สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ การฟอกสีฟัน ใน ภูเก็ต
การฟอกสีฟัน หรือ การฟอกฟันขาว คือกระบวนการเพิ่มความขาวของฟันซึ่งทำให้ฟันและเหงือกแลดูมีสุขภาพดี ซึ่งไม่สามารถฟอกสีฟันได้ในกรณีที่เป็นฟันปลอม ครอบฟัน รากเทียม และวัสดุแปะฟันขาวหรือveneers
การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?
การฟอกสีฟันมี 2 วิธี โดยการฟอกสีฟันที่คลินิกโดยทันตแพทย์ และ การฟอกสีฟันด้วยตนเองที่บ้าน ซึ่งทั้ง 2 วิธีจะใช้น้ำยาที่มีส่วนประกอบของ Hydrogen peroxide หรือ Carbamide peroxide
การฟอกสีฟันที่คลินิก ทันตแพทย์จะใช้น้ำยาที่มีความเข้มข้นสูงซึ่งเป็นกระบวนการที่เห็นผลอย่างรวดเร็วและผลที่ได้ยาวนานกว่าการฟอกเองที่บ้าน
การฟอกสีฟันด้วยตนเองที่บ้าน ทันตแพทย์จะจ่ายยาฟอกสีฟัน และถาดสำหรับฟอกสีฟัน โดยน้ำยาจะมีความเข้มข้นที่น้อยกว่า ซึ่งจะต้องทำการฟอกสีฟันโดยประมาณ 30 นาที - 1 ชั่วโมง ต่อวันหรือต่อเนื่อง 2-3 สัปดาห์
ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?
ผู้เข้ารับการรักษาสามารถเดินทางกลับบ้านได้เลยหลังการฟอกสีฟัน ซึ่งอาจจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง และอาจเห็นผลได้โดยทันทีภายในการฟอก 1-2 ครั้งแรก แต่ทันตแพทย์อาจทำการนัดหมายเพิ่มเติมเพื่อติดตามผลและเพิ่มความขาวให้ได้ผลตามความต้องการ
การฟอกสีฟันเองที่บ้าน อาจต้องมีการแยกพบทันตแพทย์ 2 ครั้ง ซึ่งอาจจะต้องวางแผนการเดินทางและอาจต้องใช้เวลา 3-7 วันโดยประมาณหากผู้เข้ารับการรักษาเดินทางมาจากต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ
การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?
เพื่อคงสภาพสีฟันหลังการฟอกสีฟัน ควรแปรงฟันอย่างน้อย 2 ครั้ง ต่อวันร่วมด้วยกับการใช้ไหมขัดฟัน และน้ำยาบ้วนปาก และเลี่ยงการทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีสีทั้งหลายเพื่อหลีกเลี่ยงการก่อให้เกิดคราบ เช่น ชา กาแฟ ไวน์ น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง ซอส และผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?
การฟอกสีฟันถือเป็นกระบวนการเปลี่ยนสีฟันที่ปลอดภัยและได้ผลลัพท์ที่ดี แต่อาจจะได้ผลลัพท์ที่น้อยกว่าสำหรับคนที่มีฟันสีเข้ม และอาจทำให้รู้สึกเสียวฟันและระคายเคืองเหงือกได้ในบางราย
การฟอกสีฟัน Zoom คืออะไร ?
สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ Zoom Whitening ในประเทศไทย
การฟอกฟันขาว ด้วย Zoom Whitening เป็นนวัตกรรมใหม่ของการฟอกสีฟัน และเมื่อเทียบกับวิธีอื่น ๆ แล้ว Zoom ได้รับการพิสูจน์ว่าฟันขาวนาน มีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพสูง และเห็นผลเร็วกว่าในทางวิทยาศาสตร์ เป็นการฟอกฟันขาวด้วยเทคโนโลยี LED ที่สามารถปรับแสง ตามความเหมาะสมของความเข้มข้นได้ 3 ระดับ ฃ
Zoom Whitening เหมาะสำหรับผู้ที่มีสีของฟันที่ดูคล้ำเข้มขึ้นจากที่เคยขาวมาก่อน มีคราบสีจากอาหารต่าง ๆ เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม ไวน์แดง และบุหรี่ เป็นต้น การฟอกสีฟันด้วย นวัตกรรม Zoom จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถทำให้ฟันกลับมาขาว สะอาดได้อีกครั้ง และเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลา เพราะฟันสามารถขาวขึ้นได้ภายใน 45 นาที หลังจากการทำ
Zoom Whitening ข้อดี มีอะไรบ้าง
1. รวดเร็ว และสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
2. ฟันขาวยิ่งกว่าเดิม ด้วยเทคนิคที่สามารถปรับแต่งความขาว และความสว่างใสได้
3. ฟันขาวทนนานกว่าวิธีเดิม ๆ
4. ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
5. มีอาการเสียวฟันน้อยกว่าการฟอกสีฟันแบบอื่น ประมาณ 13%
Zoom Whitening ข้อเสีย มีอะไรบ้าง
1. มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการฟอกสีฟันแบบอื่น ๆ
2. ทำได้แค่ในคลินิกเท่านั้น และต้องเป็นคลินิกที่ถูกกฎหมาย เพราะต้องอาศัยความชำนาญเฉพาะทาง
การฟอกฟันขาวด้วย นวัตกรรม Zoom จึงมีทั้งความรวดเร็ว และสะดวกสบาย คงฟันให้มีความขาวได้นาน ไม่เสียวฟันมาก (หากมีอาการ ก็จะเสียวฟันไม่เกิน 1 วัน) นอกจากนี้ ยังมีความปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูง
การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?
