สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ สักคิ้ว ใน ไทย
การสักคิ้ว (Eyebrow Tattoo) เป็นการสักโดยอาศัยหลักการวาด สร้างลายเส้นลงบนขนคิ้ว ปัจจุบันได้รับความนิยมอยู่ 2 ประเภท ได้แก่ สักคิ้ว 3 มิติ และ สักคิ้ว 6 มิติ ซึ่ง การสักคิ้ว 3 มิติ จะเห็นเป็นเส้นขนคิ้วที่คม และชัด ส่วน การสักคิ้ว 6 มิติ จะมีความบาง และดูเป็นธรรมชาติมากกว่า ทั้ง 2 ประเภท จะมีความคงทน สามารถติดทนบนผิวหน้าได้อย่างยาวนาน ช่วยแก้ปัญหา คิ้วบาง คิ้วน้อย หรือไร้คิ้วได้ดี รวมถึงคนที่มีรอยแผลเป็นบนคิ้ว ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน
การสักคิ้ว 3 มิติ ข้อดี คือ คิ้วเข้มขึ้น แต่มีความพลิ้ว มีความเป็นธรรมชาติ ช่วยแก้ปัญหาคิ้วบาง คิ้วที่ไม่รับกับรูปทรงของใบหน้า เสียเวลาในการเขียนคิ้ว ข้อเสีย คือ อยู่ได้นาน 2 - 3 ปี ต้องไปทำซ้ำ และหากทรงคิ้วไม่ถูกใจ ก็จะต้องมีคิ้วแบบนี้อยู่ไปอีกนาน และดูแลรักษาอย่างเคร่งครัด ในช่วงเวลาก่อนแผลแห้ง มีความเข้มกว่าสักคิ้ว 6 มิติ
การสักคิ้ว 6 มิติ ข้อดี คือ มีความเป็นธรรมชาติ และมีมิติที่ซับซ้อน สวยงามเหมือนคิ้วจริง สามารถอยู่ได้นาน ไร้ความกังวลเรื่องคิ้วน้อย คิ้วบาง ข้อเสีย ต้องคอยระมัดระวังระหว่างรอแผลแห้ง และอ่อนกว่าสักแบบ 3 มิติ หากต้องการความเข้มหน้าของเส้นคิ้ว อาจจะผิดหวังได้
การสักคิ้ว จะช่วยลดขั้นตอนการแต่งหน้าลง ให้เราประหยัดเวลา หรือสวยขึ้น มั่นใจขึ้น แม้หน้าสดออกจากบ้าน แต่การสักคิ้ว ไม่เหมาะกับคนที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย เพราะอาจเกิดการระคายเคืองได้ง่าย รวมถึงคนที่มีแผลเป็นคีลอยด์ง่ายก็ด้วยเช่นกัน
การเตรียมตัวก่อนไปสักคิ้ว
ก่อนทำการสักคิ้ว 3 มิติ และ สักคิ้ว 6 มิติ ให้ดูแลผิวหน้าให้สะอาด งดการทำหัตถการผิวหน้า อย่างการลอกหน้า ผลัดหน้า งดตากแดดนาน ๆ และเลี่ยงการโดนแดดแรง ๆ งดดื่มแอลกอฮอล์ รวมไปถึงการเลือกร้านสักคิ้วที่มีความน่าเชื่อถือ
การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?
