สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ กายภาพบำบัด ใน กรุงเทพมหานคร
กายภาพบำบัด (Physical Therapy) คือ เทคนิคต่าง ๆ ที่นำมาใช้ในการเสริมสร้างและฟื้นฟูความสามารถของร่างกายด้วย การประคบ การดึง การนวด และสำหรับผู้ที่มีอาการบาดเจ็บ อาการปวด ได้รับบาดเจ็บ หรือมีผลข้างเคียงจากการเจ็บป่วย ก็จะมีการบริหารร่างกายร่วมด้วย
สำหรับการทำกายภาพบำบัดนั้น จะช่วยทำให้ร่างกายมีความสมดุล ล้ม ลื่น ได้ยากขึ้น ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด รวมถึงช่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีจากการบาดเจ็บ ที่ไม่ว่าจะเป็น การผ่าตัด คลอดบุตร เป็นต้น นอกจากนี้ ยังสามารถฟื้นฟูผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และอาการออฟฟิศซินโดรมได้อีกด้วย ซึ่งออฟฟิศซินโดรม คือโรคที่เกิดจากการใช้กล้ามเนื้อมัดเดิมติดต่อการเป็นเวลานาน ทำให้มีอาการอักเสบ และเจ็บปวดของกล้ามเนื้อมัดดังกล่าว เช่น การนั่งท่าเดิมเป็นเวลานาน จึงทำให้กล้ามเนื้อบริเวณไหล่ คอ เกิดการหดเกร็ง และอักเสบในที่สุด
การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?
ขั้นตอนการทำกายภาพบำบัด
ในขั้นตอนแรก นักกายภาพบำบัด จะทำการตรวจประเมินร่างกาย และวินิจฉัยโรคก่อนทำการรักษา หลังจากนั้น อธิบายถึงปัญหา รวมถึงแนวทางการรักษา ก่อนที่จะทำการรักษาโดยใช้เครื่องมือทางกายภาพบำบัด และออกกำลังกายเพื่อปรับสมดุลกล้ามเนื้อ ดัดดึงกระดูก ตามปัญหาของแต่ละคน ซึ่งนักกายภาพบำบัด จะเป็นคนประเมินการรักษาให้เอง หลังจากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนสรุปปัญหาและทบทวนท่ากายบริหาร และปิดท้ายด้วย การผ่อนคลายกล้ามเนื้อด้วยผ้าร้อนไฟฟ้า
เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ใช้ทำกายภาพบำบัด
1. เครื่อง Ultrasound ช่วยซ่อมแซมเซลล์กล้ามเนื้อ กระดูก และเส้นเอ็น รวมถึงช่วยคลายกล้ามเนื้อ และลดอาการอักเสบ ด้วยคลื่นอัลตร้าซาวที่มีช่วงความถี่ระหว่าง 0.75 - 3 เมกะเฮิรตซ์
2. เครื่อง Shockwave กระตุ้นการสร้างหลอดเลือด ลดอาการปวดและเร่งกระบวนการฟื้นฟูและซ่อมแซมเนื้อเยื่อ โดยการทำให้เนื้อเยื่อเกิดการสั่นสะเทือน
3. เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า (Electrotherapy) สามารถลดปวด กระตุ้นไฟฟ้าผ่านทางผิวหนังเพื่อส่งกระแสไฟฟ้าไปยับยั้งการปวด
โปรแกรมกายภาพบำบัด 1 ชั่วโมง ประกอบด้วย
1. Hot Compression ผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่รัดตัวด้วยคลื่นความร้อน กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดเพื่อเร่งการฟื้นฟู ผ่านการรักษาด้วยแผ่นประคบร้อน
2. Ultrasound Therapy ซ่อมแซมเนื้อเยื่อ บรรเทาอาการปวด อาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อ และระบบกระดูก ลดอาการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ การหดรั้งของเนื้อเยื่อรอบข้อต่อ นวดด้วยคลื่น Deep Ultrasound ซึ่งเป็นการรักษาด้วยคลื่นเหนือเสียง
3. การรักษาด้วยการกระตุ้นไฟฟ้า ด้วยเครื่อง BTL ที่เป็นแบบ Transcutaneous Electrical Nerve Stimulation (TENS) ช่วยกระตุ้นเส้นประสาทด้วยไฟฟ้าผ่านผิวหนัง เพื่อลดอาการปวด
4. โปรแกรมการออกกำลังกายเฉพาะรายบุคคล (Specific exercise) โดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการในส่วนเดิมอีก
5. การรักษาโดยการนวดกดจุด (Manual technique) Trigger point สลายจุดกดเจ็บด้วย Manual technique
ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?
สามารถกลับบ้านได้เลย ไม่ต้องพักฟื้น นักกายภาพบำบัดจะสอบถาม และประเมินอาการหลังการรักษา พร้อมนัดวันทำกายภาพบำบัดครั้งถัดไป
การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?
ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนักกายภาพบำบัด หลีกเลี่ยงการนั่งทำงานในท่าที่ผิดและท่าเดิมนาน ๆ โดยไม่เปลี่ยนอิริยาบถ นอกจากนี้ ยังสามารถนำท่าบริหารร่างกาย ไปปฏิบัติเองได้ที่บ้าน เพื่อเป็นการช่วยฟื้นฟูร่างกายอย่างต่อเนื่องได้อีกด้วย
มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?