Zoom Whitening คือการใช้สาร Hydrogen Peroxide ในเจล มาฟอกสีฟัน แล้วใช้แสงกระตุ้นสาร Hydrogen Peroxide แทรกซึมลงสู่ฟัน โดยไม่ทำลายโครงสร้างธรรมชาติของฟัน มีประสิทธิภาพ ในการช่วยฟอกสีฟัน สามารถปรับระดับเฉดสีฟันให้ขาวขึ้นได้มากถึง 8 เฉด และใช้ระยะเวลาในการทำ เสร็จภายใน 1 ชั่วโมงเท่านั้น
Zoom มีประสิทธิภาพ ในการขจัดคราบฟันเหลือง คราบชา กาแฟ และสีฟันที่ไม่สม่ำเสมอ นอกจากนี้ ยังช่วยลดการเสียวฟันได้ดีกว่าเครื่องฟอกสีชนิดอื่น
การฟอกสีฟันด้วย Zoom สามารถเลือกทำได้ 2 ประเภท คือ
-
การฟอกสีฟันที่ทำโดยทันตแพทย์ในคลินิก มีวิธีทำได้ ดังนี้
-
ตรวจประเมินช่องปาก ขูดหินปูน และขัดฟัน
-
ตรวจและทำการเทียบเฉดสีของฟันโดยทันตแพทย์
-
สวมแว่นตาป้องกันแสง ใส่อุปกรณ์เข้าไปในช่องปาก
-
ปกป้องเหงือกและเนื้อเยื่อบริเวณรอบ ๆ ฟัน ด้วยน้ำยาที่มากับชุดน้ำยาฟอกสีฟัน Zoom
-
ฉายแสงเพื่อให้น้ำยาแข็งตัว
-
บีบน้ำยาจากหลอดน้ำยา และใช้พู่กันทาไปที่ฟันแต่ละซี่
-
กระตุ้นน้ำยาด้วยแสงเลเซอร์ ให้ทำงานได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อย่างน้อย 3 ครั้ง ครั้งละ 15 นาที
-
กำจัดน้ำยาฟอกสีฟันและน้ำยาที่ใช้ป้องกันเหงือกออก
-
สามารถเห็นความแตกต่างได้จากการเปรียบเทียบสีก่อนและหลังการฟอกสีฟัน
-
ทาน้ำยาเพื่อลดอาการเสียวฟัน ทาน้ำยาเพื่อลดอาการแสบร้อนสำหรับที่บริเวณเหงือก
-
การฟอกสีฟันแบบนำอุปกรณ์และน้ำยาไปทำเองที่บ้าน (Home Bleaching )
โดยน้ำยาที่ใช้ในการฟอกสีฟันเองที่บ้านจะมี 2 แบบ คือ Zoom Nite White 22% และ Zoom Day White 16 % ทั้ง 2 ชนิด จะประกอบด้วยสารที่ช่วยขจัดคราบสีออกจากตัวฟัน อย่าง Carbamide Peroxide 22%, 16 % และ Hydrogen Peroxide นอกจากนี้ยังมีสารที่ช่วยป้องกันและลดอาการเสียวฟัน ACP (Amorphous Calcium Phosphate) เข้ามาผสม ซึ่งมีวิธีทำได้ ดังนี้
-
พิมพ์ปาก ทำถาดฟอกสีฟัน (เฉพาะบุคคล) กับทันตแพทย์
-
ตรวจประเมินช่องปาก ขูดหินปูนและขัดฟัน
-
ให้คำแนะนำวิธีการใช้ โดยทันตแพทย์
-
ให้แปรงฟันให้สะอาด และถาดฟอกสีฟันควรแห้งสนิท
-
ให้บีบดันน้ำยาฟอกสีฟันออกไปเป็นจุดเล็ก ๆ เท่าเม็ดถั่วเขียว บีบใส่ลงไปที่ถาดฟอกสีด้านที่จะสัมผัสกับผิวหน้าฟัน
-
เมื่อใส่ถาดฟอกสีเข้าไปในปากแล้ว กดนวดเบา ๆ ให้น้ำยากระจายทั่วผิวหน้าฟัน
-
สวมถาดฟอกสีฟันทั้งบนและล่าง สวมทิ้งไว้วันละ 1 ครั้ง ครั้งละ 1 - 2 ชั่วโมง สำหรับคนที่มีอาการเสียวฟัน แนะนำให้ใช้วันเว้นวัน
-
หลังจากทำเสร็จ นำถาดฟอกสีออกจากปาก แล้วบ้วนน้ำ และล้างถาดฟอกสีด้วยน้ำสะอาด ใช้แปรงปัดคราบน้ำยาที่เหลืออยู่ออก ผึ่งให้แห้ง แล้วเก็บใส่กล่อง
ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?