ถ้าเป็นคนเขียนคิ้วได้ไม่เก่ง ไม่สวย หรือผลลัพธ์จากการเขียนออกมาไม่ได้ดั่งใจ การสักคิ้ว (Eyebrow Tattoo) เป็นวิธีที่ดีที่สุด ที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหานี้ ทั้งยังช่วยเพิ่มมิติให้คิ้ว ให้สวยได้อย่างเป็นธรรมชาติ รวมถึงช่วยแก้ปัญหาขนคิ้วน้อย ขนคิ้วบาง มีคิ้วแหว่งจากรอยแผลเป็น หางคิ้วไม่สวย และขนคิ้วหลุดร่วง เป็นต้น สามารถทำได้ทุกเพศ ทุกวัย
การสักคิ้ว 3 มิติ เป็นการวาดคิ้วให้ดูเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น โดยวาดเส้นแทรกลงตามแนวขนคิ้ว ส่วนการสักคิ้ว 6 มิติ จะมีความเป็นธรรมชาติ และให้ผลลัพธ์ที่เหนือกว่าการสักแบบ 3 มิติ มีความสลับซับซ้อน ไม่หลอกตา ใช้เวลาในการทำมากกว่าการสักคิ้ว 3 มิติ
ไม่ว่าจะทำกิจกรรมหนัก หรือเยอะมากแค่ไหน ขึ้นเขา ลงน้ำ ล้างหน้า หรือเหงื่อออกเยอะ คิ้วก็จะคงอยู่บนใบหน้าตลอดเวลา ไม่ต้องเขียนซ้ำให้เสียเวลา
ประโยชน์ของการ สักคิ้ว 3 มิติ หรือ สักคิ้ว 6 มิติ คือ
-
ใช้ชีวิตง่ายขึ้น สะดวกสบาย ไร้ข้อกังวลเกี่ยวกับคิ้ว
-
เส้นขนพลิ้ว สวย เนียนเหมือนธรรมชาติ
-
มีความมั่นใจมากขึ้นก่อนออกจากบ้าน
-
ประหยัดเวลา ประหยัดค่าใช้จ่าย เรื่องอุปกรณ์เขียนคิ้ว
-
เสริมโหงวเฮ้ง เสริมบุคลิก ที่เป็นตัวเราไปในทางที่ดีขึ้น
-
สวยได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเช้า เย็น หรือหลังตื่นนอน โดยที่ไม่ต้องเขียนคิ้ว
-
เล่นน้ำทะเลได้ ว่ายน้ำอย่างสนุก ล้างหน้าสะอาดหมดจด เหงื่อออกมาก ก็ไม่ต้องกลัวคิ้วหาย
-
สามารถออกแบบโครงสร้างคิ้วก่อนได้ ตามที่ใจเราต้องการ
-
ช่วยแก้ปัญหาคิ้วบาง คิ้วไม่เป็นรูปทรง หรือมีแผลเป็นบนคิ้ว ให้มีรูปทรงที่ได้มาตรฐานมากขึ้น
ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?
ขั้นตอนการทำ การสักคิ้ว (Eyebrow Tattoo)
1. เช็กลักษณะของคิ้ว และรูปหน้า
2. ช่างสักจะช่วยออกแบบ และเขียนคิ้วบนใบหน้าตามแผนที่วางไว้
3. ทายาชาชนิดครีมบนคิ้ว เพื่อลดอาการเจ็บในช่วงขณะที่กำลังสัก โดยรอให้ยาชาออกฤทธิ์ประมาณ 1 ชั่วโมง
4. เริ่มสักคิ้ว ใช้เวลาในการสักประมาณ 30 นาที - 1 ชั่วโมง หลังจากทำเสร็จสามารถกลับบ้านได้ ไม่ต้องนอนพักฟื้น
การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?
หลังการสักคิ้ว (Eyebrow Tattoo)
1. ให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำเป็นเวลา 3 วัน
2. ควรทายาเพื่อให้บริเวณที่สักมีความชุ่มชื้น และป้องกันการติดเชื้อ ให้ตรงตามเวลา
3. เมื่อแผลสักเริ่มตกสะเก็ด ห้ามลอก หรือแกะ เกาเด็ดขาด ปล่อยให้สะเก็ดค่อย ๆ หลุดด้วยตัวเอง ซึ่งจะหลุดไปเองภายใน 7 วัน
4. สามารถแต่งหน้าได้ โดยการงด และเลี่ยงให้เครื่องสำอางมาสัมผัสกับคิ้ว รวมถึงการเขียนคิ้ว ให้งดไปประมาณ 1 สัปดาห์
5. ควรงดอาหารทะเลรวมถึงของที่มีรสเผ็ดร้อน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจจะไปขับสีคิ้ว ทำให้สีคิ้วที่สักมาติดได้ไม่ดี
มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?
