPF 30+ อย่างต่อเนื่อง
- คลิกที่นี่เพื่อจองดีล Vbeam Laser ที่ Proderma Clinic
4. Q-switch Laser
Q-switch Laser เลเซอร์หน้าใส ที่ถูกใช้เพื่อรักษาเม็ดสีที่มีความผิดปกติต่าง ๆ โดยวิธีการทำให้เม็ดสีเกิดการแตกตัวออก ทำให้ผิวบางส่วนอาจจะลอกหลุดเป็นสะเก็ด หรือค่อย ๆ จางลงไป ช่วยกระชับรูขุมขน ลดปัญหาหน้ามัน ทำให้หน้าดูขาวใสขึ้น
- ราคา มีหลากหลายช่วงราคา และทำได้หลายบริเวณ เช่น หน้า หรือริมฝีปาก ราคาเฉลี่ยเริ่มต้นที่ 399 บาทต่อครั้ง
- เหมาะกับใคร ผู้ที่มีปัญหาฝ้า กระ รอยคล้ำ รอยแดง ผื่นแดง และรอยดำหลังการอักเสบ รวมถึงสามารถลบรอยสักได้อีกด้วย
- ข้อดี ราคาถูก หาคลินิกที่มีเครื่องเลเซอร์ประเภทนี้ได้ง่าย
- ข้อเสีย หลังทำหน้าจะแห้ง เป็นสะเก็ด และแดง ก่อให้เกิดการระคายเคืองได้
- คลิกที่นี่เพื่อค้นหาดีลส่วนลด Q-switch Laser
5. Pico Laser
Pico Laser เป็นเทคโนโลยีใหม่ของเลเซอร์ที่ใช้ในการรักษาปัญหาผิวหน้า ทั้งกระ จุดด่างดำ และการลบรอยสัก (มีตั้งแต่ 755 - 1064 นาโนเมตร) เป็นเลเซอร์ที่ใช้ช่วงระยะเวลาที่สั้นมาก ๆ จึงสามารถใช้พลังงานที่สูงซึ่งทำให้เม็ดสีแตกตัวได้มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใสไม่มีริ้วรอย และทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้นอีกด้วย
- ราคา เริ่มต้นสำหรับเครื่อง PicoWay คือ 11,400 บาทต่อครั้ง
- เหมาะกับใคร ผู้ที่มีปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ ความหมองคล้ำ รอยสิว หลุมสิว และริ้วรอย รวมถึงผู้ที่ต้องการลบรอยสัก
- ข้อดี ใช้เวลาในการรักษาน้อยกว่าเครื่องเลเซอร์อื่น ๆ ไม่มีอาการด่างหรือขาว หรือสีผิวไม่สม่ำเสมอ และไม่ก่อให้เกิดความร้อนสะสมบริเวณใต้ผิว และไม่ต้องพักฟื้น
- ข้อเสีย หากย้ำเลเซอร์บริเวณเดิมมากเกินไป อาจทำให้มีโอกาสเกิดด่างขาวหลังการทำเลเซอร์
- คลิกที่นี่เพื่อค้นหาดีลส่วนลด Pico Laser
6. เลเซอร์ IPL
นอกจากนี้ยังมี เลเซอร์ IPL ที่สามารถหาใช้บริการได้ง่าย ๆ แต่รู้หรือไม่ว่าจริง ๆ แล้ว IPL ไม่ได้เป็นเลเซอร์ แต่เป็นคลื่นแสงกว้างที่ใช้สำหรับการฟื้นฟูผิวหน้า มีความยาวคลื่นเริ่มตั้งแต่ 420 นาโนเมตร ถึง 1,200 นาโนเมตร ซึ่งสามารถรักษาได้หลากหลายปัญหา เช่น ปัญหาผิวหมองคล้ำ ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ เป็นต้น
- ราคา เริ่มต้นที่ 199 บาทต่อครั้ง
- เหมาะกับใคร ผู้ที่มีปัญหารอยสิว รอยดำ จุดด่างดำ ฝ้า กระ รอยแดง ริ้วรอยตื้น สิว และความหมองคล้ำ
- ข้อดี ราคาถูก ไม่เจ็บ และไม่ต้องพักฟื้น
- ข้อเสีย ต้องหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด และทาครีมกันแดดที่มี SPF 30+ อย่างต่อเนื่อง
- คลิกที่นี่เพื่อค้นหาดีลส่วนลด IPL
ใครที่เหมาะกับการทำเลเซอร์
เลเซอร์หน้าใสเหมาะกับใครบ้าง
การทำเลเซอร์หน้าเพื่อผิวใสเรียบเนียน นอกจากเหมาะกับคนที่อยากมีผิวหน้าที่กระจ่างใสขึ้นแล้ว ยังเหมาะกับการรักษาปัญหาผิวหน้าในสภาพต่าง ๆ เช่น รอยดำ รอยแดง อันเป็นสาเหตุมาจากสิว เส้นเลือดฝอย การตากแดดเป็นเวลานาน ปัญหาหลุมสิว หน้าหมองคล้ำ เป็นฝ้า กระ มีใฝหรือติ่งเนื้อรบกวนใจ และริ้วรอยตื้นต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งการทำเลเซอร์จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี
เลเซอร์หน้าใสไม่เหมาะกับใครบ้าง
การทำเลเซอร์ผิวหน้า จะมี 3 กลุ่มคนหลัก ๆ ที่ควรหลีกเลี่ยงและไม่เหมาะที่จะทำหัตถการเลเซอร์ เพราะอาจส่งผลข้างเคียงรุนแรงภายหลังได้ ได้แก่
- สตรีมีครรภ์และกำลังให้นมบุตร
- ผู้ที่เป็นโรคผิวหนัง เช่น โรคผิวหนังติดเชื้อ โรคสะเก็ดเงิน โรคผิวหนังอักเสบ โรคด่างขาว หรือกำลังมีแผลสด แผลยังไม่สมานตัว
- ผู้ที่กำลังอยู่ในช่วงเป็นสิวอักเสบ สิวหนอง ควรรักษาปัญหาสิวให้หายก่อน
