การปลูกผม เป็นการศัลยกรรม ผิวหนัง รูปแบบหนึ่ง เพื่อแก้ไข ปัญหาผมบาง หนังศีรษะล้าน ซึ่งส่วนมากแล้ว จะเป็นการ นำเอาผม ของคนไข้ เองมาใช้ ในการปลูกผม ส่วนในขั้นตอน การปลูกผมนั้น จะทำโดย แพทย์ที่มี ความเชี่ยวชาญ เฉพาะด้าน และจะมีการ ใช้ยาชา เฉพาะที่ อีกทั้งต้องทำใน สถานพยาบาล
วิธีการ ปลูกผมมี กี่แบบ และอะไรบ้าง?
การปลูกผม หลัก ๆ เป็น 2 แบบ คือ
- การปลูกผม แบบตัด หนังศีรษะ เป็นวิธีการ ที่ไม่เป็น ที่นิยมนัก ซึ่งวิธีนี้ จะมีการ ผ่าตัดนำ หนังศีรษะ ในบริเวณ ที่มีผม มาเย็บติดกับ บริเวณ หนังศีรษะ ที่ไม่มีผม ซึ่งส่วนมาก จะเป็น บริเวณ ท้ายทอย ของศีรษะ มาทำการ ผ่าตัด เพื่อเอาหนังศีรษะ ส่วนที่มีผมออกมา จะได้รับการ เย็บปิดแผล และกลายเป็น แผลเป็น ในภายหลัง
- การปลูกผม แบบถาวร โดยที่ไม่ต้อง กระทำโดย การผ่าตัด เป็นวิธีการ ที่นำเอา ผมจากบริเวณ หนังศีรษะ ของผู้ที่ ต้องการปลูกผม มาฝังลงบน หนังศีรษะ ซึ่งวิธีนี้ จะแบ่งออก เป็น 2 แบบย่อย ๆ อีก ได้แก่ การปลูก โดยใช้รากผม จำนวนน้อย หลุมละประมาณ 1-2 รากผม ต่อหลุม เป็นวิธีการที่ ได้ผลดี อีกทั้งยัง ไม่ทำให้ มีแผลเป็น จากการปลูกผม อีกด้วย และแบบที่สองคือ การปลูกผม โดยใช้ รากผม จำนวนมาก ประมาณ 4-10 รากผม ต่อหลุมผม
ใครบ้าง ปลูกผมไม่ได้?
- ผู้หญิงที่มี ศีรษะล้าน ที่มีบริเวณกว้าง หรือศีรษะล้าน แบบเป็นหย่อมๆ หรือทั่วศีรษะ
- คนที่มี ศีรษะล้าน อันเนื่อง มาจากการ รักษา ทางการแพทย์ เช่น การทำเคมีบำบัด
- คนที่มี ผมจำนวนน้อย ที่ไม่พอใช้ใน การปลูกผม
- คนที่เป็น คีลอยด์ และเป็นแผลเป็นได้ง่าย เมื่อผ่าตัด หรือได้รับ บาดเจ็บ
ขั้นตอน การปลูกผม มีอะไรบ้าง?
