สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ ศัลยกรรมจมูก ใน แม่แฝก, สันทราย
ปัจจุบันการทำศัลยกรรมเป็นเรื่องใกล้ตัวมาก เพราะใครๆก็อยากหน้าตาดูดีกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเพศหญิงหรือเพศชายก็ตาม ถ้าพูดถึงเรื่องศัลยกรรมของประเทศไทยที่คนส่วนใหญ่ให้ความนิยมที่สุด ก็จะนึกถึงการทำศัลยกรรมจมูก การเสริมจมูกเป็นการปรับเปลี่ยนรูปทรงของจมูกให้ดูโด่งและมีรูปทรงที่เราต้องการ ดังนั้นก่อนอื่นเลยเรามาทำความรู้จักเกี่ยวกับ การเสริมจมูกกันก่อน
การศัลยกรรมจมูกหรือการเสริมจมูก คือ การศัลยกรรมตกแต่งเพื่อปรับเปลี่ยนขนาดหรือรูปทรงของจมูก ทำโดยแพทย์ผู้ชำนาญการด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การเสริมจมูก การตัดปีกจมูก การตกแต่งฐานกระดูกจมูก หรือการลดฮัมพ์ เป็นต้น การศัลยกรรมจมูกสามารถทำเพียงวิธีเดียว หรือทำหลายวิธีพร้อมกันก็ได้ ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ และความต้องการของผู้เข้ารับการศัลยกรรมจมูก อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ต้องการเข้ารับการทำศัลยกรรมจมูกควรศึกษาข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการเสริม แพทย์ที่จะทำ สถานที่ที่เข้ารับบริการ หรือการเตรียมตัวก่อน-หลังการผ่าตัด เพื่อความปลอดภัยในการทำศัลยกรรม
Key point
-การเสริมจมูกช่วยปรับเปลี่ยนรูปทรงจมูก
-การเสริมจมูกแบบปิดจะพักฟื้นได้เร็วกว่าการเสริมจมูกแบบเปิด
-การเสริมจมูกเป็นวิธีที่ปลอดภัย
โดยทั่วไปการผ่าตัดมี3 ประเภท คือ ศัลยกรรมแบบเปิด(Open Rhinoplasty) ศัลยกรรมแบบปิด(Close Rhinoplasty) และศัลยกรรมปลายจมูก
ศัลยกรรมจมูกแบบเปิดแพทย์จะใช้ยาสลบและจะไม่ทิ้งแผลเป็นใดๆบนจมูก
การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?
ก่อนศัลยกรรมคุณต้องคุยกับแพทย์เพื่อตัดสินใจว่าการทำศัลยกรรมนี้เหมาะกับคุณหรือไม่ แพทย์จะดูประวัติการรักษาตัวของคุณ รวมถึงการผ่าตัดก่อนหน้า โรคประจำตัว ยาที่กำลังทานอยู่ คุณต้องตรวจร่างกาย เช่นตรวจเลือด แพทย์จะเช็คสภาพผิวบนจมูกและประเมินว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นยังไงหลังจากนั้นแพทย์จะทำแผนการรักษาให้กับคุณ ก่อนและหลังการผ่าตัด2อาทิตย์หลีกเลี่ยงการทานยาที่มีแอสไพริน(Aspirin)หรือ ไอบูโพรเฟน(Ibuprofen) เพราะยานี้จะให้เลือดไหลมากขึ้น หยุดทานสมุนไพร หรือ อาหารเสริม หยุดสูบบุหรี่เพราะการสูบบุหรี่จะทำให้แผลหายช้าและเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อได้
