สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ ยาเฉพาะสลายไขมันส่วนเกิน (Meso Fat) ใน ขอนแก่น
Meso Fat คืออะไร ?
การฉีด Meso Fat นั้นคือการนำตัวยาเฉพาะ ซึ่งมีฤทธิ์ในการสลายไขมันมาฉีดเข้าไปใต้ผิวหนัง ในบริเวณที่มีไขมันอยู่มากและเป็นจุดที่ลดไขมันได้ยาก เช่น แก้ม ต้นแขน ต้นขา สะโพก เหนียง โดยเป็นวิธีที่สามารถได้ผลมากยิ่งขึ้นเมื่อทำร่วมกับการควบคุมอาหาร และการออกกำลังกาย หรือการใช้ตัวยาตัวอื่น เช่น การใช้โบท็อก
Meso Fat แบ่งออกเป็น 4 ประเภท
ในปัจจุบันตัวยาที่นำมาใช้ในการทำ Meso Fat สามารถแบ่งได้ 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
-
Mesostabyl ทำหน้าที่คอยับยั้ง และช่วยลดการเกิดไขมัน ในชั้นเนื้อเยื่อ
-
L-carnitine ทำหน้าที่ช่วยสลายไขมันในจุดต่าง ๆ และเผาผลาญไขมัน มาใช้เป็นพลังงาน
-
Tyrosine ทำหน้าที่เร่งระบบเผาผลาญให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เช่น ตัวยา Theophylline
-
Artichoke extract ซึ่งสามารถลดการสร้างกรดไขมันและระดับไขมัน ซึ่งสารตัวนี้สามารถลดไขมันเฉพาะจุดได้ และเป็นที่นิยมในการนำมาใช้ในการทำเมโสแฟต
และนอกจากตัวยา 4 ประเภทนี้ ก็ยังมีตัวยาอื่น ๆ ที่สกัดมาจากธรรมชาติและมีประโยชน์ เช่น Daxpanthenol ที่สกัดมาจากไข่แดงและถั่วเหลือง ที่ในบางคลินิกนิยมนำยาใช้ เพราะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน รวมไปถึงตัวยาสามารถสลายออกไปได้เองหลังฉีด
ข้อดีของการใช้ Meso fat
-
สามารถลดไขมันได้แบบเฉพาะจุด และเห็นผลได้ไว
-
ไม่ทิ้งรอยแผลหลังทำหัตถการ และไม่จำเป็นต้องพักฟื้น
-
ไม่มีสารตกค้างภายใน และสะดวกในการประหยัดเวลา
-
ช่วยในการขจัดไขมันส่วนเกิน ในบริเวณที่ทำการฉีดเมโสแฟต
-
ราคาไม่แพง และหากอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก็จะมีความปลอดภัยสูง
ข้อเสียของการใช้ Meso fat
-
อาจเกิดรอยแดง หรือมีอาการบวมบริเวณจุดที่ฉีดเป็นเวลา 1 ถึง 2 วันหลังจากที่ฉีดแล้ว
-
หากพบว่าตนเองมีโอกาสที่จะแพ้สารในยาที่ใช้ ควรขอคำปรึกษากับแพทย์ให้ดี รวมถึงตรวจคลินิกนั้น ๆ เพื่อความปลอดภัย
-
ไม่สามารถกำจัดไขมันที่มีจำนวนมากเกินไปได้ เนื่องจากการฉีดเมโสแฟต 1 ครั้งจะสามารถกำจัดไขมันได้เพียง 10 ถึง 15 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
-