- สระผม และทำ ความสะอาด หนังศีรษะ
- ต่อจากนั้น แพทย์จะทำการ ฉีดยาชา เฉพาะที่ บริเวณ หนังศีรษะ กับเข็มฉีดยา ขนาดเล็ก
- รอจนกว่า คนไข้ เริ่มรู้สึก ชาแล้ว แพทย์จะทำการ โกนผมที่ บริเวณผม ต้องการ ปลูกผมออก เพื่อให้เห็น หนังศีรษะ ได้ชัดเจนขึ้น
- ต่อจากนั้น จะเป็นวิธี การปลูกผม ซึ่งจะแตกต่างกัน ไปตามวิธี ที่ใช้ เช่น ถ้าเป็นการ ผ่าตัด หนังศีรษะ แพทย์จะ ทำการผ่าตัด นำหนังศีรษะ ที่บริเวณ ท้ายทอย ออกมา แล้วนำมา ปลูกบริเวณ ที่ไม่มีผม จากนั้นก็ เย็บปิดแผล ท้ายทอย ที่นำผมออกมา
- และวิธี ปลูกผมแบบ ไม่ผ่าตัด จะเป็นการ ใช้เครื่องมือ พิเศษ ดึงเซลล์รากผม นำไปปลูกถ่าย บริเวณที่ล้าน ในที่ต้องการปลูก ซึ่งวิธีการนี้ แพทย์จะมี การขีดแบ่ง พื้นที่ บริเวณ หนังศีรษะ ก่อนจะใช้ แว่นขยาย และนำมีดผ่าตัด ที่มีขนาดเล็ก และค่อย ๆ กรีด แล้วนำรากผม ลงไปฝัง ลงบน หนังศีรษะ ซึ่งวิธีนี้ จะช่วยให้ ผมที่ขึ้นมา ดูเป็น ธรรมชาติ แต่วิธีนี้ แพทย์อาจ ใช้เวลา ในการ ปลูกผม ประมาณ 4 ชั่วโมง ขึ้นไป และอาจปลูกผม ในปริมาณ ตั้งแต่ หลายร้อยเส้น ไปจนถึง หลายพันเส้น
- เมื่อการปลูกผม เสร็จเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะเอา ผ้าพันแผล ที่ระบาย อากาศได้ ปิดไว้บริเวณ ที่ทำการ ปลูกผม ประมาณ 1-2 วัน
- การปลูกผม อาจจะต้อง ทำซ้ำประมาณ 3-4 ครั้ง จนกว่าจะได้ ผลเป็นที่ น่าพึงพอใจตามที่ ผู้ป่วยต้องการ ในขณะที่ การปลูกผม แต่ละครั้ง ต้องมีการพัก หลายเดือน เพื่อให้แผล ครั้งเก่าดีขึ้น หรือหายเป็น ปกติก่อน จึงจะสามารถ ทำการปลูกผม ในครั้ง ถัดไปได้
ต้องเตรียมตัวอย่างไร ในการ เข้ารับการปลูกผม?
- ก่อนที่จะ เข้ารับ การปลูกผม ด้วยการทำ ศัลยกรรม แพทย์ต้อง ตรวจหาและ ระบุสาเหตุ ของอาการ ผมล้าน เพื่อ วินิจฉัย ว่าคนไข้ จำเป็นต้อง ใช้การปลูกผม ในการรักษา หรือไม่ เพราะถ้าอาการ ผมล้าน เกิดมาจาก การใช้ยา การรักษา หรือ เป็นเพียงอาการ ผมร่วง ที่เกิดขึ้น ชั่วคราว ก็มิอาจ จำเป็นที่จะต้องปลูกผม
- และหลังจาก ที่รู้สาเหตุแล้ว ทั้งแพทย์และผู้ป่วย ได้ตกลง กันแล้วว่า จะใช้ การปลูกผม เพื่อการรักษา ศัลยแพทย์ จะให้คำ แนะนำต่าง ๆ และอธิบาย ขั้นตอน ในการเตรียมตัว เพื่อเข้ารับ การปลูกผม ผู้เข้ารับ การปลูกผม จึงต้องทำ ตามอย่างเคร่งครัด เพื่อหลีกเลี่ยง การเกิดปัญหา ในระหว่าง การปลูกผม และเพื่อ ป้องกัน ภาวะแทรกซ้อน ที่สามารถ เกิดขึ้นได้ ในภายหลัง
แนวทาง ปฏิบัติตน ก่อนเข้ารับ การปลูกผมมี อะไรบ้าง?
- ในวันที่จะ ทำการปลูกผม ควรสระผม ให้สะอาด และหลีกเลี่ยง การจัดแต่งทรงผม และเลี่ยงการ ใช้ผลิตภัณฑ์ จัดแต่งทรงผม ทุกชนิด ในบางกรณี แพทย์อาจให้ ผู้ป่วยงด การตัดผม อย่างน้อย 1 เดือน ก่อนการทำ การปลูกผม เพื่อให้มี ผมส่วนอื่น ยาวเพียงพอ ที่จะนำมา ปิดส่วนที่ ปลูกผมได้
- งดสูบบุหรี่ ในช่วงก่อน การผ่าตัด รักษา และหลังจาก การปลูกผม อย่างน้อย 1 เดือน เพราะการ สูบบุหรี่ จะขัดขวาง การไหลเวียน ของเลือดไปยัง ผิวหนัง จึงทำให้ แผลจาก การปลูกผม หายช้าลง
- หยุดการ รับประทาน ยารักษา อาการ บางชนิด และวิตามิน เพราะอาจส่งผล กระทบต่อ การรักษาได้
- วางแผนการ เดินทางไป-กลับ ในวันที่ ทำการปลูกผมด้วย และควรมี คนขับรถ หรือเพื่อนมาด้วย เพราะผู้ป่วย ไม่ควรขับรถเอง และยังต้องควร ลางาน ประมาณ 1 อาทิตย์
การดูแล หลังปลูกผม มีอะไรบ้าง?