ระหว่างการผ่าตัดแพทย์จะใช้ยาชาเฉพาะที่หรือยาสลบซึ่งขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของการผ่าตัด หลังจากนั้นแพทย์จะเริ่มผ่าตัดภายในจมูก หรือ บนฐานระหว่างรูจมูก แพทย์จะปรับเปลี่ยนรูปร่างของกระดูกภายในและกระดูกอ่อนภายใต้ผิวเพื่อให้คุณดูดีขึ้น
เทคนิคในการเสริมจมูก
1.การเสริมจมูกแบบปิดเป็นการผ่าตัดโดยลงมีดแค่ 1ฝั่ง จะซ้ายหรือขวาก็ได้ แล้วแต่คนไข้สะดวก แต่จะไม่มีการเปิดบริเวณแนวกลางจมูก โดยจะลงมีดแค่ความยาว 1-2เซ็นติเมตร ตามแนวโครงสร้างของจมูก จะมีลักษณะเป็นครึ่งวงกลม จากนั้นก็จะมีการเลาะเปิดเข้าไปเพื่อเคลียร์ช่องจมูก เพื่อให้สามารถวางซิลิโคนได้ ซึ่งวิธีการนี้จะไม่สามารถเห็นโครงสร้างทั้งหมดของจมูก แต่จะเป็นการใช้อุปกรณ์เข้าไป บริเวณใต้เยื่อหุ้มกระดูกเพื่อเลาะเปิดแล้วเคลียร์ช่องว่างเพื่อวางแนวซิลิโคน
2.การเสริมจมูกแบบเปิด เป็นการผ่าตัดที่สามารถเห็นโครงสร้างได้มากกว่าแบบปิด คือจะมีการลงมีดเปิด ทั้งสองฝั่งของรูจมูก และแนวกลางจมูก เหมือนเราเปิดฝากระโปรงหน้ารถยนต์ เราก็จะเห็นโครงสร้างทั้งหมด และเห็นภายในเกือบหมด ถ้าเราเลาะเปิดโครงสร้างได้ดี เราก็จะแก้ปัญหาได้ครอบคลุมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการเลาะขูดสารเหลวออก การเคลียร์เยื่อพังผืดในกรณีที่เป็นเคสแก้ การตกแต่งเนื้อปลาย รวมถึงการยืดผนังกั้นจมูก ก็จะใช้เทคนิคการเสริมจมูกด้วยวิธีแบบเปิดทั้งสิ้น
3. การเสริมจมูกแบบกึ่งเปิด (Semi-open Rhinoplasty) จะเป็นการเปิดแผลคล้ายวิธีแบบปิด แต่ว่าจะเป็นการเปิดแผลทั้ง 2ฝั่ง วิธีนี้จะเป็นวิธีที่ ช่วยในการจัดการโครงสร้าง รวมถึงแก้ปัญหาได้มากขึ้นจากวิธีการผ่าตัดแบบปิด และยังสามารถทำเทคนิคเย็บอินเตอร์โดมได้ด้วย เนื่องจากพอจะเห็นโครงสร้างของกระดูกอ่อนมากขึ้น แต่วิธีการนี้ก็สู้วิธีการแบบเปิดไม่ได้ ถ้าในกรณีที่ต้องยืดผนังกั้นจมูกเลาะขูดสารเหลวออก และกรณีที่ต้องการปรับโครงสร้างของจมูก ก็จะสู้วิธีแบบเปิดไม่ได้
ทรงจมูกยอดนิยมในนประเทศไทย
ทรงจมูกสโลปปลายพุ่ง
ทรงจมูกที่ตอนนี้นิยมกันมากในหมู่ดาราไทย ยันไอดอลเกาหลี เป็นทรงที่ใกล้เคียงกับรูปจมูกเดิมของคนเอเชีย ลักษณะคือโค้งสโลปตรงหัวตา แล้วไล่ไปเรื่อย ๆ ไม่เน้นเห็นเป็นแท่ง ปลายจมูกยกสูง ถ้าถ่ายรูปออกมาแล้วก็มีความเป็นหยดน้ำเบา ๆ แต่ตัวจริงก็เหมือนคนจมูกโด่งทั่วไป ดูแล้วไม่รู้ว่าศัลยกรรมมา
ทรงจมูกปลายเชิด