ความคงทนของลายเส้นการสักคิ้ว (Eyebrow Tattoo) จะมีความแตกต่างกันของแต่ละบุคคล เพราะการสักคิ้ว เป็นการสักลงบนผิวชั้นนอก ผลที่ได้จึงขึ้นอยู่กับสภาพผิวของบุคคลนั้น ๆ รวมถึงกิจกรรมที่ทำในแต่ละวันด้วย โดยปกติแล้ว จะเริ่มเห็นผลทันทีหลังจากที่ทำ แต่ต้องรอให้แผลลอกเต็มที่ หลัง 1 สัปดาห์ และคิ้วจะมีระยะคงอยู่ประมาณ 2 - 3 ปี
ประเทศไทย มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางราชการว่า ราชอาณาจักรไทย ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีลักษณะภูมิประเทศที่หลากหลายโดยแบ่งออกเป็น 4 ภูมิภาค 77 จังหวัด และมีอากาศค่อนข้างร้อนชื้นตลอดทั้งปี
เป็นที่ยอมรับกันว่าประเทศไทย เป็นประเทศที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก นำพาชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อยให้เดินทางมาท่องเที่ยวและอาศัยอยู่ในประเทศไทยด้วยเหตุผลนานานับประการ และในปัจจุบันประเทศไทยยังมีอัตราการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในเรื่องของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เนื่องจากมีความพร้อมในการให้บริการที่ได้มาตรฐานในระบบสากล รวมทั้งมีค่ารักษาพยาบาลที่ถูกกว่า และใน ปัจจุบัน ประเทศไทย มีจํานวนสถานพยาบาล ที่ได้รับ การรับรอง มาตรฐาน ในระดับ สากล JCI มากที่สุดใน AEC ถึง 56 แห่ง ซึ่งมาก เป็นอันดับ 4 ของโลก อีกด้วย
จังหวัดท่องเที่ยวที่ยอดนิยมของไทย
กรุงเทพมหานคร อันดับหนึ่งตลอดกาลคงต้องยกให้กับจังหวัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศไทยและเป็นจังหวัดที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญมากมาย แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี มีย่านธุรกิจ และ แหล่งช้อปปิ้งอีกมากมาย ซึ่งถ้าพูดถึงที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ทุกคนต้องแวะไป ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติคือ วัดพระแก้ว, วัดอรุณ, วัดโพธิ์, เยาวราช, ถนนข้าวสาร, ตลาดนัดจตุจักร และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งการเดินทางคมนาคมในกรุงเทพฯนั้นก็แสนจะสะดวกสบาย สามารถเดินทางได้โดยขนส่งสาธารณะ เช่น Airport link, BTS, MRT, รถแทกซี่, รถเมล์, รถตุ๊กตุ๊ก เป็นต้น
เชียงใหม่ เชียงใหม่ก็ถือเป็นเมืองยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยมีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในช่วงหน้าหนาว ซึ่งมีอากาศที่ค่อนข้างเย็นสบายละมีบรรยากาศที่ดี เชียงใหม่ยังเป็นเมืองที่มีธรรมชาติที่สมบูรณ์ และยังเป็นเมืองแห่งวัฒนธรรม สถานที่ที่น่าสนใจในเชียงใหม่ ได้แก่ วัดพระธาตุดอยสุเทพ ดอยอินทนนท์ ถนนนิมมานเหมินทร์ วัดอุโมงค์ เป็นต้น เชียงใหม่เป็นเหมือนศุนย์กลางการท่องเที่ยวทางภาคเหนือ เพราะสามารถต่อรถไปยังที่เที่ยวรอบ ๆ ได้อย่างสะดวก เช่น จ. เชียงราย, จ. แม่ฮ่องสอน เป็นต้น
ภูเก็ต เกาะที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีหาดทรายที่สวยงาม มีน้ำทะเลใส เหมาะกับการเล่นน้ำและดำน้ำ หรือทำกิจกรรมทางน้ำแบบอื่น ๆ ชายหาดที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวก็คือ หาดป่าตอง, หาดกะตะ, หาดกะรน เป็นต้น ทั้งสามารถซื้อทัวร์แบบไปเช้าเย็นกลับยังเกาะใกล้ ๆได้ เช่น หมู่เกาะพีพี, เกาะราชา, เกาะไข่ เป็นต้น หากใครที่ไม่ชอบทะเล ก็สามารถเข้าไปเที่ยวชมวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวภูเก็ตภายในตัวเมืองได้ เช่น สถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีสที่ถนนถลาง, ซอยรมณีย์ หรือ ไหว้พระขอพรจากวัดฉลองซึ่งเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวภูเก็ต เป็นต้น
พัทยา ตั้งอยู่ในจังหวัดชลบุรี เป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวไปเยือนและเป็นที่นิยมมากแห่งหนึ่งไม่แพ้สถานที่อื่น ๆ และเป็นที่รู้จักกันมากกว่าตัวจังหวัด และเป็นหนึ่งในสถานที่ยอดฮิตของคนไทยเพราะใกล้กรุงเทพเพียงแค่ 100 กิโลเมตร สามารถมาเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับได้สบาย และนอกจาก วอล์คกิ้งสตรีท ที่หลายๆคนนึกถึง พัทยายังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น ปราสาทสัจธรรม, สวนน้ำรามายณะ เป็นต้น ซึ่งการเดินทางยอดนิยมสำหรับการมาพัทยาคือ การขับรถยนต์ส่วนตัว และการนั่งรถตู้จากกรุงเทพฯ และเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับเดินทางมาพักผ่อนแบบครอบครัวอีกด้วย