- หลังจาก การปลูกผม อาจเกิด การบวม ขึ้นได้ บริเวณ หนังศีรษะ ระหว่างนั้น อาจต้อง ใช้ยาแก้ปวด เพื่อบรรเทา อาการจนกว่า จะทุเลาลง แพทย์ จะให้ผู้ป่วย ปิดผ้าพันแผล ที่บริเวณ หนังศีรษะ ไว้อย่างน้อย 1-3 วัน และยังอาจมีการให้ ยาปฏิชีวนะ หรือยาต้าน อักเสบต่อเนื่องหลายวัน หลังจาก ปลูกผมเสร็จแล้ว หลังจากนั้น คนไข้จะสามารถ กลับไปทำงาน ได้ภายใน 2-5 วัน
- ในช่วงภายหลังการปลูกผม ประมาณ 2-3 อาทิตย์ ผมจะเริ่มร่วง ซึ่งไม่ใช่ ความผิดปกติ แต่อย่างใด เพราะจะมี ผมเส้นใหม่ เริ่มขึ้นมา ภายในเวลา ไม่กี่เดือน โดยเฉลี่ย 60% ของผู้ป่วย ที่เข้ารับ การปลูกผม จะใช้เวลา ประมาณ 6-9 เดือน ที่จะมีผมขึ้น ซึ่งศัลยแพทย์ บางท่าน อาจให้ยาเร่งผมยาว เพื่อช่วยให้ ผมงอกเร็วขึ้น
ภาวะ แทรกซ้อน ที่อาจเกิดขึ้นได้ มีอะไรบ้าง?
- มีอาการคัน
- มีรอยช้ำ บริเวณ รอบดวงตา
- แผลเป็นบน หนังศีรษะ จากการปลูกผม
- หนังศีรษะบวม
- เกิดการติดเชื้อ หรืออาการ อักเสบ
- เลือดออกมาก ผิดปกติ
- รู้สึกชา หรือไม่มี ความรู้สึก บริเวณ หนังศีรษะ ที่ทำการ ปลูกผม
- เกิดการติดเชื้อ บนหนังศีรษะ
- มีแผลตกสะเก็ด หรือน้ำเหลือง ที่บริเวณ หนังศีรษะ ที่ทำ การปลูกผม หรือบริเวณ ที่ผมถูกย้าย ไปปลูกที่อื่น
- เกิดอาการ ผมล่วง ที่เกิดขึ้น ได้ชั่วคราว เพราะหลังจากนั้น ผมจะเริ่มขึ้น ใหม่อีกครั้ง แต่หากเวลา ผ่านไปแล้ว ยังไม่มี ผมขึ้น มีอาการ ติดเชื้อ เกิดรุนแรง หรือมี อาการอักเสบ ควรจะรีบ กลับไป พบแพทย์
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับจังหวัดเชียงใหม่
เชียงใหม่ เป็นเมืองใหญ่ที่สุดในทางภาคเหนือ มีทรัพยากรทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งด้านประเพณีวัฒนธรรม และมีแหล่งท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก นักท่องเที่ยวจะได้พบกับความหลากหลายของชนเผ่าชาวเขาต่าง ๆควบคู่ไปกับทิวทิศน์ที่งดงาม ทำให้เชียงใหม่เป็นหนึ่งในสถานท่องเที่ยวในเอเชียที่น่าสนใจที่สุด
นอกจากนี้เชียงใหม่ ยังเป็นศูนย์กลางการเดินทางของภาคเหนือไม่ว่าจะเป็นภายในประเทศ หรือต่างประเทศ จึงทำให้มีศักยภาพในการพัฒนาและเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งทางด้านการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และการลงทุน จนเป็นเมืองเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในทางภาคเหนือ รองจากกรุงเทพมหานคร รวมไปถึงยังมีโรงพยาบาล หรือคลินิกต่าง ๆมากมายที่พร้อมจะรองรับนักท่องเที่ยวหรือ บุคคลที่สนใจเข้ามาท่องเที่ยวเชิงการแพทย์อีกด้วย เช่น โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม, คลินิกทันตกรรมเฉพาะทาง เดนทอลเวิร์ล, ศรินยา คลินิก เป็นต้น