หลังฟอกสีฟันเสร็จแล้ว อาจมีอาการเสียวฟันได้ในช่วงแรก และจะค่อย ๆ หายไปเอง และถ้าหากเฉดสีฟันยังไม่เป็นที่ต้องการ ทันตแพทย์อาจให้ชุดฟอกสีฟันไปทำต่อที่บ้านเองได้
การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?
-
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีสี และอาหารที่มีสี
-
หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 ชั่วโมง หลังการทำ
-
ทำความสะอาดและแปรงฟันตามปกติ
-
ใช้ชุดฟอกสีฟันที่บ้าน สำหรับการรักษาความขาวของสีฟัน
มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?
การฟอกสีฟันแบบซูม (ZOOM) เป็นทางเลือกใหม่ของการฟอกสีฟัน ที่จะไม่เป็นอันตรายต่อฟัน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว สามารถเปลี่ยนสีฟันให้ขาวขึ้น ภายในเวลาอันรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และสะอาด ทั้งนี้ยังสามารถเปลี่ยนสีฟันได้ถึง 8 เฉดสี ช่วยลดอาการเสียวฟันได้เป็นอย่างดี และสามารถทำให้ฟันขาวขึ้นในทันทีภายใน 45 นาทีโดยไม่ทำลายโครงสร้างของฟันธรรมชาติ
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับจังหวัดภูเก็ต
ภูเก็ต ได้ชื่อว่าเป็นไข่มุกอันดามันเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่และเป็นเกาะเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่มีสถานะเป็นจังหวัด โดยมีจำนวนอำเภอเพียงแค่ 3 อำเภอเท่านั้น คือ อำเภอเมือง อำเภอถลาง และอำเภอกะทู้ และด้วยลักษณะภูมิประเทศของจังหวัดภูเก็ตที่เป็นเกาะ จึงทำให้มีทะเลล้อมรอบ ภูเก็ตจึงมีชายหาดที่สวยงามเป็นจำนวนมากเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและชาวต่างชาติ เช่นหาดป่าตอง หาดกะตะ หาดกะรน และหาดไม้ขาว ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรม และมีที่พักอยู่จำนวนมาก
ปัจจุบันภูเก็ตได้ริเริ่มโครงการยกระดับท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจังหวัดภูเก็ตสู่เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก เนื่องจากภูเก็ตเองมีความพร้อมในด้านต่าง ๆ รวมไปถึงโรงพยาบาล เช่น โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ซึ่งถือเป็นระดับศูนย์โรงพยาบาลของภาคใต้ฝั่งอันดามัน โรงพยาบาล กรุงเทพ ภูเก็ต โรงพยาบาล สิริโรจน์ ที่มีชื่อเสียงและได้รับ การรับรอง มาตรฐาน JCI เป็นต้น
สถานที่ยอดนิยมในจังหวัดภูเก็ต
หาดป่าตอง เป็นหาดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของจังหวัดภูเก็ต ห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 15 กิโลเมตร เป็นที่รู้จักในเรื่องของแสงสีและแหล่งบันเทิงที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมมาพักผ่อนตลอดทั้งปี เนื่องจากมีร้านค้า ร้านอาหาร ที่พัก บริษัททัวร์ แหล่งบันเทิง และอื่นๆ ที่อำนวยความสะดวกครบครันตั้งอยู่เรียงราย นอกเหนือ จากนี้ยังมีกิจกรรมทางน้ำที่น่าสนใจ เช่น บานาน่าโบ้ท เจ็ตสกี พาราชู้ต เป็นต้น
แหลมพรหมเทพ ถือเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดในประเทศไทย มีลักษณะเป็นแหลมโค้งทอดตัวลงสู่ทะเล สามารถเดินลงไปที่ปลายแหลมได้ เมื่อลงไปที่ด้านล่างจะเห็นน้ำทะเลสีเขียวมรกต เวลามีคลื่นซัดเข้ามากระทบก้อนหินจะเป็นฟองสีขาวดูสวยงามเป็นอย่างยิ่ง
