สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ เมโสหน้าใส ใน กรุงเทพมหานคร
เมโสหน้าใส เป็นการทำศัลยกรรม โดยใช้การฉีดไมโคร วิตามิน, เอนไซม์, ฮอร์โมน และสารสกัดจากพืช เพื่อคืนความอ่อนเยาว์แก่ผิวพรรณ และเป็นการกระชับรูขุมขน นอกจากนี้ยังเป็นการลดเซลลูไลท์, ลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำ, รอยสิวให้ดูจางลงไป และลดผิวหมองคล้ำ ทำให้ผิวหน้าดูมีความสดใสมากยิ่งขึ้น รักษาอาการผมร่วง และเป็นการกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม แพทย์จะทำการสะกิดเข็มทั่วใบหน้า หรือฉีดลงไปที่ใบหน้า แล้วแต่ความชำนาญหรือเทคนิคของแพทย์แต่ละท่าน
การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?
การทำเมโสหน้าใส เป็นการเสริมความงามแบบไม่ต้องผ่าตัด คุณจะไม่มีความเจ็บปวดใด ๆ ทั้งสิ้น เพียงแต่อาจจะมีความรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เนื่องจากมีการทายาชา ขั้นตอนการทำนั้น จะมีการฉีดเข็มสั้น ๆ ลงไปบนใบหน้า, คอ, หนังศีรษะ, หน้าอก, มือ และส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ที่คุณต้องการจะฉีด ซึ่งแน่อนว่า คุณจะเป็นผู้เลือกสารที่ใช้ฉีดได้
ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?
การฉีดเมโสใช้เวลาในการทำหัตถการน้อย แต่คุณอาจมีรอยซ้ำ และอาการบวมได้เล็กน้อย แต่อาการเหล่านี้ จะหายไปภายใน 24 ชั่วโมง ดังนั้นคุณจึงสามารถ กลับไปทำกิจกรรมได้ตามปกติภายในวันเดียวกัน หรือหากมีอาการบวมแดง หรือปวดอาจต้องหยุดพัก เป็นเวลา 1 วัน
การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?
การทำเมโสหน้าใส ไม่จำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ แต่ผู้เชี่ยวชาญจะให้คำแนะนำในการดูแลตนเอง ติดตามอาการ รวมถึงสิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง เนื่องจากอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นได้ หรือมีอาการบวมและช้ำ
การฉีดเมโสหน้าใสนี้ สามารถทำได้ปีละ 1 - 2 ครั้ง เพื่อยังคงผลลัพธ์ ให้ดีเสมอตามที่คุณพึงพอใจ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น คุณควรหมั่นออกกำลังกาย เป็นประจำ ควบคุมอาหาร และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ รวมไปถึงการงดดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น
มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?
คุณควรเลือกสถานบันความงาม ที่ได้ใบอนุญาตประกอบโรคศิลป์ มีประสบการณ์ และมีความปลอดภัย ศึกษาถึงข้อดี ข้อเสีย อย่างละเอียด ก่อนตัดสินใจเข้ารับบริการ
สำหรับผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ นั่นก็คือ ความเจ็บปวดเพียงเล็กนอ้ย บวมซ้ำ คลื่นไส้ คัน ผื่นแดง รอยแผลเป็น และการติดเชื้อ เป็นต้น
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับกรุงเทพมหานคร
คงเป็นที่ทราบกันดีว่ากรุงเทพมหานคร เป็นเมืองหลวงของประเทศไทย และเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจในระดับ ประชาคมอาเซียน จุดเด่นของกรุงเทพฯ นอกจากจะเป็นจังหวัดที่มีศาสนสถานที่สวยงาม, อาหารริมทาง หรือ street food, การคมนาคมที่สะดวกสบาย, ห้างสรรพสินค้า, ตลาด รวมถึงยังมีสถานพยาบาลชั้นนำต่าง ๆ ที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศ ทั้งโรงพยาบาลของรัฐ, คลินิก, และโรงพยาบาลเอกชนที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล JCI (Joint Commission International Accreditation) ทำให้กรุงเทพฯนอกจากจะเป็นจังหวัดที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นที่สุด เป็นจังหวัดที่มีคนเดินทางมาท่องเที่ยวมากที่สุด ยังมีแนวโน้มในการขยายตัวกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอีกด้วย ซึ่งโรงพยาบาลที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ คือ โรงพยาบาลศิครินทร์ โรงพยาบาลกมล เป็นต้น ซึ่งมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจเดินทางมาทำศัลยกรรมความงามเป็นจำนวนมากในแต่ละปี
