สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ การฟอกสีฟัน ใน ไทย
การฟอกสีฟัน หรือ การฟอกฟันขาว คือกระบวนการเพิ่มความขาวของฟันซึ่งทำให้ฟันและเหงือกแลดูมีสุขภาพดี ซึ่งไม่สามารถฟอกสีฟันได้ในกรณีที่เป็นฟันปลอม ครอบฟัน รากเทียม และวัสดุแปะฟันขาวหรือveneers
การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?
การฟอกสีฟันมี 2 วิธี โดยการฟอกสีฟันที่คลินิกโดยทันตแพทย์ และ การฟอกสีฟันด้วยตนเองที่บ้าน ซึ่งทั้ง 2 วิธีจะใช้น้ำยาที่มีส่วนประกอบของ Hydrogen peroxide หรือ Carbamide peroxide
การฟอกสีฟันที่คลินิก ทันตแพทย์จะใช้น้ำยาที่มีความเข้มข้นสูงซึ่งเป็นกระบวนการที่เห็นผลอย่างรวดเร็วและผลที่ได้ยาวนานกว่าการฟอกเองที่บ้าน
การฟอกสีฟันด้วยตนเองที่บ้าน ทันตแพทย์จะจ่ายยาฟอกสีฟัน และถาดสำหรับฟอกสีฟัน โดยน้ำยาจะมีความเข้มข้นที่น้อยกว่า ซึ่งจะต้องทำการฟอกสีฟันโดยประมาณ 30 นาที - 1 ชั่วโมง ต่อวันหรือต่อเนื่อง 2-3 สัปดาห์
ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?
ผู้เข้ารับการรักษาสามารถเดินทางกลับบ้านได้เลยหลังการฟอกสีฟัน ซึ่งอาจจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง และอาจเห็นผลได้โดยทันทีภายในการฟอก 1-2 ครั้งแรก แต่ทันตแพทย์อาจทำการนัดหมายเพิ่มเติมเพื่อติดตามผลและเพิ่มความขาวให้ได้ผลตามความต้องการ
การฟอกสีฟันเองที่บ้าน อาจต้องมีการแยกพบทันตแพทย์ 2 ครั้ง ซึ่งอาจจะต้องวางแผนการเดินทางและอาจต้องใช้เวลา 3-7 วันโดยประมาณหากผู้เข้ารับการรักษาเดินทางมาจากต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ
การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?
เพื่อคงสภาพสีฟันหลังการฟอกสีฟัน ควรแปรงฟันอย่างน้อย 2 ครั้ง ต่อวันร่วมด้วยกับการใช้ไหมขัดฟัน และน้ำยาบ้วนปาก และเลี่ยงการทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีสีทั้งหลายเพื่อหลีกเลี่ยงการก่อให้เกิดคราบ เช่น ชา กาแฟ ไวน์ น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง ซอส และผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?
การฟอกสีฟันถือเป็นกระบวนการเปลี่ยนสีฟันที่ปลอดภัยและได้ผลลัพท์ที่ดี แต่อาจจะได้ผลลัพท์ที่น้อยกว่าสำหรับคนที่มีฟันสีเข้ม และอาจทำให้รู้สึกเสียวฟันและระคายเคืองเหงือกได้ในบางราย
การฟอกสีฟัน Zoom คืออะไร ?
สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ Zoom Whitening ในประเทศไทย
การฟอกฟันขาว ด้วย Zoom Whitening เป็นนวัตกรรมใหม่ของการฟอกสีฟัน และเมื่อเทียบกับวิธีอื่น ๆ แล้ว Zoom ได้รับการพิสูจน์ว่าฟันขาวนาน มีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพสูง และเห็นผลเร็วกว่าในทางวิทยาศาสตร์ เป็นการฟอกฟันขาวด้วยเทคโนโลยี LED ที่สามารถปรับแสง ตามความเหมาะสมของความเข้มข้นได้ 3 ระดับ ฃ
Zoom Whitening เหมาะสำหรับผู้ที่มีสีของฟันที่ดูคล้ำเข้มขึ้นจากที่เคยขาวมาก่อน มีคราบสีจากอาหารต่าง ๆ เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม ไวน์แดง และบุหรี่ เป็นต้น การฟอกสีฟันด้วย นวัตกรรม Zoom จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถทำให้ฟันกลับมาขาว สะอาดได้อีกครั้ง และเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลา เพราะฟันสามารถขาวขึ้นได้ภายใน 45 นาที หลังจากการทำ
Zoom Whitening ข้อดี มีอะไรบ้าง
1. รวดเร็ว และสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
2. ฟันขาวยิ่งกว่าเดิม ด้วยเทคนิคที่สามารถปรับแต่งความขาว และความสว่างใสได้
3. ฟันขาวทนนานกว่าวิธีเดิม ๆ
4. ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
5. มีอาการเสียวฟันน้อยกว่าการฟอกสีฟันแบบอื่น ประมาณ 13%
Zoom Whitening ข้อเสีย มีอะไรบ้าง
1. มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการฟอกสีฟันแบบอื่น ๆ
2. ทำได้แค่ในคลินิกเท่านั้น และต้องเป็นคลินิกที่ถูกกฎหมาย เพราะต้องอาศัยความชำนาญเฉพาะทาง
การฟอกฟันขาวด้วย นวัตกรรม Zoom จึงมีทั้งความรวดเร็ว และสะดวกสบาย คงฟันให้มีความขาวได้นาน ไม่เสียวฟันมาก (หากมีอาการ ก็จะเสียวฟันไม่เกิน 1 วัน) นอกจากนี้ ยังมีความปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูง
การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?
Zoom Whitening คือการใช้สาร Hydrogen Peroxide ในเจล มาฟอกสีฟัน แล้วใช้แสงกระตุ้นสาร Hydrogen Peroxide แทรกซึมลงสู่ฟัน โดยไม่ทำลายโครงสร้างธรรมชาติของฟัน มีประสิทธิภาพ ในการช่วยฟอกสีฟัน สามารถปรับระดับเฉดสีฟันให้ขาวขึ้นได้มากถึง 8 เฉด และใช้ระยะเวลาในการทำ เสร็จภายใน 1 ชั่วโมงเท่านั้น
Zoom มีประสิทธิภาพ ในการขจัดคราบฟันเหลือง คราบชา กาแฟ และสีฟันที่ไม่สม่ำเสมอ นอกจากนี้ ยังช่วยลดการเสียวฟันได้ดีกว่าเครื่องฟอกสีชนิดอื่น
การฟอกสีฟันด้วย Zoom สามารถเลือกทำได้ 2 ประเภท คือ
-
การฟอกสีฟันที่ทำโดยทันตแพทย์ในคลินิก มีวิธีทำได้ ดังนี้
-
ตรวจประเมินช่องปาก ขูดหินปูน และขัดฟัน
-
ตรวจและทำการเทียบเฉดสีของฟันโดยทันตแพทย์
-
สวมแว่นตาป้องกันแสง ใส่อุปกรณ์เข้าไปในช่องปาก
-
ปกป้องเหงือกและเนื้อเยื่อบริเวณรอบ ๆ ฟัน ด้วยน้ำยาที่มากับชุดน้ำยาฟอกสีฟัน Zoom
-
ฉายแสงเพื่อให้น้ำยาแข็งตัว
-
บีบน้ำยาจากหลอดน้ำยา และใช้พู่กันทาไปที่ฟันแต่ละซี่
-
กระตุ้นน้ำยาด้วยแสงเลเซอร์ ให้ทำงานได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อย่างน้อย 3 ครั้ง ครั้งละ 15 นาที
-
กำจัดน้ำยาฟอกสีฟันและน้ำยาที่ใช้ป้องกันเหงือกออก
-
สามารถเห็นความแตกต่างได้จากการเปรียบเทียบสีก่อนและหลังการฟอกสีฟัน
-
ทาน้ำยาเพื่อลดอาการเสียวฟัน ทาน้ำยาเพื่อลดอาการแสบร้อนสำหรับที่บริเวณเหงือก
-
การฟอกสีฟันแบบนำอุปกรณ์และน้ำยาไปทำเองที่บ้าน (Home Bleaching )