นอกจากนี้ยังมีในเรื่องของการเว้นระยะเนื่องจากไปทำหัตถการอย่างอื่นมาหรือมีแผนที่จะทำอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น โบท็อกซ์ หรือเลเซอร์ด้วยเครื่องประเภทอื่นในช่วงเวลาไม่เกิน 1 เดือน รวมถึงมีโรคประจำตัวอื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในการรักษา
ข้อควรปฏิบัติและขั้นตอนเลเซอร์หน้าใส
การเตรียมตัวก่อนทำเลเซอร์หน้าใส มีอะไรบ้าง
ก่อนเข้ารับบริการยิงเลเซอร์ ควรเตรียมตัวเองให้พร้อม ดังนี้
- เลี่ยงการออกแดดอย่างน้อย 4 สัปดาห์ก่อนรับบริการ
- งดใช้สกินแคร์ประเภทที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวหรือมีส่วนผสมของกรดวิตามินเอและ AHA เพราะอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- งดสัมผัสผิวหน้ารุนแรงจนเกิดการอักเสบ ระคายเคือง ถลอกหรือเป็นแผล
- หากเป็นแผลสดให้เลื่อนออกไปก่อน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- ใช้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่เสริมความชุ่มชื้น เพื่อรับมือและป้องกันอาการระคายเคืองหลังจากเลเซอร์
ขั้นตอนการทำเลเซอร์หน้าใส มีอะไรบ้าง
ขั้นตอนในระหว่างการรับบริการยิงเลเซอร์ แต่ละคลินิกจะให้การบริการที่แตกต่างกันออกไปเล็กน้อย แต่โดยขั้นตอนหลัก ๆ แล้วจะมีดังนี้
- ทำความสะอาดผิวหน้าบริเวณที่จะทำการเลเซอร์
- ทาเจลหรือยาชาเพื่อลดอาการแสบร้อน อาการเจ็บระหว่างยิงเลเซอร์
- ยิงเลเซอร์ลงบนผิว โดยจะมีการสอบถามเป็นระยะ ๆ ว่าสามารถทนต่อความเจ็บระดับนี้ได้ไหม หรือกำลังรู้สึกอย่างไร เป็นต้น
- เช็ดทำความสะอาดหน้า ทามอยซ์เจอร์ไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
ในระหว่างการทำอาจรู้สึกเหมือนยางดีดหน้าเบา ๆ ได้ ซึ่งอาจทำให้สะดุ้งเป็นระยะ แต่ไม่ได้เจ็บจนทนไม่ไหว แต่หากถ้าทนไม่ไหวอย่างไรสามารถแจ้งแพทย์ในขณะที่ทำอยู่ได้เลย
การดูแลหลังเลเซอร์หน้าใส ทำอย่างไรบ้าง
การดูแลตนเองหลังจากการยิงเลเซอร์ เป็นสิ่งที่ควรใส่ใจมากที่สุด เพราะหากดูแลไม่ดีอาจเกิดผลข้างเคียงที่ทำให้ผิวหน้าเกิดปัญหาหนักกว่าเดิมได้ ซึ่งการดูแลตัวเองสามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้
- ทาครีมกันแดด ค่า SPF 50+ ทุกวันแม้ไม่ได้เจอแดดโดยตรง
- ทาสกินแคร์ที่ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นและลดการระคายเคือง
- งดสกินแคร์กลุ่มผลัดเซลล์ผิว มีส่วนผสมจากกรดวิตามินเอและ AHA
- เลี่ยงการออกแดดจัดและเผชิญแสงแดดเป็นเวลานาน
- ไม่บีบสิว แคะ แกะ เกา และสัมผัสใบหน้ารุนแรง
- ดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อบำรุงให้ผิวชุ่มชื่น ไม่ขาดน้ำ รวมถึงรับประทานอาหารที่มีวิตามินซึ่งช่วยบำรุงผิวหนัง
เลเซอร์หน้าใส กี่ครั้งเห็นผล และต้องเว้นระยะนานแค่ไหน
การทำเลเซอร์หน้าใสส่วนใหญ่แล้วจะเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับสภาพผิว และสภาพปัญหาผิวหน้าด้วย ในหลายกรณีต้องอาศัยความต่อเนื่องในการรักษา อย่างน้อย 3-5 ครั้ง และเว้นระยะห่างแต่ละครั้งอยู่ที่ 4-6 สัปดาห์ ปัญหารอยหมองคล้ำต่าง ๆ รวมถึงหลุมสิว และกลุ่ม เม็ดสีเมลานิน จะแตกกระจายออกไปแล้วค่อย ๆ จางลงในที่สุด
เลเซอร์หน้าใส เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการฟื้นฟูผิวหน้าให้เรียบเนียน กระจ่างใส ปราศจากรอยหมองคล้ำที่แพทย์แนะนำมากที่สุด เพราะสามารถเลือกชนิดเลเซอร์ยิงแก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด ตรงกับสภาพปัญหาผิว อย่างไรก็ตาม คุณสามารถปรึกษาปัญหาเบื้องต้นและค้นหาคลินิกทำเลเซอร์หน้าใสใกล้บ้าน รวมถึงโปรโมชั่นได้กับเจ้าหน้าที่ของ Mordee
อ่านรีวิว จากผู้ใช้งานจริง ที่จองดีลผ่าน Mordee ได้ที่ Mordee Review