สถานที่ยอดนิยมในกรุงเทพมหานคร
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่รู้จักกันในนาม วัดพระแก้ว เป็นวัดที่ รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น พร้อม ๆ กับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ตั้งอยู่ ในเขตพระบรมมหาราชวัง หากใครได้มาเที่ยวกรุงเทพฯ ก็ตามจะต้องแวะไปกราบ พระแก้วมรกต สักครั้งเพื่อความเป็นสิริมงคล
วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร หรือ วัดแจ้ง เป็นวัดโบราณสร้างในสมัยอยุธยา พระปรางค์วัดอรุณฯ นับเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของกรุงเทพฯ ที่รู้จักกันทั่วโลก เพราะฉะนั้นถ้ามาถึงกรุงเทพฯ ก็คงต้องแวะมาชมความสวยงามของพระปรางค์วัดอรุณฯ เช่นเดียวกัน
เยาวราช นับเป็นอีกย่านที่น่าเที่ยว เพราะนอกจากจะเป็นแหล่งชุมชนของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนแล้ว ยังจัดว่าเป็นย่านธุรกิจ และคึกคักตลอดทั้งวัน ในปัจจุบันคนจะนิยมมาเที่ยวเยาวราชกันช่วงกลางคืน เพราะจะมีสตรีทฟู้ดร้านเด็ดมากมายที่น่าไปลิ้มลองชิมดูสักครั้ง
นอกเหนือจากนี้ ยังมีสถานที่อื่น ๆที่เป็นที่นิยมที่ไม่ควรพลาด เช่น สยามสแควร์, ถนนข้าวสาร, ตลาดนัดจตุจักร, เอเชียทีค เป็นต้น
การเดินทางในกรุงเทพมหานคร
การคมนาคมในกรุงเทพฯ ถือว่ามีความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก ทั้งทางบก ทางอากาศ ทางน้ำ และยังมีระบบขนส่งสาธรารณะที่ได้มาตรฐานและทันสมัย การเดินทางและการท่องเที่ยวจึงทำได้ง่ายแม้ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว เช่น รถแท็กซี่ รถเมล์ รถจักรยานยนต์รับจ้าง รถตุ๊กตุ๊ก รถไฟ รถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้าใต้ดิน และ เรือโดยสาร เป็นต้น
ประชากรหรือผู้คนในกรุงเทพมหานคร
กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศไทย มีหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งยังมีประชาชนจากต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงาน รวมถึงยังมีชาวต่างชาติที่เข้ามาอาศัยอยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก ทำให้คนกรุงเทพฯอาจมีวิถีชีวิตที่เร่งรีบมากกว่าส่วนอื่นในประเทศไทย
สภาพภูมิอากาศในกรุงเทพมหานคร
กรุงเทพฯ มีสภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื้น โดยอยู่ภายใต้ อิทธิพลของลมมรสุม 2 ชนิด คือ ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ มีอากาศร้อนทั้งปีและยังมีอุณหภูมิที่หลากหลายอีกด้วย มี 3 ฤดูกาลที่แตกต่างกัน ได้แก่ ฤดูร้อนจะเป็นช่วงเดือนมีนาคมและเมษายน, ฤดูฝน จะอยู่ในช่วงราว ๆ กรกฎาคมจนถึงตุลาคม และช่วงที่มีอากาศเย็นจะเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายนและเดือนธันวาคม
อื่นๆ
การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในกรุงเทพฯ กำลังเป็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุผลที่ว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย มีความเจริญก้าวหน้าในเทคโนโลยีที่ทันสมัย ดังนั้น จึงมีโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานระดับโลก และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง มากมาย ที่จบมาจากต่างประเทศ มีประการณ์ที่ยาวนาน ทำให้มีนักท่องเที่ยวหรือผู้คนในประเทศไทยเองเดินทางเข้ามาทำการรักษา หรือทำศัลยกรรมกับโรงพยาบาลและคลีนิคต่างๆในกรุงเทพฯ เป็นอย่างมากนั่นเอง