วัดฉลอง หรือ วัดไชยธาราราม วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดภูเก็ต เป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อแช่ม หรือ พระครูวิสุทธิองศาจารย์ญาณมุณี พระครูผู้เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวเมืองภูเก็ต จากเรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์และคุณความดีของหลวงพ่อแช่มวัดฉลอง ในการเป็นที่พึ่งให้แก่ชาวบ้านในการต่อสู้กับพวกอั้งยี่ หากใครมาเที่ยวที่ภูเก็ตก็จะคงต้องแวะไปกราบไหว้หลวงพ่อแช่มเพื่อความเป็นสิริมงคล และเยี่ยมชมวัดที่ได้ชื่อว่ามีความสวยงามที่สุดในเมืองภูเก็ต
การเดินทางในจังหวัดภูเก็ต
ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีการเดินทางภายในจังหวัดสะดวกมาก มีสนามบินนานาชาติที่มีไฟล์ทบินมาลงแทบจะทุกชั่วโมง มีบริการรถแท็กซี่เข้าตัวเมืองภูเก็ต รถประจำทางแอร์พอตบัส รถเช่า เป็นต้น ส่วนการเดินทางภายในจังหวัด ก็มีรถตุ๊กๆ บริการภายในเขตเทศบาล หรือจะเช่าเหมารถตุ๊กๆ ไปยังสถานที่ต่าง ๆก็ได้ ราคาขึ้นอยู่กับระยะทาง มีบริการรถสองแถวออกจากตลาดสดใกล้วงเวียนน้ำพุ ถนนระนอง ไปยังหาดและสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งราคาก็ขึ้นอยู่กับระยะทางเหมือนกัน รวมไปถึงวินมอเตอร์ไซค์ เป็นต้น
ประชากรหรือผู้คนในจังหวัดภูเก็ต
ประชากรแต่เดิมในจังหวัดภูเก็ต ได้แก่ เงาะซาไก และชาวยิปซีทะเล หรือ ชาวเล ต่อมาได้มีชาวอินเดีย ชาวไทย และชาวจีน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีนฮกเกี้ยนอพยพเข้ามาตั้งรกรากที่นี่ ทำให้ภูเก็ตมีการผสมผสานและสืบต่อวัฒนธรรมของชาติต่าง ๆเข้าด้วยกัน จนเป็นเอกลักษณ์ของชาวภูเก็ตมาจนถึงทุกวันนี้ ปัจจุบันด้วยความที่เป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรม จึงทำให้มีประชากรหลั่งไหลย้ายเข้ามายังจังหวัดภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภูเก็ตมีจำนวนประชากรแฝงอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากอีกด้วย
สภาพภูมิอากาศในจังหวัดภูเก็ต
ภูเก็ตมี 2 ฤดู คือ ฤดูร้อน และฤดูฝน ซึ่งฤดูฝนนั้นจะเริ่มขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคมจนถึงปลายเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วง ที่ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดผ่าน ส่วนฤดูร้อนเริ่มในเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย ประมาณ 33.4 องศาเซลเซียส สูงที่สุดในเดือนมีนาคม ส่วนในเดือนมกราคมจะมีอุณภูมิต่ำสุด คือ 22 องศาเซลเซียส ในช่วงอากาศดีที่สุดจะอยู่ในช่วง เดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนเมษายน จะไม่มีฝน ท้องฟ้าแจ่มใส อุณหภูมิประมาณ 31 องศาเซลเซียสเหมาะแก่การท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง
อื่น ๆ
ภาษา ที่ใช้ในการสื่อสารของคนภูเก็ตจะเป็นภาษาไทยใต้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ พูดไม่ออกเสียง ก เป็นตัวสะกด และมีภาษาจีนฮกเกี้ยนที่คนภูเก็ตเชื้อสายจีนจะใช้ในการสื่อสารกัน สำหรับคนที่ทำงานในวงการธุรกิจท่องเที่ยวแล้ว จะสามารถพูดภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดีและยังมีภาษาจีนและรัสเซียที่ยังเป็นที่ต้องการของตลาดอีกเช่นกัน
การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในจังหวัดภูเก็ต นอกจากภูเก็ตจะมีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามและมีชื่อเสียงมากมายแล้ว ยังเป็นที่ยอมรับในเรื่องการแพทย์ เพราะมีโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน JCI อย่างเช่น โรงพยาบาล กรุงเทพ ภูเก็ต และ โรงพยาบาล สิริโรจน์ อีกทั้งยังมีคลินิกเสริมความงาม และ คลินิกทันตกรรม หลากหลายแหล่งให้เลือกอย่างหลากหลายเช่นกัน