ตัวยา Meso fat บางตัวก็ยังไม่ได้รับ อย. ดังนั้นไม่ควรจะทำการสั่งมาทำเองจากอินเทอร์เน็ต และควรศึกษาให้ดีก่อนที่จะใช้
ยาต้องห้ามที่ไม่ควรจะนำมาใช้ในการทำ Meso fat เป็นอย่างยิ่ง
กลุ่มยาบางประเภทก็สามารถใช้รถไขมันได้เช่นกัน แต่ก็มีความอันตรายและควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด โดยหากรู้ว่าคลินิก หรือสถานพยาบาลที่กำลังจะเข้ารับบริการมีการใช้สาร 2 ชนิด ที่กำลังจะกล่าวถึงควรหลีกเลี่ยง และห้ามใช้บริการโดยทันที โดยยาดังกล่าวคือ
-
สเตียรอยด์ (Steroid)
สารสเตียรอยด์ (Steroid) นั้นเป็นที่รู้กันดีว่าเป็นยาที่สามารถส่งผลข้างเคียง ในระดับที่อันตรายถึงชีวิตได้เลยทีเดียว โดยหากนำสเตียรอยด์มาใช้เป็นส่วนหนึ่งในส่วนผสมของเมโสแฟต อาจจะทำให้หน้าบวมกว่าเดิม และกดภูมิคุ้มกันอีกด้วย ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงควรขอดู ยี่ห้อเมโสแฟตก่อนฉีด และเช็คให้ละเอียดทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย
-
ยาสลายฟิลเลอร์ (Hyaluronidase)
ยา Hyaluronidase เป็นอีกหนึ่งตัวยาที่สามารถทำให้เนื้อยุบลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากตัวยานี้ทำให้ คอลลาเจนในผิวสลายไป แต่ผลข้างเคียงที่ตามมาคือทำให้เกิดริ้วรอย และผิวหนังหย่อนยานลงก่อนวัยอันควร
ใครบ้างที่เหมาะแก่การฉีดเมโสแฟต
ก่อนอื่นผู้ที่ได้รับการฉีดเมโสแฟตนั้น ควรที่จะมีอายุ 20 ปีขึ้นไปเท่านั้น และผู้ที่เหมาะแก่การทำหัตถการประเภทนี้ ได้แก่
-
ผู้ที่มีไขมันส่วนเกินในปริมาณเล็กน้อย ถึง ปานกลาง
-
ผู้ที่ไม่มีความมั่นใจในสัดส่วน และรูปร่างของตนเอง
-
ผู้ที่ไม่ต้องการลดไขมันด้วยวิธีการผ่าตัด
-
ผู้ที่มีปัญหาในการลดน้ำหนักแม้พยายามแล้ว
ใครบ้างที่ไม่ควรฉีดเมโสแฟต
กลุ่มคนที่ไม่ควรทำหัตถการประเภทนี้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ นั่นคือ
-
สตรีมีครรภ์ เพราะอาจทำให้เกิดภาวะเกร็งและเครียด ในขณะที่เข้ารับการทำหัตถการ
-
กลุ่มคนที่มีโรคประจำตัว และผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับหลอดเลือด และทางเดินโลหิตทุกชนิด
ซึ่งแม้ในปัจุบันยังไม่พบงานวิจัยหรือข้อบ่งชี้ว่าสามารถทำให้เกิดอันตรายโดยตรงได้ แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงการทำหัตถการเช่นนี้ เพื่อความปลอดภัย
การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?