สถานที่ยอดนิยมในจังหวัดเชียงใหม่
วัดพระธาตุดอยสุเทพ ถือว่าเป็นปูชนียสถานคู่เมืองเชียงใหม่มาตั้งแต่โบราณ ตั้งอยู่บนยอดดอยสุเทพ ซึ่งต้องแวะไปสักการะให้ได้เมื่อมาเยือนเชียงใหม่
ประตูท่าแพ เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเชียงใหม่ บริเวณประตูท่าแพจะเห็นแนวกำแพงเมืองเก่าซึ่งสร้างด้วยอิฐ มีความสวยงาม และเป็นเอกลักษณ์ บริเวณประตูท่าแพมีลานกว้างซึ่งใช้จัดงานเทศกาลต่าง ๆ และยังเป็นจุดเริ่มต้นของ ถนนคนเดินท่าแพ ซึ่งจัดขึ้นทุก ๆวันอาทิตย์อีกด้วย
วัดอุโมงค์ เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองชาวเชียงใหม่มานาน มีเอกลักษณ์สำคัญก็คือ อุโมงค์ ตามชื่อ ที่เป็นทางเดินให้นักท่องเที่ยวได้เดินเข้าไปไหว้พระขอพร ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองอีกด้วย
การเดินทางในจังหวัดเชียงใหม่
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมายังเชียงใหม่ได้โดยเครื่องบิน รถไฟ หรือรถโดยสารประจำทาง และการเดินทางในตัวเมืองเชียงใหม่เองก็สะดวกสบายแม้ไม่ได้มีรถยนต์ส่วนตัว เพราะบริเวณรอบ ๆ สนามบิน สถานีรถไฟ หรือสถานีขนส่งเชียงใหม่ จะมีรถสองแถวสีแดง ที่ชาวเชียงใหม่เรียกว่า “รถแดง”คอยให้บริการ หรือแม้กระทั่ง รถตุ๊กตุ๊ก รถแทกซี่ เป็นต้น
ประชากรหรือผู้คนในจังหวัดเชียงใหม่
เชียงใหม่ มีประชากรที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ไม่น้อยกว่าที่อื่น โดยมีชาว ไทยวน หรือคนเมือง คือกลุ่มคนกลุ่มใหญ่ที่อาศัยอยู่บริเวณภาคเหนือของประเทศไทย มีภาษาและวัฒนธรรมที่เป็นของตัวเอง เชียงใหม่จะมีความเป็นสังคมเมืองล้านนา โดยจะใช้ภาษาเมืองในการพูดสื่อสาร ชาวเชียงใหม่ส่วนใหญ่ มีอาชีพทางเกษตรกรรมทำนา ทำไร่ ทำสวน อาชีพใหญ่อันดับที่สองรองลงมาคือการท่องเที่ยว ทั้งงานที่เกี่ยวข้องโดย ตรงและทางอ้อม การพณิชย์และอุตสาหกรรมทั่วไปส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบของหัตถกรรม งานฝีมือและการแปรรูปสินค้าทางการเกษตร เป็นสองอาชีพหลักคนเชียงใหม่ในปัจจุบันนี้
สภาพภูมิอากาศในจังหวัดเชียงใหม่
เนื่องจากเชียงใหม่มีลักษณะภูมิประเทศโดยทั่วไปมีสภาพพื้นที่เป็นภูเขาและพื้นที่ราบลุ่มน้ำและที่ราบเชิงเขาโดยพื้นที่ภูเขา ทำให้มีอากาศค่อนข้างเย็นเกือบตลอดทั้งปี
อื่นๆ
ภาษา นอกจากมีภาษาไทยเป็นภาษาราชการแล้ว เชียงใหม่ยังมีภาษาท้องถิ่นซึ่งเรียกว่า ภาษาคำเมือง ซึ่งแต่ละถิ่นก็ยังมีสำเนียงที่แตกต่างกันออกไปอีกด้วย