การทำกายภาพบำบัด จะมุ่งเน้นที่การบรรเทาอุปสรรคที่ส่งผลต่อการใช้ร่างกายของคุณ ช่วยฟื้นฟูให้ดีขึ้น อาการจะบรรเทาได้ดีแค่ไหนขึ้นอยู่กับความต่อเนื่อง และความหนักเบาของอาการ อย่างไรก็ตามจะต้องประเมินโดยนักกายภาพบำบัด
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับกรุงเทพมหานคร
คงเป็นที่ทราบกันดีว่ากรุงเทพมหานคร เป็นเมืองหลวงของประเทศไทย และเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจในระดับ ประชาคมอาเซียน จุดเด่นของกรุงเทพฯ นอกจากจะเป็นจังหวัดที่มีศาสนสถานที่สวยงาม, อาหารริมทาง หรือ street food, การคมนาคมที่สะดวกสบาย, ห้างสรรพสินค้า, ตลาด รวมถึงยังมีสถานพยาบาลชั้นนำต่าง ๆ ที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศ ทั้งโรงพยาบาลของรัฐ, คลินิก, และโรงพยาบาลเอกชนที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล JCI (Joint Commission International Accreditation) ทำให้กรุงเทพฯนอกจากจะเป็นจังหวัดที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นที่สุด เป็นจังหวัดที่มีคนเดินทางมาท่องเที่ยวมากที่สุด ยังมีแนวโน้มในการขยายตัวกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอีกด้วย ซึ่งโรงพยาบาลที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ คือ โรงพยาบาลศิครินทร์ โรงพยาบาลกมล เป็นต้น ซึ่งมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจเดินทางมาทำศัลยกรรมความงามเป็นจำนวนมากในแต่ละปี
สถานที่ยอดนิยมในกรุงเทพมหานคร
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่รู้จักกันในนาม วัดพระแก้ว เป็นวัดที่ รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น พร้อม ๆ กับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ตั้งอยู่ ในเขตพระบรมมหาราชวัง หากใครได้มาเที่ยวกรุงเทพฯ ก็ตามจะต้องแวะไปกราบ พระแก้วมรกต สักครั้งเพื่อความเป็นสิริมงคล
วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร หรือ วัดแจ้ง เป็นวัดโบราณสร้างในสมัยอยุธยา พระปรางค์วัดอรุณฯ นับเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของกรุงเทพฯ ที่รู้จักกันทั่วโลก เพราะฉะนั้นถ้ามาถึงกรุงเทพฯ ก็คงต้องแวะมาชมความสวยงามของพระปรางค์วัดอรุณฯ เช่นเดียวกัน
เยาวราช นับเป็นอีกย่านที่น่าเที่ยว เพราะนอกจากจะเป็นแหล่งชุมชนของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนแล้ว ยังจัดว่าเป็นย่านธุรกิจ และคึกคักตลอดทั้งวัน ในปัจจุบันคนจะนิยมมาเที่ยวเยาวราชกันช่วงกลางคืน เพราะจะมีสตรีทฟู้ดร้านเด็ดมากมายที่น่าไปลิ้มลองชิมดูสักครั้ง
นอกเหนือจากนี้ ยังมีสถานที่อื่น ๆที่เป็นที่นิยมที่ไม่ควรพลาด เช่น สยามสแควร์, ถนนข้าวสาร, ตลาดนัดจตุจักร, เอเชียทีค เป็นต้น
การเดินทางในกรุงเทพมหานคร
การคมนาคมในกรุงเทพฯ ถือว่ามีความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก ทั้งทางบก ทางอากาศ ทางน้ำ และยังมีระบบขนส่งสาธรารณะที่ได้มาตรฐานและทันสมัย การเดินทางและการท่องเที่ยวจึงทำได้ง่ายแม้ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว เช่น รถแท็กซี่ รถเมล์ รถจักรยานยนต์รับจ้าง รถตุ๊กตุ๊ก รถไฟ รถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้าใต้ดิน และ เรือโดยสาร เป็นต้น
ประชากรหรือผู้คนในกรุงเทพมหานคร
กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศไทย มีหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งยังมีประชาชนจากต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงาน รวมถึงยังมีชาวต่างชาติที่เข้ามาอาศัยอยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก ทำให้คนกรุงเทพฯอาจมีวิถีชีวิตที่เร่งรีบมากกว่าส่วนอื่นในประเทศไทย
สภาพภูมิอากาศในกรุงเทพมหานคร
กรุงเทพฯ มีสภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื้น โดยอยู่ภายใต้ อิทธิพลของลมมรสุม 2 ชนิด คือ ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ มีอากาศร้อนทั้งปีและยังมีอุณหภูมิที่หลากหลายอีกด้วย มี 3 ฤดูกาลที่แตกต่างกัน ได้แก่ ฤดูร้อนจะเป็นช่วงเดือนมีนาคมและเมษายน, ฤดูฝน จะอยู่ในช่วงราว ๆ กรกฎาคมจนถึงตุลาคม และช่วงที่มีอากาศเย็นจะเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายนและเดือนธันวาคม
อื่นๆ
การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในกรุงเทพฯ กำลังเป็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุผลที่ว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย มีความเจริญก้าวหน้าในเทคโนโลยีที่ทันสมัย ดังนั้น จึงมีโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานระดับโลก และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง มากมาย ที่จบมาจากต่างประเทศ มีประการณ์ที่ยาวนาน ทำให้มีนักท่องเที่ยวหรือผู้คนในประเทศไทยเองเดินทางเข้ามาทำการรักษา หรือทำศัลยกรรมกับโรงพยาบาลและคลีนิคต่างๆในกรุงเทพฯ เป็นอย่างมากนั่นเอง