การทำ Meso fat นั้นสามารถทำรวมกับการทำหัตถการเพื่อความงานอื่น ๆ ตัวอย่างเช่น การทำเมโสแฟตพร้อมกับการทำโบท็อก สามารถช่วยในการลดไขมันและกล้ามเนื้อส่วนเกินในเวลาเดียวกัน โดยจะนิยมทำให้จุดที่มีทั้งกล้ามเนื้อและไขมันในบริเวณเดียวกัน ได้แก่ กราม กรอบหน้า บริเวณน่องขา เป็นต้น
นอกเหนือจากนั้นยังมีการ ลิฟตืกรอบหน้า เพื่อให้เห็นกรอบหน้าที่ชัดเจน และการทำหัตถกรรมอีกหลาย ๆ รูปแบบ ที่สามารถเป็นไปได้ในการทำให้รูปร่าง และทรวดทรงของผู้เข้ารับการรักษา เป็นไปตามที่คาดหวังจนได้รับความพึงพอใจ
ขั้นตอนการฉีดเมโสแฟต
การฉีดแมโสแฟตมีขั้นตอนหลัก ๆ ในการปฏิบัติดังนี้
-
เข้ารับคำปรึกษาปัญหาไขมันส่วนเกิน และปัญหาผิวที่อยากยกกระชับกับแพทย์
-
เริ่มการประเมินการรักษาโดย เริ่มจากการกำหนดยี่ห้อ และปริมาณ และอาจรวมไปถึงการจำหนดจำนวนครั้งเพื่อในการมาฉีด เพื่อให้เห็นผลในความต้องการของผู้เข้ารับบริการ
-
เข้าสู่ขั้นตอนการฉีดโดยก่อนฉีดนั้น เจ้าหน้าที่จะต้องทำความสะอาดผิวให้ หลังจากนั้นอาจจะมีการประคบเย็น หรือแปะแผ่นยาชา เพื่อเตรียมการฉีดเมโส
-
แพทย์จะเป็นคนฉีดยาชาตามปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งโดยส่วนมากจะใช้เวลาไม่นานโดยไม่เกืน 15 นาที
ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?
หลังจากได้รับการฉีดเมโสแฟต จะมีอาการบวมเข็มประมาณ 1 ถึง 2 ชั่วโมง ซึ่งหลังจากนั้นรอยจะค่อย ๆ หายไป ส่วนในบางรายอาจมีรอยช้ำซึ่งให้เวลา 1 ถึง 2 วัน โดยทั่วไปแล้วจะไม่ปรากฏอาการใดเพิ่มเติม
การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?
หลังจากการรับเมโสแล้วมีข้อควรปฏิบัติ ดังนี้
-
งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดการสูบบุหรี่
-
งดการทำทรีทเมนต์ หรือสครับผิว เพื่ออาจจะทำให้แผลเปิดและเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้
-
งดการโดนความร้อน หรือกิจกรรมที่จะทำให้เกิดการบวมช้ำ
-
ออกกำลังกาย คู่กับการปรับพฤติกรรมการทานอาหาร
มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?
อัตราความสำเร็จของเมโสแฟตนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล เนื่องจากในคนไข้แต่ละรายล้วนแล้วแต่มีปริมาณไขมัน รวมไปถึงรูปร่างและสรีระที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงควรทำความแนะนำของแพทย์อย่างใกล้ชิดเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้เข้ารับบริการ
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับจังหวัดขอนแก่น
จังหวัดขอนแก่น เป็นจังหวัดขนาดใหญ่ที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นอีกจังหวัดหนึ่งของภูมิภาค นอกจากจะมีทำเลที่ตั้งทางภูมิศาสตร์อยู่ในบริเวณศูนย์กลางของภาคอีสานแล้ว ยังเป็นจังหวัดศูนย์กลางทางการศึกษาและเทคโนโลยีของภูมิภาค เนื่องจากเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยขอนแก่น และมีระบบสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ครบครัน ทั้งที่พักหลายระดับและบริการต่าง ๆจำนวนมาก มีทรัพยากรทั้งทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์และด้านอื่น ๆ หลากหลายรูปแบบ และที่สำคัญคือเป็นที่ตั้งของสนามบิน จึงทำให้เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่เป็นที่นิยมของคนไทยเดินทางเข้ามาทำการรักษา ศัลยกรรมความงาม ทันตกรรมกับโรงพยาบาลหรือคลีนิคต่าง ๆที่นี่