เป็นทรงจมูกที่ต้องใช้การเสริมจมูกแบบตกแต่งปลาย ทรงนี้จะยอดฮิตมากๆในหมู่ต่างชาติ เพราะทำให้หน้าดูคม โฉบเฉี่ยว ดูเปรี้ยวสไตล์สายฝอ ลักษณะก็คือปลายจมูกเชิดขึ้นเล็กน้อย พอยิ้มจมูกก็จะไม่งุ้มลงมา ดูเป็นทรงตลอดเวลา แต่บางคนก็อาจจะไม่ชอบเพราะดูแปลก ๆ ไม่เข้ากับหน้า แนะนำว่าถ้าอยากทำ ลองปรึกษาคุณหมอเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจก่อน
ทรงจมูกบาร์บี้ไลน์
ทรงนี้คนไทยทำน้อย แต่ที่เกาหลีฮิตมาก เป็นทรงจมูกที่นอกจากจะเสริมความโด่งแล้ว ยังช่วยเสริมลุคคุณหนูแสนซนไปด้วย ลักษณะคือสันจมูกยกสูงเบา ๆ ปลายบีบเป็นสันเล็ก ๆ ดูจิ้มลิ้ม และละมุนมากก แต่เตือนก่อนว่าคนหน้ากลม หรือแก้มเยอะอาจจะไม่เหมาะ เพราะทรงนี้จมูกจะดูเล็กและแคบลง ทำให้แก้มดูเด่นขึ้น แต่ถ้าใครหน้าเล็ก ๆ รูปไข่ แนะนำว่าทรงนี้คือดี
ทรงจมูกตั๊กแตน
เป็นทรงจมูกที่ออกแบบซิลิโคนมาเพื่อคนเอเชีย ซึ่งเหมาะกับคนไทยมากก เพราะเป็นทรงที่พอดีกับโครงสร้างของจมูกสุด ๆ ข้อดีคือเป็นทรงจมูกที่ไม่ต้องใช้กระดูกอ่อนหลังหูมาช่วยเสริม แถมเนียนและกลืนไปกับจมูกเดิมของตัวเอง เพิ่มเติมคือโด่งขึ้น เน้นเสริมให้เข้ากับใบหน้า
ทรงจมูกเกาหลี
ถ้าใครเสริมหน้าผากมา ดูไม่สมดุลกับจมูก ทรงจมูกแบบเกาหลี ทรงนี้คล้ายกับบาร์บี้เลย โด่งเป็นสันแบบเล็ก ๆ แต่ไม่โด่งมาก เน้นเสริมให้รับกับหน้าผาก ทรงนี้เสริมแล้วทำให้หน้าดูเด็กลง หวานละมุน เป็นอีกทรงที่เหมาะกับคนเอเชียมาก ๆ แต่อาจไม่เหมาะกับคนที่มีหน้าผากแบน หรือหน้าผากกว้าง เพราะอาจจะทำให้หน้าโดยรวมดูแบนขาดมิติ
ทรงจมูกสโลปปลายหยดน้ำ
ทางออกของคนไม่มีปลายจมูก ก่อนทำสั้นแต่พอมีสันอยู่บ้างแล้วอยากเสริมนิดหน่อย ทรงนี้จะช่วยให้ปลายจมูกดูยาวขึ้น ใบหน้าโดยรวมก็ดูเรียวยาวขึ้นด้วย แต่เป็นทรงที่ต้องใช้กระดูกอ่อนหลังหูเข้ามาช่วยเสริม เพราะเสี่ยงปลายทะลุในอนาคต และถ้าใครมีปัญหาเรื่องปีกจมูกกว้าง ทรงนี้ก็จะช่วยทำให้ทรงจมูกดูสมดุลขึ้น
ทรงจมูกเน้นสันปลายเชิดเล็กน้อย
ใครชอบสันจมูกแบบเด่น ๆ จบปัญหา คนไม่มีดั้ง หรือจมูกแบนมาก ๆ ต้องมาทำทรงนี้เลย ลักษณะซิลิโคนคือเน้นตรงสันให้ดูโด่งขึ้น ซึ่งใครที่มีเนื้อจมูกน้อย อาจต้องใช้วิธีผ่าตัดแบบ Open เพื่อปรับโครงสร้างจมูกให้รองรับกับซิลิโคน อาจต้องหาหมอที่เก่ง ๆ หน่อย เป็นทรงจมูกที่ถูกหลักตามโหงวเฮ้งที่ดี ทรงนี้ส่วนใหญ่ใครทำหน้าจะเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย
ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?
ขั้นตอนของการผ่าตัดใช้ระยะเวลาทั้งหมดประมาณ 30 นาทีจนถึง 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นแพทย์จะให้ผู้ป่วยนอนพักเพื่อดูอาการประมาณ 1-2 ชั่วโมง จึงอนุญาตให้กลับไปพักฟื้นต่อที่บ้าน (การผ่าตัดปีกจมูกเป็นเพียงการทำศัลยกรรมเล็กไม่จำเป็นต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล) สำหรับอาการบวมหลังผ่าตัดถือเป็นเรื่องปกติ แต่โดยทั่วไป การผ่าตัดปีกจมูก จะบวมไม่มาก ระยะเวลาการบวมประมาณ 3 – 5 วัน แต่อาจยุบบวมเร็วหรือช้ากว่านี้ได้ขึ้นกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล และรอยฟกช้ำอาจจะมีบ้างซึ่งจะค่อยๆ หายไปภายใน 1 – 2 สัปดาห์
จมูกบวมช้ำ 2 – 3 วัน หลังทำจมูก เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับทุกการผ่าตัดเสริมจมูก แต่จะบวมช้ำมากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับเทคนิค ฝีมือของแพทย์ผู้ผ่าตัดและแต่ละบุคคล
อาการตึงที่จมูก หลังทำจมูก จะรู้สึกตึงบริเวณจมูก โดยเฉพาะตรงปลาย แต่หากตึงเกินไปอาจเป็นสาเหตุของจมูกจะทะลุ
เจ็บแผลที่จมูกระหว่าง 2 – 3 วันแรก หลังทำจมูก อาจมีอาการเจ็บบ้างเล็กน้อย แต่เมื่อจมูกของเราปรับตัวได้ และบาดแผลได้รับการฟื้นฟูตัวเอง อาการเจ็บเหล่านี้จะหายไปเอง
มีกลิ่นแปลกๆ ในจมูก เช่น กลิ่นเลือด กลิ่นน้ำเหลือง หรือกลิ่นยา เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ หลังทำจมูก เมื่อแผลเริ่มหายแล้วกลิ่นเหล่านี้ที่จะหายไปเอง
ระยะเวลาพักฟื้นแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลโดยทั่วไปแล้วจะใช้เวลา 2-3สัปดาห์จึงจะกลับไปทำกิจกรรมได้ตามปกติ และ 3-6อาทิตย์ สามารถกลับไปทำกิจกรรมๆหนักได้ อย่างไรก็ตามคุณควรที่จะกลับไปทำงานได้ตามปกติภายใน1อาทิตย์ ยกเว้นแต่ว่างานของคุณเป็นงานที่ต้องทำกิจกรรมหนักๆ คุณจะมีอาการบวมที่จมูกซึ่งอาจจะใช้เวลานานถึง6เดือนจึงจะหาย แต่จะมีแค่คุณและแพทย์ผู้ผ่าตัดที่จะสังเกตเห็น ผลลัพธ์จะเห็นได้อย่างชัดเจนหลังจากแผลหายดีแล้ว
การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?
-
ประคบเย็นทันทีหลังการผ่าตัด และประคบติดต่อกันเป็นเวลาระยะเวลา 48 ชั่วโมง
-
ห้ามไม่ให้แผลโดนน้ำ ในช่วง 3 วันแรก เพราะน้ำจะทำให้แผลอับชื้น จนเกิดการอักเสบและติดเชื้อตามมา
-
นอนให้ศีรษะอยู่สูงเข้าไว้วิธีนี้ก็จะช่วยลดอาการบวมลงได้
-
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารหมักดองและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
-
ทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
สับดาห์แรกคุณต้องใส่เฝือกจมูก คุณอาจจะรู้สึกแน่นจมูกเนื่องจากอาการบวมหรือจากเฝือกที่ใส่ คุณต้องนอนให้ศรีษะอยู่สูงกว่าหน้าอกเพื่อลดอาการบวมและไม่ให้เลือดไหลเยอะ หลังการผ่าตัด2-3วันคุณอาจจะมีเลือดไหลเล็กน้อยและน้ำมูกไหลแพทย์อาจจะใส่แผ่นรองไว้ใต้จมูกเพื่อซับเลือดและน้ำมูกที่ไหลออกมา
แพทย์อาจจะให้คุณหลีกเลี่ยงกิจกรรมหนักๆ อาบน้ำในอ่างแทนการอาบด้วยฝักบัว หลีกเลี่ยงการสั่งน้ำมูก ทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูงเพื่อหลีกเลี่ยงอาการท้องผูก ไม่ยิ้มหรือหัวเราะ ไม่สวมเสื้อที่ต้องสวม-ถอดออกทางศรีษะ ให้สวมเสื้อที่ติดกระดุมแทน
ไม่ใส่แว่นสายตาหรือแว่นกันแดดเพื่อป้องกันการกดทับบนจมูก ควรทาครีมกันแดดSPF30เมื่ออกไปข้างนอก
ไม่ประคบเย็นบนจมูกแม้ว่าจะมีอาการบวม อาการบวมจะหายเร็วขึ้นด้วยการจำกัดการทานโซเดียม
มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?
อัตราความสำเร็จมีประมาณ 80-90% อย่างไรก็ตามการศัลยกรรมจมูกก็เหมือนกับการศัลยกรรมอื่นๆที่มีผลข้างเคียง ซึ่งอาจจะมีเลือดไหล ติดเชื้อ ชา เส้นประสาทเสียหายอย่างถาวร ผลข้างเคียงจากการใช้ยาสลบ ความเสี่ยงอื่นๆที่เป็นไปได้คือหายใจทางจมูกลำบาก จมูกไม่เท่ากัน บวม เปลี่ยนสี ผนังกั้นช่องจมูกทะลุ และต้องผ่าตัดอีกเป็นครั้งที่ 2 หรือ 3