สภาพภูมิอากาศของประเทศไทย
ประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตร้อนใกล้เขตศูนย์สูตร มีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ เป็นตัวกำหนดลักษณะอากาศของประเทศไทย พื้นที่ส่วนบนเป็นภูเขาและที่ราบสูง พื้นที่ส่วนกลางเป็นที่ราบลุ่ม พื้นที่ทางใต้เป็นแหลมยื่นลงไปในทะเล
ลักษณะภูมิอากาศ สามารถแบ่งได้เป็น 3 ฤดูกาล ดังนี้ ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่ เดือนกุมภาพันธ์ ถึง พฤษภาคม, ฤดูฝน จะเริ่ม ตั้งแต่ เดือนมิถุนายน ถึงตุลาคม และฤดูหนาว จะเริ่ม ตั้งแต่ เดือนพฤศจิกายน ถึงมกราคม
อุณหภูมิโดยทั่วไปอยู่ในเกณฑ์ร้อนและไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก โดยมีค่าเฉลี่ยทั่วประเทศประมาณ 27 องศาเซลเซียส มีค่าสูงสุดเฉลี่ย 32 องศาเซลเซียส และและต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส โดยมีค่าอุณหภูมิผันแปรตามสภาพภูมิประเทศ กล่าวคือ ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศร้อนจัดและหนาวจัดกว่าภาคอื่น ๆ, ภาคกลางและภาคตะวันออก มีบางส่วนของพื้นที่ติดกับทะเล ทำให้อุณหภูมิไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วไปประมาณ 28 องศาเซลเซียส, ภาคใต้ทั้งสองฝั่งล้อมรอบด้วยทะเล อุณหภูมิไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 27.3 องศาเซลเซียส
การเดินทางในประเทศไทย
การเดินทางในประเทศไทย ไม่ว่าจะเดินทางไปที่จังหวัดไหนก็มีความสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางอากาศ หรือทางน้ำ
ทางบก ก็มีเส้นทางหลักที่สะดวกไปได้ทั่วถึงทุกจังหวัดในประเทศไทย และมีทางเลือกที่หลากหลาย เช่น การเดินทางโดยรถประจำทาง, รถแทกซี่ (มีบริการในกรุงเทพฯและเมืองใหญ่ๆ), รถมอเตอร์ไซค์ (นิยมใช้บริการในระยะใกล้ๆ) รถเช่า, หรือรถยนต์ส่วนบุคคล
ทางอากาศ ปัจจุบันประเทศไทยมีสายการบินในประเทศหลายสาย ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยเฉพาะจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ยอดนิยม เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของนักท่องเที่ยว
ทางน้ำ เนื่องจากเมืองไทยมีแม่น้ำลำคลองอยู่ทั่วไป และยังมีหลายคลองที่มีเรือโดยสารวิ่งรับส่งคนตามท่าเรือต่าง ๆ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ
ประชากรในประเทศไทย
ประเทศไทย มีจำนวนประชากรโดยประมาณ 65 ล้านคนซึ่งมีความหลากหลายทางเชื้อชาติ โดยประมาณ 3 ใน 4 มีเชื้อสายไทย นอกจากนี้ยังมีคนไทยเชื้อสายจีนเป็นจำนวนมาก รวมทั้งคนไทยเชื้อสายมลายูในภาคใต้ตอนล่าง และคนไทยเชื้อสายมอญ เขมร และชาวเขาเผ่าต่าง ๆ และประชากรส่วนใหญ่ ส่วนใหญ่นับถือ ศาสนาพุทธ และศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ตามลำดับ
ข้อมูลอื่น ๆ
ภาษา ประเทศไทยมีภาษาไทยเป็นภาษาราชการเพียงภาษาเดียว มีการระบุว่าเป็นภาษาหลักของการศึกษาและใช้ในราชการ ในขณะที่ ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาที่สองที่พบมากที่สุดในประเทศไทย
สกุลเงิน สกุลเงินที่ใช้เป็นสกุลเงินบาท
วันหยุด ราชการ ที่สำคัญ ของไทย ได้แก่ วัน ขึ้นปีใหม่, วัน สงกรานต์,วัน เฉลิมพระชน มพรรษา ของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และของสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรม ราชินี, วัน แม่แห่งชาติ เป็นต้น
การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในไทย
ปัจจุบัน อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว นับเป็นอุตสาหกรรมหลักที่ทำรายได้เข้าสู่ประเทศอย่างมหาศาลในเวลาที่ผ่านมา การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในประเทศไทย เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและโดดเด่น โดยที่ประเทศไทย ติดอันดับ 1 ของ เอเชีย เนื่องจากไทยมีหน่วยการแพทย์ที่มีคุณภาพ มีราคาที่ไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับคุณภาพที่ได้การรักษา รวมถึงประเทศไทยนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ มีจุดเด่น ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เป็นอย่างดีอีกด้วย โดยเฉพาะจังหวัดที่เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวหลัก และมีสถานพยาบาลที่พร้อม เช่น กรุงเทพฯ, เชียงใหม่, ภูเก็ต, และเกาะสมุย เป็นต้น