โดยน้ำยาที่ใช้ในการฟอกสีฟันเองที่บ้านจะมี 2 แบบ คือ Zoom Nite White 22% และ Zoom Day White 16 % ทั้ง 2 ชนิด จะประกอบด้วยสารที่ช่วยขจัดคราบสีออกจากตัวฟัน อย่าง Carbamide Peroxide 22%, 16 % และ Hydrogen Peroxide นอกจากนี้ยังมีสารที่ช่วยป้องกันและลดอาการเสียวฟัน ACP (Amorphous Calcium Phosphate) เข้ามาผสม ซึ่งมีวิธีทำได้ ดังนี้
-
พิมพ์ปาก ทำถาดฟอกสีฟัน (เฉพาะบุคคล) กับทันตแพทย์
-
ตรวจประเมินช่องปาก ขูดหินปูนและขัดฟัน
-
ให้คำแนะนำวิธีการใช้ โดยทันตแพทย์
-
ให้แปรงฟันให้สะอาด และถาดฟอกสีฟันควรแห้งสนิท
-
ให้บีบดันน้ำยาฟอกสีฟันออกไปเป็นจุดเล็ก ๆ เท่าเม็ดถั่วเขียว บีบใส่ลงไปที่ถาดฟอกสีด้านที่จะสัมผัสกับผิวหน้าฟัน
-
เมื่อใส่ถาดฟอกสีเข้าไปในปากแล้ว กดนวดเบา ๆ ให้น้ำยากระจายทั่วผิวหน้าฟัน
-
สวมถาดฟอกสีฟันทั้งบนและล่าง สวมทิ้งไว้วันละ 1 ครั้ง ครั้งละ 1 - 2 ชั่วโมง สำหรับคนที่มีอาการเสียวฟัน แนะนำให้ใช้วันเว้นวัน
-
หลังจากทำเสร็จ นำถาดฟอกสีออกจากปาก แล้วบ้วนน้ำ และล้างถาดฟอกสีด้วยน้ำสะอาด ใช้แปรงปัดคราบน้ำยาที่เหลืออยู่ออก ผึ่งให้แห้ง แล้วเก็บใส่กล่อง
ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?
หลังฟอกสีฟันเสร็จแล้ว อาจมีอาการเสียวฟันได้ในช่วงแรก และจะค่อย ๆ หายไปเอง และถ้าหากเฉดสีฟันยังไม่เป็นที่ต้องการ ทันตแพทย์อาจให้ชุดฟอกสีฟันไปทำต่อที่บ้านเองได้
การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?
-
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีสี และอาหารที่มีสี
-
หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 ชั่วโมง หลังการทำ
-
ทำความสะอาดและแปรงฟันตามปกติ
-
ใช้ชุดฟอกสีฟันที่บ้าน สำหรับการรักษาความขาวของสีฟัน
มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?
การฟอกสีฟันแบบซูม (ZOOM) เป็นทางเลือกใหม่ของการฟอกสีฟัน ที่จะไม่เป็นอันตรายต่อฟัน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว สามารถเปลี่ยนสีฟันให้ขาวขึ้น ภายในเวลาอันรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และสะอาด ทั้งนี้ยังสามารถเปลี่ยนสีฟันได้ถึง 8 เฉดสี ช่วยลดอาการเสียวฟันได้เป็นอย่างดี และสามารถทำให้ฟันขาวขึ้นในทันทีภายใน 45 นาทีโดยไม่ทำลายโครงสร้างของฟันธรรมชาติ
ประเทศไทย มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางราชการว่า ราชอาณาจักรไทย ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีลักษณะภูมิประเทศที่หลากหลายโดยแบ่งออกเป็น 4 ภูมิภาค 77 จังหวัด และมีอากาศค่อนข้างร้อนชื้นตลอดทั้งปี
เป็นที่ยอมรับกันว่าประเทศไทย เป็นประเทศที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก นำพาชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อยให้เดินทางมาท่องเที่ยวและอาศัยอยู่ในประเทศไทยด้วยเหตุผลนานานับประการ และในปัจจุบันประเทศไทยยังมีอัตราการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในเรื่องของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เนื่องจากมีความพร้อมในการให้บริการที่ได้มาตรฐานในระบบสากล รวมทั้งมีค่ารักษาพยาบาลที่ถูกกว่า และใน ปัจจุบัน ประเทศไทย มีจํานวนสถานพยาบาล ที่ได้รับ การรับรอง มาตรฐาน ในระดับ สากล JCI มากที่สุดใน AEC ถึง 56 แห่ง ซึ่งมาก เป็นอันดับ 4 ของโลก อีกด้วย
จังหวัดท่องเที่ยวที่ยอดนิยมของไทย