สถานที่ยอดนิยมในจังหวัดขอนแก่น
พระธาตุขามแก่น ตั้งอยู่ที่วัดเจติยภูมิ บ้านขาม หนึ่งในปูชนียสถานคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดขอนแก่น และที่สำคัญ พระธาตุขามแก่นยังอยู่ในตราสัญลักษณ์ประจำจังหวัดและคำขวัญประจำจังหวัด เป็นที่เคารพทั้งชาวจังหวัดขอนแก่นเองรวมไปถึงประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย
เขื่อนอุบลรัตน์ แหล่งท่องเที่ยวอีกจุดหนึ่งที่มีชื่อเสียงของขอนแก่น เป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งที่สองของประเทศไทยเป็นเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังงานน้ำแห่งแรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณเขื่อนนั้นถือว่ามีทัศนียภาพที่งดงามและมีเส้นทางเดินชมวิวทิวทัศน์รอบเขื่อน
บึงแก่นนคร เป็นบึงธรรมชาติขนาดใหญ่อยู่คู่เมืองขอนแก่นมาอย่างยาวนาน เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่สวยงาม มีเนื้อที่กว้างขวาง บรรยากาศดี มีถนนรอบบึงไว้สำหรับวิ่งออกกำลังกาย หรือปั่นจักรยาน และยังเป็นที่ประดิษฐานอนุสาวรีย์ เจ้าเพียเมืองแพน ผู้ก่อตั้งเมืองขอนแก่น ซึ่งถือได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในเมืองอีกแห่งหนึ่งก็ว่าได้
การเดินทางในจังหวัดขอนแก่น
เราสามารถเดินทางจากกรุงเทพฯ มายังจังหวัดขอนแก่นได้โดย รถยนต์เพราะขอนแก่นอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 449 กิโลเมตร แต่ก็ยังสามารถเดินทางมาได้โดยนั่งรถโดยสารประจำทาง รถไฟ หรือเครื่องบิน ซึ่งมีหลายสายการบินคอยให้บริการ ส่วนการเดินทางคมนาคมในเมือง ก็มีรถตุ๊กตุ๊ก รถสามล้อ รถสองแถว รถบัส รถประจำทาง และมีรถเมล์เล็กสู่อำเภอ ตำบล หมู่บ้านต่าง ๆ ตลอดวัน
ประชากรหรือผู้คนในจังหวัดขอนแก่น
เป็นที่ทราบกันดีว่าขอนแก่นเป็นจังหวัดขนาดใหญ่ศูนย์กลางของภาคอีสาน ทำให้มีจำนวนประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นเป็นอันดับที่ 3 ของภาค อำเภอที่มีประชากรมากที่สุด คือ อำเภอเมืองขอนแก่น ส่วนอำเภอที่มีประชากรน้อยที่สุดคือ อำเภอเวียงเก่า
สภาพภูมิอากาศในจังหวัดขอนแก่น
โดยทั่วไปมีสภาพภูมิอากาศเป็นแบบทุ่งหญ้าในเขตร้อน คือ มีฝนตกสลับกับแห้งแล้งได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีอุณหภูมิสูงสุดโดยเฉลี่ย 36.35 องศาเซลเซียส และมี 3 ฤดู คือ ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนพฤษภาคม ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ถึงเดือนตุลาคม และฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม ถึงเดือนกุมภาพันธ์ โดยทั่วไปจะหนาวจัดในช่วงเดือนธันวาคมจนถึงเดือนมกราคมของทุกปี อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย 15.4 องศาเซลเซียส
อื่น ๆ
การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในจังหวัดขอนแก่น เนื่องจากขอนแก่นมีระบบสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆภายในอำเภอเมืองครบครัน มีที่พักหลายระดับและบริการต่าง ๆ และที่สำคัญคือเป็นที่ตั้งของสนามบินทั้งหมดนั้นล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมศักยภาพทางการท่องเที่ยวของจังหวัดได้เป็นอย่างดีรวมไปถึงการมีโรงพยาบาล คลินิก ชั้นนำที่หลากหลายทำให้ขอนแก่นเป็นเมืองที่มีความสำคัญในฐานะเมืองท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย