Mordee

ส่วนลด โปรโมชัน และ ดีลพิเศษ ด้านทันตกรรมและความงาม

ซื้อคูปองส่วนลดเพื่อจองใช้บริการ จัดฟันสวย ฉีดโบท็อกซ์ เสริมความงาม และศัลยกรรมอื่น ๆ มากมายใกล้คุณ

ค้นหาจากแผนที่

คลินิก / ร้าน อื่นๆ ที่มี ศัลยกรรมจมูก

ลอร่า คลินิก
ลอร่า คลินิก
ลอร่า คลินิก
ลอร่า คลินิก
ลอร่า คลินิก
Mordee ปากเกร็ด, นนทบุรี
4.5 จาก 5
1 รีวิว
2024 ภาษาไทย ศัลยกรรมตกแต่งความงาม จักษุวิทยา เวชศาสตร์ฟื้นฟู และ กายภาพบำบัด ฟรี Wi-fi ห้องพักสำหรับผู้ใช้วีลแชร์ ที่จอดรถ
ลอร่าคลินิก เป็นคลินิกที่เน้นรักษา และดูแล ผิวหน้า ปรับรูปหน้า และ รูปร่าง เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดี และสร้างความมั่นใจให้กับผู้มารับบริการ ซึ่งเปิดให้บริการมาแล้วตั้งแต่ปี 2554-ปัจจุบัน ซึ่งกำลังจะเข้าปีที่ 9 แล้ว ริเริ่มการก่อตั้งคลินิก ทีมแพทย์และคณะผู้บริการเล็งเห็นถึงความสำคัญของ อุปกรณ์การแพทย์ และ... อ่านต่อ
ดูทั้งหมด
ศัลยกรรมจมูก
สอบถามกับทางคลินิก
เอลิแกนซ์ คลินิก By หมอภูเบศ จันทร์ดี
เอลิแกนซ์ คลินิก By หมอภูเบศ จันทร์ดี
เอลิแกนซ์ คลินิก By หมอภูเบศ จันทร์ดี
เอลิแกนซ์ คลินิก By หมอภูเบศ จันทร์ดี
เอลิแกนซ์ คลินิก By หมอภูเบศ จันทร์ดี
Mordee ปากเกร็ด, นนทบุรี
4.5 จาก 5
1 รีวิว
2024 ภาษาไทย ศัลยกรรมตกแต่งความงาม ฟรี Wi-fi ที่จอดรถ
ดูทั้งหมด
ศัลยกรรมจมูก
สอบถามกับทางคลินิก
ทวีชัยคลินิกเวชกรรม งามวงศ์วาน
ทวีชัยคลินิกเวชกรรม งามวงศ์วาน
ทวีชัยคลินิกเวชกรรม งามวงศ์วาน
ทวีชัยคลินิกเวชกรรม งามวงศ์วาน
ทวีชัยคลินิกเวชกรรม งามวงศ์วาน
Mordee เมืองนนทบุรี, นนทบุรี
4.5 จาก 5
1 รีวิว
2024 ภาษาไทย ศัลยกรรมตกแต่งความงาม มะเร็งวิทยา โรคผิวหนัง ฟรี Wi-fi ห้องพักสำหรับผู้ใช้วีลแชร์ ที่จอดรถ
ดูทั้งหมด
ศัลยกรรมจมูก
สอบถามกับทางคลินิก
สุรพลคลีนิคศัลยกรรม ถ.พัทยาใต้ พัทยา
สุรพลคลีนิคศัลยกรรม ถ.พัทยาใต้ พัทยา
สุรพลคลีนิคศัลยกรรม ถ.พัทยาใต้ พัทยา
สุรพลคลีนิคศัลยกรรม ถ.พัทยาใต้ พัทยา
สุรพลคลีนิคศัลยกรรม ถ.พัทยาใต้ พัทยา
Mordee พัทยา, ชลบุรี
5 จาก 5
8 รีวิว
2024 ภาษาไทย ศัลยกรรมตกแต่งความงาม ฟรี Wi-fi ที่จอดรถ โทรศัพท์
ดูทั้งหมด
ศัลยกรรมจมูก
สอบถามกับทางคลินิก

สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ ศัลยกรรมจมูก ใน ไทย

ปัจจุบันการทำศัลยกรรมเป็นเรื่องใกล้ตัวมาก เพราะใครๆก็อยากหน้าตาดูดีกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเพศหญิงหรือเพศชายก็ตาม ถ้าพูดถึงเรื่องศัลยกรรมของประเทศไทยที่คนส่วนใหญ่ให้ความนิยมที่สุด ก็จะนึกถึงการทำศัลยกรรมจมูก การเสริมจมูกเป็นการปรับเปลี่ยนรูปทรงของจมูกให้ดูโด่งและมีรูปทรงที่เราต้องการ ดังนั้นก่อนอื่นเลยเรามาทำความรู้จักเกี่ยวกับ การเสริมจมูกกันก่อน

การศัลยกรรมจมูกหรือการเสริมจมูก คือ การศัลยกรรมตกแต่งเพื่อปรับเปลี่ยนขนาดหรือรูปทรงของจมูก ทำโดยแพทย์ผู้ชำนาญการด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การเสริมจมูก การตัดปีกจมูก การตกแต่งฐานกระดูกจมูก หรือการลดฮัมพ์ เป็นต้น การศัลยกรรมจมูกสามารถทำเพียงวิธีเดียว หรือทำหลายวิธีพร้อมกันก็ได้ ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ และความต้องการของผู้เข้ารับการศัลยกรรมจมูก อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ต้องการเข้ารับการทำศัลยกรรมจมูกควรศึกษาข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการเสริม แพทย์ที่จะทำ สถานที่ที่เข้ารับบริการ หรือการเตรียมตัวก่อน-หลังการผ่าตัด เพื่อความปลอดภัยในการทำศัลยกรรม

Key point 

-การเสริมจมูกช่วยปรับเปลี่ยนรูปทรงจมูก

-การเสริมจมูกแบบปิดจะพักฟื้นได้เร็วกว่าการเสริมจมูกแบบเปิด

-การเสริมจมูกเป็นวิธีที่ปลอดภัย

โดยทั่วไปการผ่าตัดมี3 ประเภท คือ ศัลยกรรมแบบเปิด(Open Rhinoplasty) ศัลยกรรมแบบปิด(Close Rhinoplasty) และศัลยกรรมปลายจมูก

ศัลยกรรมจมูกแบบเปิดแพทย์จะใช้ยาสลบและจะไม่ทิ้งแผลเป็นใดๆบนจมูก

การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?

ก่อนศัลยกรรมคุณต้องคุยกับแพทย์เพื่อตัดสินใจว่าการทำศัลยกรรมนี้เหมาะกับคุณหรือไม่ แพทย์จะดูประวัติการรักษาตัวของคุณ รวมถึงการผ่าตัดก่อนหน้า โรคประจำตัว ยาที่กำลังทานอยู่ คุณต้องตรวจร่างกาย เช่นตรวจเลือด แพทย์จะเช็คสภาพผิวบนจมูกและประเมินว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นยังไงหลังจากนั้นแพทย์จะทำแผนการรักษาให้กับคุณ ก่อนและหลังการผ่าตัด2อาทิตย์หลีกเลี่ยงการทานยาที่มีแอสไพริน(Aspirin)หรือ ไอบูโพรเฟน(Ibuprofen) เพราะยานี้จะให้เลือดไหลมากขึ้น หยุดทานสมุนไพร หรือ อาหารเสริม หยุดสูบบุหรี่เพราะการสูบบุหรี่จะทำให้แผลหายช้าและเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อได้

ระหว่างการผ่าตัดแพทย์จะใช้ยาชาเฉพาะที่หรือยาสลบซึ่งขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของการผ่าตัด หลังจากนั้นแพทย์จะเริ่มผ่าตัดภายในจมูก หรือ บนฐานระหว่างรูจมูก แพทย์จะปรับเปลี่ยนรูปร่างของกระดูกภายในและกระดูกอ่อนภายใต้ผิวเพื่อให้คุณดูดีขึ้น

เทคนิคในการเสริมจมูก

1.การเสริมจมูกแบบปิดเป็นการผ่าตัดโดยลงมีดแค่ 1ฝั่ง จะซ้ายหรือขวาก็ได้ แล้วแต่คนไข้สะดวก แต่จะไม่มีการเปิดบริเวณแนวกลางจมูก โดยจะลงมีดแค่ความยาว 1-2เซ็นติเมตร ตามแนวโครงสร้างของจมูก จะมีลักษณะเป็นครึ่งวงกลม จากนั้นก็จะมีการเลาะเปิดเข้าไปเพื่อเคลียร์ช่องจมูก เพื่อให้สามารถวางซิลิโคนได้ ซึ่งวิธีการนี้จะไม่สามารถเห็นโครงสร้างทั้งหมดของจมูก แต่จะเป็นการใช้อุปกรณ์เข้าไป บริเวณใต้เยื่อหุ้มกระดูกเพื่อเลาะเปิดแล้วเคลียร์ช่องว่างเพื่อวางแนวซิลิโคน

2.การเสริมจมูกแบบเปิด เป็นการผ่าตัดที่สามารถเห็นโครงสร้างได้มากกว่าแบบปิด คือจะมีการลงมีดเปิด ทั้งสองฝั่งของรูจมูก และแนวกลางจมูก เหมือนเราเปิดฝากระโปรงหน้ารถยนต์ เราก็จะเห็นโครงสร้างทั้งหมด และเห็นภายในเกือบหมด ถ้าเราเลาะเปิดโครงสร้างได้ดี เราก็จะแก้ปัญหาได้ครอบคลุมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการเลาะขูดสารเหลวออก การเคลียร์เยื่อพังผืดในกรณีที่เป็นเคสแก้ การตกแต่งเนื้อปลาย รวมถึงการยืดผนังกั้นจมูก ก็จะใช้เทคนิคการเสริมจมูกด้วยวิธีแบบเปิดทั้งสิ้น

3. การเสริมจมูกแบบกึ่งเปิด (Semi-open Rhinoplasty) จะเป็นการเปิดแผลคล้ายวิธีแบบปิด แต่ว่าจะเป็นการเปิดแผลทั้ง 2ฝั่ง วิธีนี้จะเป็นวิธีที่ ช่วยในการจัดการโครงสร้าง รวมถึงแก้ปัญหาได้มากขึ้นจากวิธีการผ่าตัดแบบปิด และยังสามารถทำเทคนิคเย็บอินเตอร์โดมได้ด้วย เนื่องจากพอจะเห็นโครงสร้างของกระดูกอ่อนมากขึ้น แต่วิธีการนี้ก็สู้วิธีการแบบเปิดไม่ได้ ถ้าในกรณีที่ต้องยืดผนังกั้นจมูกเลาะขูดสารเหลวออก และกรณีที่ต้องการปรับโครงสร้างของจมูก ก็จะสู้วิธีแบบเปิดไม่ได้ 

ทรงจมูกยอดนิยมในนประเทศไทย

ทรงจมูกสโลปปลายพุ่ง  

ทรงจมูกที่ตอนนี้นิยมกันมากในหมู่ดาราไทย ยันไอดอลเกาหลี เป็นทรงที่ใกล้เคียงกับรูปจมูกเดิมของคนเอเชีย ลักษณะคือโค้งสโลปตรงหัวตา แล้วไล่ไปเรื่อย ๆ ไม่เน้นเห็นเป็นแท่ง ปลายจมูกยกสูง ถ้าถ่ายรูปออกมาแล้วก็มีความเป็นหยดน้ำเบา ๆ แต่ตัวจริงก็เหมือนคนจมูกโด่งทั่วไป ดูแล้วไม่รู้ว่าศัลยกรรมมา 

ทรงจมูกปลายเชิด 

เป็นทรงจมูกที่ต้องใช้การเสริมจมูกแบบตกแต่งปลาย ทรงนี้จะยอดฮิตมากๆในหมู่ต่างชาติ เพราะทำให้หน้าดูคม โฉบเฉี่ยว ดูเปรี้ยวสไตล์สายฝอ ลักษณะก็คือปลายจมูกเชิดขึ้นเล็กน้อย พอยิ้มจมูกก็จะไม่งุ้มลงมา ดูเป็นทรงตลอดเวลา แต่บางคนก็อาจจะไม่ชอบเพราะดูแปลก ๆ ไม่เข้ากับหน้า แนะนำว่าถ้าอยากทำ ลองปรึกษาคุณหมอเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจก่อน

ทรงจมูกบาร์บี้ไลน์

ทรงนี้คนไทยทำน้อย แต่ที่เกาหลีฮิตมาก เป็นทรงจมูกที่นอกจากจะเสริมความโด่งแล้ว ยังช่วยเสริมลุคคุณหนูแสนซนไปด้วย ลักษณะคือสันจมูกยกสูงเบา ๆ ปลายบีบเป็นสันเล็ก ๆ ดูจิ้มลิ้ม และละมุนมากก แต่เตือนก่อนว่าคนหน้ากลม หรือแก้มเยอะอาจจะไม่เหมาะ เพราะทรงนี้จมูกจะดูเล็กและแคบลง ทำให้แก้มดูเด่นขึ้น แต่ถ้าใครหน้าเล็ก ๆ รูปไข่ แนะนำว่าทรงนี้คือดี

ทรงจมูกตั๊กแตน 

เป็นทรงจมูกที่ออกแบบซิลิโคนมาเพื่อคนเอเชีย ซึ่งเหมาะกับคนไทยมากก เพราะเป็นทรงที่พอดีกับโครงสร้างของจมูกสุด ๆ ข้อดีคือเป็นทรงจมูกที่ไม่ต้องใช้กระดูกอ่อนหลังหูมาช่วยเสริม แถมเนียนและกลืนไปกับจมูกเดิมของตัวเอง เพิ่มเติมคือโด่งขึ้น เน้นเสริมให้เข้ากับใบหน้า 

ทรงจมูกเกาหลี  

ถ้าใครเสริมหน้าผากมา ดูไม่สมดุลกับจมูก ทรงจมูกแบบเกาหลี ทรงนี้คล้ายกับบาร์บี้เลย โด่งเป็นสันแบบเล็ก ๆ แต่ไม่โด่งมาก เน้นเสริมให้รับกับหน้าผาก ทรงนี้เสริมแล้วทำให้หน้าดูเด็กลง หวานละมุน เป็นอีกทรงที่เหมาะกับคนเอเชียมาก ๆ แต่อาจไม่เหมาะกับคนที่มีหน้าผากแบน หรือหน้าผากกว้าง เพราะอาจจะทำให้หน้าโดยรวมดูแบนขาดมิติ

ทรงจมูกสโลปปลายหยดน้ำ 

ทางออกของคนไม่มีปลายจมูก ก่อนทำสั้นแต่พอมีสันอยู่บ้างแล้วอยากเสริมนิดหน่อย ทรงนี้จะช่วยให้ปลายจมูกดูยาวขึ้น ใบหน้าโดยรวมก็ดูเรียวยาวขึ้นด้วย แต่เป็นทรงที่ต้องใช้กระดูกอ่อนหลังหูเข้ามาช่วยเสริม เพราะเสี่ยงปลายทะลุในอนาคต และถ้าใครมีปัญหาเรื่องปีกจมูกกว้าง ทรงนี้ก็จะช่วยทำให้ทรงจมูกดูสมดุลขึ้น 

ทรงจมูกเน้นสันปลายเชิดเล็กน้อย 

ใครชอบสันจมูกแบบเด่น ๆ จบปัญหา คนไม่มีดั้ง หรือจมูกแบนมาก ๆ ต้องมาทำทรงนี้เลย ลักษณะซิลิโคนคือเน้นตรงสันให้ดูโด่งขึ้น ซึ่งใครที่มีเนื้อจมูกน้อย อาจต้องใช้วิธีผ่าตัดแบบ Open เพื่อปรับโครงสร้างจมูกให้รองรับกับซิลิโคน อาจต้องหาหมอที่เก่ง ๆ หน่อย เป็นทรงจมูกที่ถูกหลักตามโหงวเฮ้งที่ดี ทรงนี้ส่วนใหญ่ใครทำหน้าจะเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย 

ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?

ขั้นตอนของการผ่าตัดใช้ระยะเวลาทั้งหมดประมาณ 30 นาทีจนถึง 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นแพทย์จะให้ผู้ป่วยนอนพักเพื่อดูอาการประมาณ 1-2 ชั่วโมง จึงอนุญาตให้กลับไปพักฟื้นต่อที่บ้าน (การผ่าตัดปีกจมูกเป็นเพียงการทำศัลยกรรมเล็กไม่จำเป็นต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล) สำหรับอาการบวมหลังผ่าตัดถือเป็นเรื่องปกติ แต่โดยทั่วไป การผ่าตัดปีกจมูก จะบวมไม่มาก ระยะเวลาการบวมประมาณ 3 – 5 วัน แต่อาจยุบบวมเร็วหรือช้ากว่านี้ได้ขึ้นกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล และรอยฟกช้ำอาจจะมีบ้างซึ่งจะค่อยๆ หายไปภายใน 1 – 2 สัปดาห์

จมูกบวมช้ำ 2 – 3 วัน หลังทำจมูก เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับทุกการผ่าตัดเสริมจมูก แต่จะบวมช้ำมากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับเทคนิค ฝีมือของแพทย์ผู้ผ่าตัดและแต่ละบุคคล

อาการตึงที่จมูก หลังทำจมูก จะรู้สึกตึงบริเวณจมูก โดยเฉพาะตรงปลาย แต่หากตึงเกินไปอาจเป็นสาเหตุของจมูกจะทะลุ

เจ็บแผลที่จมูกระหว่าง 2 – 3 วันแรก หลังทำจมูก อาจมีอาการเจ็บบ้างเล็กน้อย แต่เมื่อจมูกของเราปรับตัวได้ และบาดแผลได้รับการฟื้นฟูตัวเอง อาการเจ็บเหล่านี้จะหายไปเอง

มีกลิ่นแปลกๆ ในจมูก เช่น กลิ่นเลือด กลิ่นน้ำเหลือง หรือกลิ่นยา เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ หลังทำจมูก เมื่อแผลเริ่มหายแล้วกลิ่นเหล่านี้ที่จะหายไปเอง

ระยะเวลาพักฟื้นแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลโดยทั่วไปแล้วจะใช้เวลา 2-3สัปดาห์จึงจะกลับไปทำกิจกรรมได้ตามปกติ และ 3-6อาทิตย์ สามารถกลับไปทำกิจกรรมๆหนักได้ อย่างไรก็ตามคุณควรที่จะกลับไปทำงานได้ตามปกติภายใน1อาทิตย์ ยกเว้นแต่ว่างานของคุณเป็นงานที่ต้องทำกิจกรรมหนักๆ คุณจะมีอาการบวมที่จมูกซึ่งอาจจะใช้เวลานานถึง6เดือนจึงจะหาย แต่จะมีแค่คุณและแพทย์ผู้ผ่าตัดที่จะสังเกตเห็น ผลลัพธ์จะเห็นได้อย่างชัดเจนหลังจากแผลหายดีแล้ว

การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?

  • ประคบเย็นทันทีหลังการผ่าตัด และประคบติดต่อกันเป็นเวลาระยะเวลา 48 ชั่วโมง

  • ห้ามไม่ให้แผลโดนน้ำ ในช่วง 3 วันแรก เพราะน้ำจะทำให้แผลอับชื้น จนเกิดการอักเสบและติดเชื้อตามมา

  • นอนให้ศีรษะอยู่สูงเข้าไว้วิธีนี้ก็จะช่วยลดอาการบวมลงได้

  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารหมักดองและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

  • ทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด

สับดาห์แรกคุณต้องใส่เฝือกจมูก คุณอาจจะรู้สึกแน่นจมูกเนื่องจากอาการบวมหรือจากเฝือกที่ใส่ คุณต้องนอนให้ศรีษะอยู่สูงกว่าหน้าอกเพื่อลดอาการบวมและไม่ให้เลือดไหลเยอะ หลังการผ่าตัด2-3วันคุณอาจจะมีเลือดไหลเล็กน้อยและน้ำมูกไหลแพทย์อาจจะใส่แผ่นรองไว้ใต้จมูกเพื่อซับเลือดและน้ำมูกที่ไหลออกมา

แพทย์อาจจะให้คุณหลีกเลี่ยงกิจกรรมหนักๆ อาบน้ำในอ่างแทนการอาบด้วยฝักบัว หลีกเลี่ยงการสั่งน้ำมูก ทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูงเพื่อหลีกเลี่ยงอาการท้องผูก ไม่ยิ้มหรือหัวเราะ ไม่สวมเสื้อที่ต้องสวม-ถอดออกทางศรีษะ ให้สวมเสื้อที่ติดกระดุมแทน

ไม่ใส่แว่นสายตาหรือแว่นกันแดดเพื่อป้องกันการกดทับบนจมูก ควรทาครีมกันแดดSPF30เมื่ออกไปข้างนอก 

ไม่ประคบเย็นบนจมูกแม้ว่าจะมีอาการบวม  อาการบวมจะหายเร็วขึ้นด้วยการจำกัดการทานโซเดียม

มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?

อัตราความสำเร็จมีประมาณ 80-90% อย่างไรก็ตามการศัลยกรรมจมูกก็เหมือนกับการศัลยกรรมอื่นๆที่มีผลข้างเคียง ซึ่งอาจจะมีเลือดไหล ติดเชื้อ ชา เส้นประสาทเสียหายอย่างถาวร ผลข้างเคียงจากการใช้ยาสลบ ความเสี่ยงอื่นๆที่เป็นไปได้คือหายใจทางจมูกลำบาก จมูกไม่เท่ากัน บวม เปลี่ยนสี ผนังกั้นช่องจมูกทะลุ และต้องผ่าตัดอีกเป็นครั้งที่ 2 หรือ 3

ประเทศไทย มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางราชการว่า ราชอาณาจักรไทย ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีลักษณะภูมิประเทศที่หลากหลายโดยแบ่งออกเป็น 4 ภูมิภาค 77 จังหวัด และมีอากาศค่อนข้างร้อนชื้นตลอดทั้งปี 

เป็นที่ยอมรับกันว่าประเทศไทย เป็นประเทศที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก นำพาชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อยให้เดินทางมาท่องเที่ยวและอาศัยอยู่ในประเทศไทยด้วยเหตุผลนานานับประการ และในปัจจุบันประเทศไทยยังมีอัตราการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในเรื่องของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เนื่องจากมีความพร้อมในการให้บริการที่ได้มาตรฐานในระบบสากล รวมทั้งมีค่ารักษาพยาบาลที่ถูกกว่า และใน ปัจจุบัน ประเทศไทย มีจํานวนสถานพยาบาล ที่ได้รับ การรับรอง มาตรฐาน ในระดับ สากล JCI มากที่สุดใน AEC ถึง 56 แห่ง ซึ่งมาก เป็นอันดับ 4 ของโลก อีกด้วย

จังหวัดท่องเที่ยวที่ยอดนิยมของไทย

กรุงเทพมหานคร อันดับหนึ่งตลอดกาลคงต้องยกให้กับจังหวัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศไทยและเป็นจังหวัดที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญมากมาย แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี มีย่านธุรกิจ และ  แหล่งช้อปปิ้งอีกมากมาย ซึ่งถ้าพูดถึงที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ทุกคนต้องแวะไป ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติคือ วัดพระแก้ว, วัดอรุณ, วัดโพธิ์, เยาวราช, ถนนข้าวสาร, ตลาดนัดจตุจักร และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งการเดินทางคมนาคมในกรุงเทพฯนั้นก็แสนจะสะดวกสบาย สามารถเดินทางได้โดยขนส่งสาธารณะ เช่น Airport link, BTS, MRT, รถแทกซี่, รถเมล์, รถตุ๊กตุ๊ก เป็นต้น

เชียงใหม่ เชียงใหม่ก็ถือเป็นเมืองยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยมีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในช่วงหน้าหนาว ซึ่งมีอากาศที่ค่อนข้างเย็นสบายละมีบรรยากาศที่ดี เชียงใหม่ยังเป็นเมืองที่มีธรรมชาติที่สมบูรณ์ และยังเป็นเมืองแห่งวัฒนธรรม สถานที่ที่น่าสนใจในเชียงใหม่ ได้แก่ วัดพระธาตุดอยสุเทพ ดอยอินทนนท์ ถนนนิมมานเหมินทร์ วัดอุโมงค์ เป็นต้น เชียงใหม่เป็นเหมือนศุนย์กลางการท่องเที่ยวทางภาคเหนือ เพราะสามารถต่อรถไปยังที่เที่ยวรอบ ๆ ได้อย่างสะดวก เช่น จ. เชียงราย, จ. แม่ฮ่องสอน เป็นต้น

ภูเก็ต เกาะที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีหาดทรายที่สวยงาม มีน้ำทะเลใส เหมาะกับการเล่นน้ำและดำน้ำ หรือทำกิจกรรมทางน้ำแบบอื่น ๆ ชายหาดที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวก็คือ หาดป่าตอง, หาดกะตะ, หาดกะรน เป็นต้น ทั้งสามารถซื้อทัวร์แบบไปเช้าเย็นกลับยังเกาะใกล้ ๆได้ เช่น หมู่เกาะพีพี, เกาะราชา, เกาะไข่ เป็นต้น หากใครที่ไม่ชอบทะเล ก็สามารถเข้าไปเที่ยวชมวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวภูเก็ตภายในตัวเมืองได้ เช่น สถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีสที่ถนนถลาง, ซอยรมณีย์ หรือ ไหว้พระขอพรจากวัดฉลองซึ่งเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวภูเก็ต เป็นต้น

พัทยา ตั้งอยู่ในจังหวัดชลบุรี เป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวไปเยือนและเป็นที่นิยมมากแห่งหนึ่งไม่แพ้สถานที่อื่น ๆ และเป็นที่รู้จักกันมากกว่าตัวจังหวัด และเป็นหนึ่งในสถานที่ยอดฮิตของคนไทยเพราะใกล้กรุงเทพเพียงแค่ 100 กิโลเมตร สามารถมาเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับได้สบาย และนอกจาก วอล์คกิ้งสตรีท ที่หลายๆคนนึกถึง พัทยายังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น ปราสาทสัจธรรม, สวนน้ำรามายณะ เป็นต้น ซึ่งการเดินทางยอดนิยมสำหรับการมาพัทยาคือ การขับรถยนต์ส่วนตัว และการนั่งรถตู้จากกรุงเทพฯ และเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับเดินทางมาพักผ่อนแบบครอบครัวอีกด้วย

สภาพภูมิอากาศของประเทศไทย

ประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตร้อนใกล้เขตศูนย์สูตร มีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ เป็นตัวกำหนดลักษณะอากาศของประเทศไทย พื้นที่ส่วนบนเป็นภูเขาและที่ราบสูง พื้นที่ส่วนกลางเป็นที่ราบลุ่ม พื้นที่ทางใต้เป็นแหลมยื่นลงไปในทะเล

ลักษณะภูมิอากาศ สามารถแบ่งได้เป็น 3 ฤดูกาล ดังนี้ ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่ เดือนกุมภาพันธ์ ถึง พฤษภาคม, ฤดูฝน จะเริ่ม ตั้งแต่ เดือนมิถุนายน ถึงตุลาคม และฤดูหนาว จะเริ่ม ตั้งแต่ เดือนพฤศจิกายน ถึงมกราคม

อุณหภูมิโดยทั่วไปอยู่ในเกณฑ์ร้อนและไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก โดยมีค่าเฉลี่ยทั่วประเทศประมาณ 27 องศาเซลเซียส มีค่าสูงสุดเฉลี่ย 32 องศาเซลเซียส และและต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส โดยมีค่าอุณหภูมิผันแปรตามสภาพภูมิประเทศ กล่าวคือ ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศร้อนจัดและหนาวจัดกว่าภาคอื่น ๆ, ภาคกลางและภาคตะวันออก มีบางส่วนของพื้นที่ติดกับทะเล ทำให้อุณหภูมิไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วไปประมาณ 28 องศาเซลเซียส, ภาคใต้ทั้งสองฝั่งล้อมรอบด้วยทะเล อุณหภูมิไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 27.3 องศาเซลเซียส

การเดินทางในประเทศไทย

การเดินทางในประเทศไทย ไม่ว่าจะเดินทางไปที่จังหวัดไหนก็มีความสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางอากาศ หรือทางน้ำ

ทางบก ก็มีเส้นทางหลักที่สะดวกไปได้ทั่วถึงทุกจังหวัดในประเทศไทย และมีทางเลือกที่หลากหลาย เช่น การเดินทางโดยรถประจำทาง, รถแทกซี่ (มีบริการในกรุงเทพฯและเมืองใหญ่ๆ), รถมอเตอร์ไซค์ (นิยมใช้บริการในระยะใกล้ๆ) รถเช่า, หรือรถยนต์ส่วนบุคคล

ทางอากาศ ปัจจุบันประเทศไทยมีสายการบินในประเทศหลายสาย ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยเฉพาะจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ยอดนิยม เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของนักท่องเที่ยว

ทางน้ำ เนื่องจากเมืองไทยมีแม่น้ำลำคลองอยู่ทั่วไป และยังมีหลายคลองที่มีเรือโดยสารวิ่งรับส่งคนตามท่าเรือต่าง ๆ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ

ประชากรในประเทศไทย

ประเทศไทย มีจำนวนประชากรโดยประมาณ 65 ล้านคนซึ่งมีความหลากหลายทางเชื้อชาติ โดยประมาณ 3 ใน 4 มีเชื้อสายไทย นอกจากนี้ยังมีคนไทยเชื้อสายจีนเป็นจำนวนมาก รวมทั้งคนไทยเชื้อสายมลายูในภาคใต้ตอนล่าง และคนไทยเชื้อสายมอญ เขมร และชาวเขาเผ่าต่าง ๆ และประชากรส่วนใหญ่ ส่วนใหญ่นับถือ ศาสนาพุทธ และศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ตามลำดับ

ข้อมูลอื่น ๆ

ภาษา ประเทศไทยมีภาษาไทยเป็นภาษาราชการเพียงภาษาเดียว มีการระบุว่าเป็นภาษาหลักของการศึกษาและใช้ในราชการ ในขณะที่ ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาที่สองที่พบมากที่สุดในประเทศไทย

สกุลเงิน สกุลเงินที่ใช้เป็นสกุลเงินบาท

วันหยุด ราชการ ที่สำคัญ ของไทย ได้แก่ วัน ขึ้นปีใหม่, วัน สงกรานต์,วัน เฉลิมพระชน มพรรษา ของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และของสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรม ราชินี, วัน แม่แห่งชาติ เป็นต้น

การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในไทย

ปัจจุบัน อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว นับเป็นอุตสาหกรรมหลักที่ทำรายได้เข้าสู่ประเทศอย่างมหาศาลในเวลาที่ผ่านมา การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในประเทศไทย เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและโดดเด่น โดยที่ประเทศไทย ติดอันดับ 1 ของ เอเชีย  เนื่องจากไทยมีหน่วยการแพทย์ที่มีคุณภาพ มีราคาที่ไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับคุณภาพที่ได้การรักษา รวมถึงประเทศไทยนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ มีจุดเด่น ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เป็นอย่างดีอีกด้วย โดยเฉพาะจังหวัดที่เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวหลัก และมีสถานพยาบาลที่พร้อม เช่น กรุงเทพฯ, เชียงใหม่, ภูเก็ต, และเกาะสมุย เป็นต้น