กรุงเทพมหานคร อันดับหนึ่งตลอดกาลคงต้องยกให้กับจังหวัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศไทยและเป็นจังหวัดที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญมากมาย แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี มีย่านธุรกิจ และ แหล่งช้อปปิ้งอีกมากมาย ซึ่งถ้าพูดถึงที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ทุกคนต้องแวะไป ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติคือ วัดพระแก้ว, วัดอรุณ, วัดโพธิ์, เยาวราช, ถนนข้าวสาร, ตลาดนัดจตุจักร และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งการเดินทางคมนาคมในกรุงเทพฯนั้นก็แสนจะสะดวกสบาย สามารถเดินทางได้โดยขนส่งสาธารณะ เช่น Airport link, BTS, MRT, รถแทกซี่, รถเมล์, รถตุ๊กตุ๊ก เป็นต้น
เชียงใหม่ เชียงใหม่ก็ถือเป็นเมืองยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยมีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในช่วงหน้าหนาว ซึ่งมีอากาศที่ค่อนข้างเย็นสบายละมีบรรยากาศที่ดี เชียงใหม่ยังเป็นเมืองที่มีธรรมชาติที่สมบูรณ์ และยังเป็นเมืองแห่งวัฒนธรรม สถานที่ที่น่าสนใจในเชียงใหม่ ได้แก่ วัดพระธาตุดอยสุเทพ ดอยอินทนนท์ ถนนนิมมานเหมินทร์ วัดอุโมงค์ เป็นต้น เชียงใหม่เป็นเหมือนศุนย์กลางการท่องเที่ยวทางภาคเหนือ เพราะสามารถต่อรถไปยังที่เที่ยวรอบ ๆ ได้อย่างสะดวก เช่น จ. เชียงราย, จ. แม่ฮ่องสอน เป็นต้น
ภูเก็ต เกาะที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีหาดทรายที่สวยงาม มีน้ำทะเลใส เหมาะกับการเล่นน้ำและดำน้ำ หรือทำกิจกรรมทางน้ำแบบอื่น ๆ ชายหาดที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวก็คือ หาดป่าตอง, หาดกะตะ, หาดกะรน เป็นต้น ทั้งสามารถซื้อทัวร์แบบไปเช้าเย็นกลับยังเกาะใกล้ ๆได้ เช่น หมู่เกาะพีพี, เกาะราชา, เกาะไข่ เป็นต้น หากใครที่ไม่ชอบทะเล ก็สามารถเข้าไปเที่ยวชมวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวภูเก็ตภายในตัวเมืองได้ เช่น สถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีสที่ถนนถลาง, ซอยรมณีย์ หรือ ไหว้พระขอพรจากวัดฉลองซึ่งเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวภูเก็ต เป็นต้น
พัทยา ตั้งอยู่ในจังหวัดชลบุรี เป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวไปเยือนและเป็นที่นิยมมากแห่งหนึ่งไม่แพ้สถานที่อื่น ๆ และเป็นที่รู้จักกันมากกว่าตัวจังหวัด และเป็นหนึ่งในสถานที่ยอดฮิตของคนไทยเพราะใกล้กรุงเทพเพียงแค่ 100 กิโลเมตร สามารถมาเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับได้สบาย และนอกจาก วอล์คกิ้งสตรีท ที่หลายๆคนนึกถึง พัทยายังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น ปราสาทสัจธรรม, สวนน้ำรามายณะ เป็นต้น ซึ่งการเดินทางยอดนิยมสำหรับการมาพัทยาคือ การขับรถยนต์ส่วนตัว และการนั่งรถตู้จากกรุงเทพฯ และเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับเดินทางมาพักผ่อนแบบครอบครัวอีกด้วย
สภาพภูมิอากาศของประเทศไทย
ประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตร้อนใกล้เขตศูนย์สูตร มีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ เป็นตัวกำหนดลักษณะอากาศของประเทศไทย พื้นที่ส่วนบนเป็นภูเขาและที่ราบสูง พื้นที่ส่วนกลางเป็นที่ราบลุ่ม พื้นที่ทางใต้เป็นแหลมยื่นลงไปในทะเล
ลักษณะภูมิอากาศ สามารถแบ่งได้เป็น 3 ฤดูกาล ดังนี้ ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่ เดือนกุมภาพันธ์ ถึง พฤษภาคม, ฤดูฝน จะเริ่ม ตั้งแต่ เดือนมิถุนายน ถึงตุลาคม และฤดูหนาว จะเริ่ม ตั้งแต่ เดือนพฤศจิกายน ถึงมกราคม
อุณหภูมิโดยทั่วไปอยู่ในเกณฑ์ร้อนและไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก โดยมีค่าเฉลี่ยทั่วประเทศประมาณ 27 องศาเซลเซียส มีค่าสูงสุดเฉลี่ย 32 องศาเซลเซียส และและต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส โดยมีค่าอุณหภูมิผันแปรตามสภาพภูมิประเทศ กล่าวคือ ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศร้อนจัดและหนาวจัดกว่าภาคอื่น ๆ, ภาคกลางและภาคตะวันออก มีบางส่วนของพื้นที่ติดกับทะเล ทำให้อุณหภูมิไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วไปประมาณ 28 องศาเซลเซียส, ภาคใต้ทั้งสองฝั่งล้อมรอบด้วยทะเล อุณหภูมิไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 27.3 องศาเซลเซียส
การเดินทางในประเทศไทย
การเดินทางในประเทศไทย ไม่ว่าจะเดินทางไปที่จังหวัดไหนก็มีความสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางอากาศ หรือทางน้ำ
ทางบก ก็มีเส้นทางหลักที่สะดวกไปได้ทั่วถึงทุกจังหวัดในประเทศไทย และมีทางเลือกที่หลากหลาย เช่น การเดินทางโดยรถประจำทาง, รถแทกซี่ (มีบริการในกรุงเทพฯและเมืองใหญ่ๆ), รถมอเตอร์ไซค์ (นิยมใช้บริการในระยะใกล้ๆ) รถเช่า, หรือรถยนต์ส่วนบุคคล
ทางอากาศ ปัจจุบันประเทศไทยมีสายการบินในประเทศหลายสาย ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยเฉพาะจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ยอดนิยม เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของนักท่องเที่ยว
ทางน้ำ เนื่องจากเมืองไทยมีแม่น้ำลำคลองอยู่ทั่วไป และยังมีหลายคลองที่มีเรือโดยสารวิ่งรับส่งคนตามท่าเรือต่าง ๆ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ
ประชากรในประเทศไทย
ประเทศไทย มีจำนวนประชากรโดยประมาณ 65 ล้านคนซึ่งมีความหลากหลายทางเชื้อชาติ โดยประมาณ 3 ใน 4 มีเชื้อสายไทย นอกจากนี้ยังมีคนไทยเชื้อสายจีนเป็นจำนวนมาก รวมทั้งคนไทยเชื้อสายมลายูในภาคใต้ตอนล่าง และคนไทยเชื้อสายมอญ เขมร และชาวเขาเผ่าต่าง ๆ และประชากรส่วนใหญ่ ส่วนใหญ่นับถือ ศาสนาพุทธ และศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ตามลำดับ
ข้อมูลอื่น ๆ
ภาษา ประเทศไทยมีภาษาไทยเป็นภาษาราชการเพียงภาษาเดียว มีการระบุว่าเป็นภาษาหลักของการศึกษาและใช้ในราชการ ในขณะที่ ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาที่สองที่พบมากที่สุดในประเทศไทย
สกุลเงิน สกุลเงินที่ใช้เป็นสกุลเงินบาท
วันหยุด ราชการ ที่สำคัญ ของไทย ได้แก่ วัน ขึ้นปีใหม่, วัน สงกรานต์,วัน เฉลิมพระชน มพรรษา ของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และของสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรม ราชินี, วัน แม่แห่งชาติ เป็นต้น
การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในไทย
ปัจจุบัน อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว นับเป็นอุตสาหกรรมหลักที่ทำรายได้เข้าสู่ประเทศอย่างมหาศาลในเวลาที่ผ่านมา การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในประเทศไทย เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและโดดเด่น โดยที่ประเทศไทย ติดอันดับ 1 ของ เอเชีย เนื่องจากไทยมีหน่วยการแพทย์ที่มีคุณภาพ มีราคาที่ไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับคุณภาพที่ได้การรักษา รวมถึงประเทศไทยนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ มีจุดเด่น ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เป็นอย่างดีอีกด้วย โดยเฉพาะจังหวัดที่เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวหลัก และมีสถานพยาบาลที่พร้อม เช่น กรุงเทพฯ, เชียงใหม่, ภูเก็ต, และเกาะสมุย เป็นต้น